กรมควบคุมโรคแอ่นอกรับประกัน พร้อมฟันธงเด็กชายที่พิจิตรไม่ได้ป่วยเป็น “ไข้หวัดนก” แต่ติดหวัดจากเชื้อแบคทีเรีย เผยขณะนี้อาการดีขึ้นหลังแพทย์ให้ยาปฏิชีวนะ
นพ.ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหนังสือพิมพ์รายงานข่าวว่า มีเด็กชาย วัย 10 ขวบ และ 11 ขวบ ที่จังหวัดพิจิตร 2 ราย ป่วยมีไข้อยู่ในข่ายต้องสงสัยติดเชื้อไข้หวัดนก และนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพิจิตรนั้น จากการตรวจสอบข้อมูลจากโรงพยาบาลพิจิตร พบมีเด็กรักษาเพียง 1 รายเท่านั้น คือ เด็กชายอายุ 11 ขวบ รายนี้มีประวัติที่บ้านเลี้ยงไก่ไว้ 5 ตัว ต่อมาไก่ตาย 1 ตัว เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2548 ส่วนอีก 4 ตัวยังมีชีวิตอยู่
ทั้งนี้ จากการสอบสวนโรคพบว่า เด็กรายนี้ได้ทำการฝังไก่ตายด้วยตนเอง ต่อมาเริ่มมีอาการป่วย มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีเสมหะขาวข้น มีอาการหนาวสั่น ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ และไปรักษาที่โรงพยาบาลพิจิตร เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2548 แพทย์ได้ทำการเอกซเรย์ปอด พบว่าปกติดี ตรวจเลือดในเบื้องต้นพบปริมาณเม็ดเลือดขาวสูงมากถึง 256,000 เซลล์ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร และทดสอบเชื้อไขหวัดใหญ่เบื้องต้นด้วยชุดทดสอบให้ผลลบ ชี้ให้เห็นว่ารายนี้ไม่ได้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ อาการเข้าข่ายมาทางติดเชื้อแบคทีเรียเนื่องจากเม็ดเลือดขาวสูง จึงให้การวินิจฉัยเบื้องต้นเป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจทั่วไป
สำหรับอาการในวันนี้นั้น เด็กดีขึ้นหลังจากได้รับยาปฏิชีวนะ ไข้ลดลง คาดว่าจะกลับบ้านได้ใน 1-2 วันนี้ และไก่ที่ตายไม่ได้ตายจากไข้หวัดนก โดยพื้นที่อำเภอเมืองที่เด็กอยู่ไม่ใช่พื้นที่ระบาด ดังนั้น ข่าวทั้งหมดที่เกิดขึ้น จึงเป็นแค่กระแสข่าวลือเท่านั้น
สำหรับสถานการณ์ทั่วไปของโรคไข้หวัดนก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 จนถึงขณะนี้ ยังไม่พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดนก จึงขอให้ประชาชนไม่ต้องวิตกกังวล และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข โดยออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอเพื่อสร้างภูมิต้านทานโรค และเมื่อมีไก่ป่วย ไก่ตาย ในบ้านอย่านำมาบริโภค ขอให้ฝังกลบอย่างถูกวิธี และใส่เครื่องมือป้องกันตนเองเมื่อสัมผัสซากไก่ รวมทั้งแจ้งให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทราบโดยด่วน เพื่อเข้าสู่ระบบการเฝ้าระวัง ควบคุมโรคอย่างมีประสิทธิภาพ
นพ.ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหนังสือพิมพ์รายงานข่าวว่า มีเด็กชาย วัย 10 ขวบ และ 11 ขวบ ที่จังหวัดพิจิตร 2 ราย ป่วยมีไข้อยู่ในข่ายต้องสงสัยติดเชื้อไข้หวัดนก และนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพิจิตรนั้น จากการตรวจสอบข้อมูลจากโรงพยาบาลพิจิตร พบมีเด็กรักษาเพียง 1 รายเท่านั้น คือ เด็กชายอายุ 11 ขวบ รายนี้มีประวัติที่บ้านเลี้ยงไก่ไว้ 5 ตัว ต่อมาไก่ตาย 1 ตัว เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2548 ส่วนอีก 4 ตัวยังมีชีวิตอยู่
ทั้งนี้ จากการสอบสวนโรคพบว่า เด็กรายนี้ได้ทำการฝังไก่ตายด้วยตนเอง ต่อมาเริ่มมีอาการป่วย มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีเสมหะขาวข้น มีอาการหนาวสั่น ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ และไปรักษาที่โรงพยาบาลพิจิตร เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2548 แพทย์ได้ทำการเอกซเรย์ปอด พบว่าปกติดี ตรวจเลือดในเบื้องต้นพบปริมาณเม็ดเลือดขาวสูงมากถึง 256,000 เซลล์ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร และทดสอบเชื้อไขหวัดใหญ่เบื้องต้นด้วยชุดทดสอบให้ผลลบ ชี้ให้เห็นว่ารายนี้ไม่ได้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ อาการเข้าข่ายมาทางติดเชื้อแบคทีเรียเนื่องจากเม็ดเลือดขาวสูง จึงให้การวินิจฉัยเบื้องต้นเป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจทั่วไป
สำหรับอาการในวันนี้นั้น เด็กดีขึ้นหลังจากได้รับยาปฏิชีวนะ ไข้ลดลง คาดว่าจะกลับบ้านได้ใน 1-2 วันนี้ และไก่ที่ตายไม่ได้ตายจากไข้หวัดนก โดยพื้นที่อำเภอเมืองที่เด็กอยู่ไม่ใช่พื้นที่ระบาด ดังนั้น ข่าวทั้งหมดที่เกิดขึ้น จึงเป็นแค่กระแสข่าวลือเท่านั้น
สำหรับสถานการณ์ทั่วไปของโรคไข้หวัดนก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 จนถึงขณะนี้ ยังไม่พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดนก จึงขอให้ประชาชนไม่ต้องวิตกกังวล และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข โดยออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอเพื่อสร้างภูมิต้านทานโรค และเมื่อมีไก่ป่วย ไก่ตาย ในบ้านอย่านำมาบริโภค ขอให้ฝังกลบอย่างถูกวิธี และใส่เครื่องมือป้องกันตนเองเมื่อสัมผัสซากไก่ รวมทั้งแจ้งให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทราบโดยด่วน เพื่อเข้าสู่ระบบการเฝ้าระวัง ควบคุมโรคอย่างมีประสิทธิภาพ