“WHO” ห่วงปัญหาสุขภาพจิต หลังมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น แนะดึงชุมชนมีส่วนร่วมฟื้นฟูสภาพจิตใจผู้ได้รับผลกระทบ
นพ.สำลี เปลี่ยนบางช้าง ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (WHO-SEARO) กล่าวถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ ว่ารู้สึกเป็นห่วงสุขภาพจิต เนื่องจากเหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลกระทบด้านจิตใจกับผู้ประสบภัย ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาองค์การอนามัยโลกระบุว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นมีความรุนแรงมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ เนื่องจากสภาพจิตใจผู้รอดชีวิตจะต้องประสบกับความรู้สึกสูญเสียทั้งบ้านเรือน และทรัพย์สินที่ตามมา จำต้องได้รับการรักษาเยียวยาอย่างเร่งด่วน
“หลายคนที่ประสบกับเหตุการณ์ บางคนยอมรับสภาพที่ตามมาได้ แต่ยังมีอีกจำนวนมากที่ไม่สามารถรับได้ ซึ่งคนกลุ่มนี้จะมีพฤติกรรมซึมเศร้า นั่งร้องไห้ตลอดทั้งวัน จะต้องได้รับการช่วยเหลือและดูแลในระยะยาว มิฉะนั้นคนกลุ่มนี้จะมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ลงไปมากกว่านี้ ซึ่งจะทำให้ปัญหารุนแรงเพิ่มมากขึ้น” นพ.สำลี กล่าว
นพ.สำลี กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งนี้ ก่อให้เกิดปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านจิตวิทยา ซึ่งในจังหวัดอาเจะ ประเทศอินโดนีเซีย ในโรงพยาบาลจิตเวชแห่งหนึ่งเคยมีแพทย์ และนักจิตวิทยาร่วม 100 คน แต่หลังเหตุการณ์กลับเหลือแพทย์เพียงแค่คนเดียว รวมไปถึงพยาบาลและเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นทางองค์การอนามัยโลกจึงเสนอว่า ควรให้ชุมชนเข้ามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสุขภาพจิต
ด้าน นพ.วีเจ จันทรา ที่ปรึกษาองค์การอนามัยโลกภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้านสุขภาพจิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางองค์การอนามัยโลกได้มีการอบรมเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาสุขภาพจิต เพื่อดึงชุมชนหันมาให้ความสนใจในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติมากขึ้นในกรณีที่มีข้อจำกัดด้านบุคลากร จำเป็นที่ชุมชนต้องช่วยเหลือกันเองเบื้องต้น
“องค์การอนามัยโลกได้เร่งทำแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านสุขภาพจิต โดยให้ชุมชนเข้ามีส่วนร่วม ทั้งนี้จะเน้นไปยังกลุ่มเด็ก ผู้หญิงและผู้สูงอายุ รวมทั้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส อย่างไรก็ตามไม่เห็นด้วยกับการนำนักจิตวิทยาต่างประเทศเข้าดูแลสุขภาพจิตผู้ประสบภัย เพราะจะไม่เข้าใจในเรื่องวัฒนธรรม แต่ควรให้คนชุมชนช่วยเหลือกัน ซึ่งจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด” ที่ปรึกษาองค์การอนามัยโลก ฯ ด้านสุขภาพจิต กล่าว
ขณะนี้ทางองค์การอนามัยโลกได้ส่งผู้เชียวชาญไปยังประเทศศรีลังกา และอินโดนีเซีย เพื่อดูแลผู้ประสบภัยแล้ว
ขณะที่ น.ส.อาภาลักษณ์ ปาติยเสวี โฆษกองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า ในส่วนของประเทศไทยนั้น พบว่าขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กรมสุขภาพจิตได้ระดมเจ้าหน้าที่ลงไปยังพื้นที่ประสบภัยเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูจิตใจผู้ได้รับผลกระทบ โดยได้สำรวจสภาพจิตใจ เพื่อวางแผนในการช่วยเหลือ
ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ดูสภาพจิตใจผู้ที่ประสบภัยพบว่า ขณะนี้เริ่มมีผู้ที่รอดชีวิตบางส่วนเริ่มมีพฤติกรรมโทษตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้ และมีความรู้สึกไม่อยากอยู่ในโลกนี้ ซึ่งคนกลุ่มนี้ต้องได้รับการรักษาแลโดยเร็ว และดูแลอย่างใกล้ชิด
นพ.สำลี เปลี่ยนบางช้าง ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (WHO-SEARO) กล่าวถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ ว่ารู้สึกเป็นห่วงสุขภาพจิต เนื่องจากเหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลกระทบด้านจิตใจกับผู้ประสบภัย ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาองค์การอนามัยโลกระบุว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นมีความรุนแรงมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ เนื่องจากสภาพจิตใจผู้รอดชีวิตจะต้องประสบกับความรู้สึกสูญเสียทั้งบ้านเรือน และทรัพย์สินที่ตามมา จำต้องได้รับการรักษาเยียวยาอย่างเร่งด่วน
“หลายคนที่ประสบกับเหตุการณ์ บางคนยอมรับสภาพที่ตามมาได้ แต่ยังมีอีกจำนวนมากที่ไม่สามารถรับได้ ซึ่งคนกลุ่มนี้จะมีพฤติกรรมซึมเศร้า นั่งร้องไห้ตลอดทั้งวัน จะต้องได้รับการช่วยเหลือและดูแลในระยะยาว มิฉะนั้นคนกลุ่มนี้จะมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ลงไปมากกว่านี้ ซึ่งจะทำให้ปัญหารุนแรงเพิ่มมากขึ้น” นพ.สำลี กล่าว
นพ.สำลี กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งนี้ ก่อให้เกิดปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านจิตวิทยา ซึ่งในจังหวัดอาเจะ ประเทศอินโดนีเซีย ในโรงพยาบาลจิตเวชแห่งหนึ่งเคยมีแพทย์ และนักจิตวิทยาร่วม 100 คน แต่หลังเหตุการณ์กลับเหลือแพทย์เพียงแค่คนเดียว รวมไปถึงพยาบาลและเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นทางองค์การอนามัยโลกจึงเสนอว่า ควรให้ชุมชนเข้ามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสุขภาพจิต
ด้าน นพ.วีเจ จันทรา ที่ปรึกษาองค์การอนามัยโลกภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้านสุขภาพจิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางองค์การอนามัยโลกได้มีการอบรมเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาสุขภาพจิต เพื่อดึงชุมชนหันมาให้ความสนใจในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติมากขึ้นในกรณีที่มีข้อจำกัดด้านบุคลากร จำเป็นที่ชุมชนต้องช่วยเหลือกันเองเบื้องต้น
“องค์การอนามัยโลกได้เร่งทำแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านสุขภาพจิต โดยให้ชุมชนเข้ามีส่วนร่วม ทั้งนี้จะเน้นไปยังกลุ่มเด็ก ผู้หญิงและผู้สูงอายุ รวมทั้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส อย่างไรก็ตามไม่เห็นด้วยกับการนำนักจิตวิทยาต่างประเทศเข้าดูแลสุขภาพจิตผู้ประสบภัย เพราะจะไม่เข้าใจในเรื่องวัฒนธรรม แต่ควรให้คนชุมชนช่วยเหลือกัน ซึ่งจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด” ที่ปรึกษาองค์การอนามัยโลก ฯ ด้านสุขภาพจิต กล่าว
ขณะนี้ทางองค์การอนามัยโลกได้ส่งผู้เชียวชาญไปยังประเทศศรีลังกา และอินโดนีเซีย เพื่อดูแลผู้ประสบภัยแล้ว
ขณะที่ น.ส.อาภาลักษณ์ ปาติยเสวี โฆษกองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า ในส่วนของประเทศไทยนั้น พบว่าขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กรมสุขภาพจิตได้ระดมเจ้าหน้าที่ลงไปยังพื้นที่ประสบภัยเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูจิตใจผู้ได้รับผลกระทบ โดยได้สำรวจสภาพจิตใจ เพื่อวางแผนในการช่วยเหลือ
ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ดูสภาพจิตใจผู้ที่ประสบภัยพบว่า ขณะนี้เริ่มมีผู้ที่รอดชีวิตบางส่วนเริ่มมีพฤติกรรมโทษตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้ และมีความรู้สึกไม่อยากอยู่ในโลกนี้ ซึ่งคนกลุ่มนี้ต้องได้รับการรักษาแลโดยเร็ว และดูแลอย่างใกล้ชิด