xs
xsm
sm
md
lg

ศิลปะ ดนตรีคือ “ปุ๋ยดี”ของสมอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ใครที่อยากให้เยาวชนไทยมีสมองที่ดีในทุกด้านต้องฟังทางนี้ ผศ.ดร.อุษณีย์ อนุรุทธ์วงศ์ รองประธานสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้ที่มีความสามารถพิเศษ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เขียนบทความเรื่องนี้ขึ้นมา ด้วยหวังให้พ่อ แม่ ครูทุกคนได้เข้าใจประโยชน์ของวิชาศิลปะและดนตรีให้มากขึ้น

โดยกล่าวไว้ว่า…อยากให้สถาบันครอบครัว โรงเรียนเห็นความสำคัญในวิชาศิลปะและดนตรีให้มากกว่าสาขาอื่น เพราะเหตุว่าที่บ้านก็ดีที่โรงเรียนก็ดี ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับศิลปะและดนตรีมากเท่าที่ควร ทั้งๆ ที่เป็นปุ๋ยอันล้ำเลิศที่จะปลูกต้นไม้แห่งความคิดและช่วยพัฒนาจิตใจเด็กให้งดงาม อ่อนไหว ถ้าหากปล่อยไว้จนถึงชั้นมัธยม ศักยภาพที่มีที่มีอยู่กับมนุษย์ตั้งแต่เกิดอาจหลงเหลืออยู่น้อยเต็มที

กว่า 20 ปีที่เราเริ่มเข้าใจถึงการทำงานของสมองสองซีกว่า สมองสองข้างทำงานต่างกัน แต่ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ในขณะที่หลักสูตร สังคมก็ดี พยายามจะส่งเสริมความสามารถเฉพาะบางเสี้ยว อาทิภาษาคณิตศาสตร์ และวิชาอื่นๆ ที่วัดได้ชั่งได้ ดูเหมือนจะถูก “โปรโมท” เสียจนลืมความสามารถอื่น ที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าไปกว่ากัน คือในส่วนของจินตนาการและการสร้างสรรค์

ดังนั้นศิลปะและดนตรีสำหรับเด็กอาจจะพิจารณาเป็น 3 ลักษณะคือ 1. การสอนศิลปะและดนตรีเพื่อสุนทรียภาพ และช่วยพัฒนาสมองเด็กให้สมบูรณ์ขึ้น ศิลปะและดนตรีจะเป็นสื่อกระตุ้นให้เด็กทั้งหลายมีจิตใจซาบซึ้งกับความงดงามของจินตนาการและกระตุ้นพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ ที่จะต้องมีจินตนาการอันล้ำลึกเป็นตัวเกื้อหนุน 2 . การใช้ศิลปะและดนตรีเพื่อบำบัดอาการทางสมอง อาการทางจิต เช่นเด็กสมาธิสั้น เด็กออทิสติก เด็กที่มีความก้าวร้าว 3. ศิลปะและดนตรีสำหรับลูกที่มีแววศิลปิน เฉพาะเด็กบางคนอาจมีศักยภาพสูง มีพลังและพรสวรรค์อันเป็นเลิศพอที่จะเป็นศรีปราชญ์ ไมเคิล แองเจโล พระเจนดุริยางค์ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้ในอนาคต

ศิลปะและดนตรีกับการพัฒนาเด็ก
ศิลปะดนตรีเป็น “น้ำทิพย์”จำเป็นสำหรับบ่มเพาะสมองให้งอกงาม และเพิ่มพลังแห่งจินตนาการ หลายคนเชื่อว่ามันเป็นวิธีเพาะบ่มญาณปัญญา (Intuition)อันวิเศษเสียด้วยซ้ำไป

เพราะทั้งศิลปะและดนตรีช่วยปลดปล่อยคนให้อิสระและอยู่ใกล้ชิดจิตและวิญญาณของตนเองได้ง่ายถ้าถูกสอนอย่างสร้างสรรค์ ดังนั้นศิลปะดนตรีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเด็กทุกคน และจำเป็นมากที่สุดสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน และนักเรียนในระดับประถมศึกษา หลักสูตรการดนตรีที่สร้างสรรค์ควรจะถูกฝึกฟื้นในโรงเรียนมากกว่าที่เป็นอยู่ แล้วเราจะได้เยาวชนที่มีจิตใจงดงามเฉลียวฉลาดกว่าที่ผ่านๆ มา

นอกจากนั้นเมื่อเล่นดนตรี ยังช่วยทำให้สมองสองด้านทำงานประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะอารมณ์สุนทรีย์ เกี่ยวข้องกับการทำงานของสมองซีกขวา ในขณะที่การอ่านโน้ตเพลงก็คือการถอดรหัส เมื่อเราถอดรหัสภาษาใดก็แล้วแต่ เราจะใช้สมองซีกซ้าย ดังนั้นเมื่อเด็กเล่นดนตรีด้วยความสุขและมีอารมณ์สัมพันธ์กับเพลงเด็กจึงใช้สมองทั้งสองข้าง

ศิลปะและดนตรีเพื่อการบำบัด
มีเด็กกลุ่มหนึ่งที่มีความบกพร่องบอกช้ำจากสภาพทางกาย ทางใจ อะไรก็ตามที่เด็กเหล่านี้ต้องการได้รับความช่วยเหลือทางใดทางหนึ่งจากแพทย์ นักจิตวิทยา นักการศึกษาพิเศษ อาการบางประเภทต้องรักษาด้วยยา บางประเภทรักษาด้วยการจัดสภาพแวดล้อม จัดระบบการเรียนรู้แบบใหม่ และบางรายอาจใช้ศิลปะหรือดนตรีช่วยบำบัด เพราะเด็กบางคนเก็บความทุกข์เป็นความเครียดไว้ หากได้ระบายออกมาโดยอยู่ภายใต้คำแนะนำจาผู้ชำนาญการ ก็จะช่วยให้เด็กมีอาการดีขึ้น เพราะทั้งศิลปะและดนตรี เป็นวิธีการทางธรรมชาติที่จะช่วยให้เด็กสามารถระบายความรู้สึกเก็บกดต่างๆ ที่อยู่ภายในใจออกมาได้ ทำให้เกิดการผ่อนคลาย และเมื่อเด็กเกิดความผ่อนคลายก็จะมีความพร้อมที่จะเรียนรู้และพัฒนาต่อไปอีก

เรื่องศิลปะ ดนตรีคือ “ปุ๋ยดี” ของสมอง ติดตามอ่านได้ในสัปดาห์หน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น