xs
xsm
sm
md
lg

บำบัดผู้ติดยาบ้าด้วยสมุนไพร ส่งผลรู้สึกผิดชอบชั่วดีมากขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อาจารย์พยาบาล มอ. ศึกษาการบำบัดรักษาผู้เสพยาบ้าและประสิทธิภาพของการบำบัดรักษาด้วยสมุนไพร ณ วัดไม้เสียบ จ.นครศรีธรรมราช พบผู้รับการบำบัดมีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงขึ้น มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี มีความหวังและกำลังใจมากขึ้น

ผศ.อุไร ศรีแก้ว และ ผศ.ถนอมศรี อินทนนท์ อาจารย์คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) ได้ทำการวิจัยเชิงคุณภาพเรื่องการบำบัดรักษาผู้เสพยาบ้าโดยใช้ภูมิปัญญาไทย ณ วัดไม้เสียบ อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีพระครูประดิษฐ์วรการ เป็นเจ้าอาวาส เพื่อศึกษารูปแบบการบำบัดรักษาผู้เสพยาบ้าและประสิทธิผลของการบำบัดรักษา

โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้รับบริการ จำนวน 62 รายที่พักบำบัดรักษาในวัด โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มที่ 1 ผู้รับการบำบัดรักษา เป็นเวลา 7-14 วัน จำนวน 22 ราย กลุ่มที่ 2 ผู้รับการบำบัด รักษาเป็นเวลา 45 วัน หรือ 1 คอร์ส จำนวน 19 ราย กลุ่มที่ 3 เป็นผู้รับการบำบัดรักษามาแล้ว 90 วัน หรือ 2 คอร์ส จำนวน 21 ราย

ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการรักษาผู้เสพยาบ้า โดยใช้ภูมิปัญญาไทยมี 3 ลักษณะ คือ 1. การควบคุมความประพฤติด้วยกฎระเบียบวินัยข้อบังคับ ได้แก่ การตรงต่อเวลา ความรับผิดชอบ การปกครองกันเอง การเคร่งครัดต่อการรักษา การทำโทษเมื่อทำผิดกฎระเบียบการตรวจสอบยาเสพติด 2. การฟื้นฟูสุขภาพร่างกายด้วยสมุนไพรมี 3 ชนิด คือ ยาลูกกลอน ยาต้มสมุนไพรรับประทานและยาสมุนไพรอบตัว ยาสมุนไพรมีฤทธิ์ระบาย ช่วยเจริญอาหารและช่วยให้นอนหลับ บำรุงโลหิตและขับพิษ 3. การฟื้นฟูจิตสังคมและจิตวิญญาณ ด้วยกิจกรรมทางศาสนา ได้แก่ การสวดมนต์ อบรม ฟังธรรม ท่องบท

ผศ.อุไร เปิดเผยผลการวิจัยว่า จากการให้ผู้เสพยาบ้ารับประทานยาสมุนไพรทั้ง 3 กลุ่ม มีการเปลี่ยนแปลงไปในลักษณะทิศทางเดียวกัน คือ มีอาการดีขึ้นในเรื่องการขับถ่าย การรับประทานอาหาร ความแข็งแรงของร่างกาย จิตใจ อารมณ์ การนอนหลับ ผิวพรรณ และไม่อยากยา ส่วนการอบสมุนไพร ผลการศึกษาทั้ง 3 กลุ่ม หายใจคล่องและโล่ง ขับของเสียออกทางเหงื่อ สุขสบาย ผิวพรรณดีขึ้น ไม่มีอาการขาดยา ผลการรักษาด้วยศาสนา ทั้ง 3 กลุ่ม มีการเปลี่ยนแปลงไปในลักษณะเดียวกัน คือ จิตใจสงบขึ้น รู้สึกผิด และสำนึกผิด ผลการบำบัดรักษาโดยรวม ผู้รับการบำบัดรักษาประเมินว่าร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงขึ้น น้ำหนักเพิ่มขึ้น มีความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น การรักษาจะมีผลดีต่อการเปลี่ยนแปลงเกิดความรับผิดชอบ ความหวังและกำลังใจมากขึ้น

ผศ.อุไร กล่าวถึงประสบการณ์ที่ได้รับของผู้วิจัย คือ รู้สึกเห็นใจ เข้าใจ วัดได้ช่วยแบ่งเบาความทุกข์ของพ่อแม่ ผู้ติดยาบางคนพักอยู่ที่วัดเป็นปี เขาเรียกว่า “พักเครื่อง” เพื่อบรรเทาการถูกทำลายของสมอง และฟื้นฟูสภาพร่างกายจิตใจ และผู้ปกครองและรัฐก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

“เริ่มแรกที่เข้าไปรู้สึกกลัวและไม่ปลอดภัย แต่เมื่อได้พูดคุย แล้วพบว่า เขาก็เป็นคนดีมีความน่ารัก เด็กบางคนดูบริสุทธิ์มาก สังคมต้องการดูแลสอดส่องและช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด” ผศ.อุไร กล่าว

ส่วนวัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่สำหรับดูงานและทัศนศึกษาด้านการป้องกันการติดยาเสพติดให้กับนักเรียนกลุ่มต่าง ๆ มีการบรรยายจากประสบการณ์จริงของผู้ติดยา ในรูปแบบต่าง ๆ นับว่าวัดมีประโยชน์กับสังคมมาก โดยเฉพาะในภาคใต้ที่มีการรักษาของเอกชนน้อยกว่าในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ เจ้าอาวาสยังได้นำผู้ป่วยติดยาบ้าที่ญาติทอดทิ้ง มาดูแลที่ฟื้นฟู ณ วัดเขาพระทอง อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช อีกด้วย และในวันที่ 23 พฤษภาคม จะนำงานวิจัยไปเสนอในการประชุมสมาคมพยาบาลนานาชาติ ครั้งที่ 23 ณ กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน
กำลังโหลดความคิดเห็น