"สุดารัตน์" ลงนามเพิกถอนทะเบียนยาน้ำนำเข้าตำรับแผนโยราณ ยี่ห้อเจี้ยนเซิน เนื่องจากเข้าข่ายยาปลอม หลังตรวจพบว่ามีสารกลุ่มยาไวอะกร้าเจือปน ไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค และสั่งเก็บออกจากท้องตลาดหมดแล้ว
นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ลงนาม เพิกถอนทะเบียนตำรับยาน้ำแผนโบราณชื่อ ยาน้ำเจี้ยนเชิน (Jianshen oral liquid) ทะเบียนตำรับเลขที่ เค 1/46 (K 1/46) ที่นำเข้าโดยบริษัทสตาร์ กัลฟ จำกัด โดยมีนายยิ่งยง วงศ์สุขศิริ เป็นผู้ได้รับอนุญาตดำเนินการ ตามใบอนุญาตเลขที่ 12/2544 ตั้งอยู่เลขที่ 28/18-21 ชั้นลอย ซอยสุขุมวิท 19 (ซอยวัฒนา) ถนนสุขุมวิท แขวง คลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เนื่องจากมีผลการตรวจวิเคราะห์จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่เก็บตรวจจากสถานที่ผลิต เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2547 และวันที่ 27 พฤษภาคม 2547 พบมีตัวยาซิลเดนาฟิล (Sildenafil) ซึ่งเป็นยาแผนปัจจุบันควบคุมพิเศษเจือปนอยู่ด้วย ไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและเข้าข่ายยาปลอมตาม พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 มาตราที่ 73(1) และ (4) เนื่องจากตามกฎหมายยา ยาน้ำแผนโบราณจะต้องไม่มียาแผนปัจจุบันเจือปนใดๆ ทั้งสิ้น มีผลตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2548 และได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ดำเนินการเก็บยาน้ำเจี้ยนเซินออกจากท้องตลาดทั้งหมดแล้ว
ทางด้านศ.ดร.ภักดี โพธิศิริ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อ.ย.) กล่าวว่า อ.ย.ได้เฝ้าระวัง เก็บตัวอย่างยาจากท้องตลาดมาวิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะยาแผนโบราณ ที่ผ่านมาพบว่าสิ่งที่เจือปนอันตรายส่วนใหญ่จะตรวจพบสารสเตียรอยด์ ซึ่งเป็นยาครอบจักรวาล รักษาอาการเจ็บป่วยได้หลายอย่าง หากใช้ไปนานๆ จะเป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะการทำงานของไต และระบบภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำลง
ในส่วนของของยาน้ำเจี้ยนเชิน ได้ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เมื่อพ.ศ. 2546 เป็นยาตำรับจีนสรรพคุณบำรุงร่างกาย ซึ่งผลการตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการทั้ง 2 ครั้งพบว่ามีสารซิลเดนนาฟิล ซึ่งเป็นชื่อสามัญของยาไวอะกร้า ใช้เป็นสารกระตุ้นพลังทางเพศในกลุ่มที่มีปัญหาเสื่อมทางสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย อาจทำให้หัวใจวายและเสียชีวิตในที่สุด เป็นยาที่กระทรวงสาธารณสุขควบคุมพิเศษตามประกาศกระทรวง สาธารณสุข ฉบับที่ 21 ประกาศ ณ วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2542 ทั้งนี้ จากการตรวจสอบการขายยาน้ำดังกล่าวของบริษัทผู้นำเข้า ได้จำหน่ายเพียง 2 รุ่นผลิต รุ่นแรกจำหน่ายหมดนานหลายเดือนแล้ว ส่วนรุ่นที่ตรวจพบได้นำเข้ามาเมื่อปลายปีพ.ศ. 2546 ซึ่งคณะกรรมการยาได้พิจารณาให้เพิกถอนทะเบียนตำรับ
นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ลงนาม เพิกถอนทะเบียนตำรับยาน้ำแผนโบราณชื่อ ยาน้ำเจี้ยนเชิน (Jianshen oral liquid) ทะเบียนตำรับเลขที่ เค 1/46 (K 1/46) ที่นำเข้าโดยบริษัทสตาร์ กัลฟ จำกัด โดยมีนายยิ่งยง วงศ์สุขศิริ เป็นผู้ได้รับอนุญาตดำเนินการ ตามใบอนุญาตเลขที่ 12/2544 ตั้งอยู่เลขที่ 28/18-21 ชั้นลอย ซอยสุขุมวิท 19 (ซอยวัฒนา) ถนนสุขุมวิท แขวง คลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เนื่องจากมีผลการตรวจวิเคราะห์จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่เก็บตรวจจากสถานที่ผลิต เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2547 และวันที่ 27 พฤษภาคม 2547 พบมีตัวยาซิลเดนาฟิล (Sildenafil) ซึ่งเป็นยาแผนปัจจุบันควบคุมพิเศษเจือปนอยู่ด้วย ไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและเข้าข่ายยาปลอมตาม พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 มาตราที่ 73(1) และ (4) เนื่องจากตามกฎหมายยา ยาน้ำแผนโบราณจะต้องไม่มียาแผนปัจจุบันเจือปนใดๆ ทั้งสิ้น มีผลตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2548 และได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ดำเนินการเก็บยาน้ำเจี้ยนเซินออกจากท้องตลาดทั้งหมดแล้ว
ทางด้านศ.ดร.ภักดี โพธิศิริ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อ.ย.) กล่าวว่า อ.ย.ได้เฝ้าระวัง เก็บตัวอย่างยาจากท้องตลาดมาวิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะยาแผนโบราณ ที่ผ่านมาพบว่าสิ่งที่เจือปนอันตรายส่วนใหญ่จะตรวจพบสารสเตียรอยด์ ซึ่งเป็นยาครอบจักรวาล รักษาอาการเจ็บป่วยได้หลายอย่าง หากใช้ไปนานๆ จะเป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะการทำงานของไต และระบบภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำลง
ในส่วนของของยาน้ำเจี้ยนเชิน ได้ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เมื่อพ.ศ. 2546 เป็นยาตำรับจีนสรรพคุณบำรุงร่างกาย ซึ่งผลการตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการทั้ง 2 ครั้งพบว่ามีสารซิลเดนนาฟิล ซึ่งเป็นชื่อสามัญของยาไวอะกร้า ใช้เป็นสารกระตุ้นพลังทางเพศในกลุ่มที่มีปัญหาเสื่อมทางสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย อาจทำให้หัวใจวายและเสียชีวิตในที่สุด เป็นยาที่กระทรวงสาธารณสุขควบคุมพิเศษตามประกาศกระทรวง สาธารณสุข ฉบับที่ 21 ประกาศ ณ วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2542 ทั้งนี้ จากการตรวจสอบการขายยาน้ำดังกล่าวของบริษัทผู้นำเข้า ได้จำหน่ายเพียง 2 รุ่นผลิต รุ่นแรกจำหน่ายหมดนานหลายเดือนแล้ว ส่วนรุ่นที่ตรวจพบได้นำเข้ามาเมื่อปลายปีพ.ศ. 2546 ซึ่งคณะกรรมการยาได้พิจารณาให้เพิกถอนทะเบียนตำรับ