ผู้ประกอบธุรกิจสปาภูเก็ต ดันมาตรการฟื้นฟู 4 ระยะหวั่นฟุบยาว หลังพ้นวิกฤตสึนามิ วอนรัฐเร่งรณรงค์ประชาสัมพันธ์มากกว่าการบริจาค หมอเพ็ญ กลัวต่างชาติชุบมือเปิบ อาศัยช่วงเซ ดึงหมดนวดฝีมือดีเกลี้ยง นักธุรกิจเผยข่าวผีสึนามิตัวการทำลายการท่องเที่ยว ขณะที่หลายฝ่ายหวั่นคนตกงานหันสู่ธุรกิจค้ากาม
นายวัฒน์ สว่างแจ้ง รองประธานชมรมธุรกิจสปา กล่าวระหว่างการประชุมระดมความเห็นกับสมาคมธุรกิจสปา จ.ภูเก็ต มูลนิธิการแพทย์แผนไทย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ว่า จากเหตุภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิถล่ม 6 จังหวัดอันดามัน ทำให้นักท่องเที่ยวไม่มั่นใจและไม่กล้ามาโดยเฉพาะภูเก็ตก่อนเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากสร้างรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวนมหาศาล จึงอยากให้รัฐบาลและสื่อมวลชนเสนอภาพลักษณ์ด้านดี เพื่อดึงนักท่องเที่ยวกลับคืนมา ซึ่งความเป็นจริงภูเก็ตได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะเดียวกันภายใต้วิกฤต ธรรมชาติก็นำความสวยงามกลับคืนมาให้กลับภูเก็ตมากขึ้นกว่าเดิม เรียกได้ว่าขณะนี้ทุกหาดสวยสะอาดเหมือนเมื่อ 30 ปีก่อน ขณะที่ผู้ให้บริการก็มีความพร้อมเช่นเดิมโดยเฉพาะธุรกิจสปา ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก
นายวัฒน์ กล่าวต่อว่า ชมรมธุรกิจสปา ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้หารือแนวทางการฟื้นฟูภูเก็ต โดยเบื้องต้นแบ่งออกเป็น 4 ระยะ คือ 1 การแก้ไขภาพลักษณ์ เผยแพร่ภาพที่แท้จริงของ จ.ภูเก็ต 2. จัดเชิญฝึกอบรมหมอนวดไทยให้เกิดความเชี่ยวชาญ เพื่อคนเหล่านี้จะกลายเป็นผู้ฝึกอบรมได้เองในอนาคต 3.เปิดโอกาสให้มีการอบรมหมอนวดแผนไทยคนใหม่ๆ เข้ามา 4.ส่งเสริมให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และเผยแพร่การนวดไทยและแพทย์แผนไทยไปทั่วโลก
ทั้งนี้ ชมรมธุรกิจสปาได้กล่าวสรุปภาพร่วมธุรกิจสปาว่า ได้ก่อตั้งชมรมเมื่อ 3 ปี ที่แล้วมีสมาชิกทั้งสิ้น 71 ราย สร้างรายได้และงานอย่างครบวงจรกว่า 3,000 ชีวิต มีรายได้เข้าประเทศปีละ 3,000 ล้านบาท มีเงินหมุนเวียน 1,000 ล้านต่อเดือน ซึ่งเงินเหล่านี้กระจายไปสู่รากหญ้า เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นก็เกิดเป็นผลกระทบดังโดมิโนซึ่งจะปรากฏให้เห็นชัดเจนในอีก 2 เดือนข้างหน้า
“สิ่งที่ไม่เคยจะเกิดในภูเก็ตอย่างขอทานจะเกิดขึ้น และหลังจากนี้ 1-2 เดือน คนที่ไม่มีงานทำแต่ต้องเลี้ยงดูครอบครัวจะย่ำแย่ ซึ่งที่พูดนี้ไม่ได้ดูถูกผู้หญิงหรือผู้ชายแต่ในอนาคตอันใกล้การหันเข้าสู่ธุรกิจการค้าบริการเพื่อหารายได้เข้าครอบครัวจะเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลควรให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน”นายวัฒน์กล่าว
นายพัฒนพงษ์ เอกวาณิช นายกสมาคมท่องเที่ยวภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากเกิดภัยธรรมชาติธุรกิจโรงแรมและสปาได้รับการเสียหายบางส่วนคงต้องฟื้นฟูดูแล ซึ่งไม่เกิน 2 เดือน ก็สามารถดำเนินการได้เชื่อว่าภายใน 1 เดือนนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจะกลับเข้ามาเหมือนเดิมซึ่งต้องดำเนินการควบคู่ไปกับประชาสัมพันธ์ให้ความั่นใจเพราะการสูญเสียไม่ใช่แค่ธุรกิจสปา แต่เกี่ยวเนื่องถึงธุรกิจปากท้องของคนรากหญ้า เช่น ร้านดอกไม้ ฯลฯ ทำให้รายได้ลงรากหญ้าลดลงไปด้วย ซึ่งขณะนี้กำลังจะมีการจัดระเบียบชายหาดป่าตอง และหาดกมลาให้เข้าที่เข้าทาง เตียงร่มผ้าใบที่เคยทำลายภูมิทัศน์ก็จะลดลง อีกทั้งในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี แขกจะเข้ามาจองโรงแรมกว่า 50% แต่วันนี้เหลือไม่ถึง 10% เงินหายไปจากระบบ 10,000 ล้านบาทต่อเดือน โรงแรมเล็กๆ ต้องปิดตัวหลายแห่งซึ่งน่าเป็นห่วงมาก
นายพัฒนพงษ์ กล่าวต่อว่า ระบบการตลาดซึ่งตนได้ดูแลมาตลอด สัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้ขอความร่วมมือไปยังสมาคมท่องเที่ยว สายการบิน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดทำแพ็คเกจ ให้คนต่างประเทศใช้บริการสปาในราคาพิเศษ เป็นที่น่ายินดีว่า ในฮ่องกงเราสามารถขายบัตรที่นั่งได้ 10,000 ที่นั่ง ภายใน 3 วัน ตอนนี้ประเทศคู่แข่งขยับลดราคาบ้างแล้วเพื่อดึงกลุ่มนักท่องเที่ยว ส่วนประเทศลูกค้ารายใหญ่อย่าง สวีเดน อังกฤษ เยอรมันก็ตอบรับว่าจะกลับมาเที่ยวในเดือนหน้า เช่นเดียวกับสิงค์โปร
“ต้องยอมรับว่า ข่าวผีสึนามิทำลายการท่องเที่ยวอย่างมหาศาลโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวเอเชียนั้นกลัวผี รวมกึงคนไทยเองก็ไม่มาเที่ยวด้วย ทางสมาคมธุรกิจก็พยายามทำพิธีปัดรังควาญ อุทิศส่วนกุศล ให้กับผู้เสียชีวิต ให้ไปที่ชอบๆ คิดว่าน่าจะสร้างความมั่นใจได้ แต่ส่วนตัวแล้วไม่เชื่อ และอยากวิงวอนสื่อให้เลิกนำเสนอข่าวนี้ได้แล้ว”นายพัฒนพงษ์
นายสมบูรณ์ ไอยลักษณ์ ที่ปรึกษาชมรมธุรกิจสปา กล่าวว่า ในฐานะที่อยู่ในภูเก็ตมานานและเห็นความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยืนยันว่าทะเลและหาดทรายในปัจจุบันสวยสะอาดที่สุดในรอบ 30 ปี เรื่องระบบการบำบัดน้ำเสียก็ดีขึ้น นอกจากนี้จะมีการจัดระเบียบผังเมืองใหม่ยิ่งเป็นโอกาสที่ภูเก็ตจะดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาซึ่ง ตนอยากเสนอรัฐบาลดังนี้ 1.ให้มาการทัวร์ทำบุญเพื่อสร้างความเชื่อมันให้กับนักท่องเที่ยว 2.บริษัทเอกชนต้องทำแพ็คเกจทัวร์ลดราคาในบางส่วนแต่ไม่ลดคุณภาพ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้นักเรียนได้มาเที่ยวเพื่อดูความเป็นจริงหลังเกิดเหตุสึนามิว่ามีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น ไม่ใช่รับรู้แต่สึนามิคือภัยพิบัติทำลายล้าง นอกจากนี้ การประชุมสัมมนา ที่หน่วยราชการชอบจัดช่วงปลายปีงบประมาณก็ขอให้จัดในช่วงนี้เลย โดยที่กระทรวงการคลังต้องช่วยในการยกเว้นภาษีการจัดประชุมขณะเดียวกันก็ควรเปิดโอกาสให้นักวิชาการได้มาสำรวจ 3 จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ เพื่อทำวิจัย ประชาสัมพันธ์ต่อสาธารณ ขณะเดียวกันก็อยากเห็นกระทรวงแรงงานเข้ามาดูแลแรงงาน 20,000 คน ในระบบธุรกิจสปาโรงแรม พร้อมทั้งคูณด้วยสมาชิกในครอบครัว 4 คนก็ถือเป็นจำนวนมากทีเดียวที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัตินี้ ในส่วนของนักธุรกิจ ขณะนี้ก็มีหนี้ บางรายถึงกับหมดตัวธนาคารก็ควรจะมีมาตรการพักชำระหนี้และยืดเวลาชำระหนี้ด้วย เพราะเมื่อธนาคารอยู่ได้ธุรกิจก็อยู่ได้เป็นการเกื้อหนุนกัน ตนขอร้องรัฐบาลอย่าใช้มาตรการไฟไหม้ฟาง หรือผักชีโรยหน้าเพราะทุกอย่างจะเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม
พญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ รองอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ ในฐานะเลขาธิการมูลนิธิแพทย์แผนไทย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุภัยพิบัติภาพลักษณ์ภูเก็ตในสายตาชาวโลกนั้น เกิดความเสียหายย่อยยับ แต่ความจริงไม่ใช่แต่ธุรกิจโรงแรมและสปาเสียหายไม่มาก ใช้เวลาซ่อมบำรุงไม่นาน ซึ่งตรงนี้เป็นเหตุคู่แข่งในต่างประเทศฉวยจังหวะนี้ เสนอค่าตอบแทนให้กับหมอนวดไทยที่มีฝีมือให้ไปทำงานในธุรกิจของตัวเอง ถึงเวลานั้นประเทศไทยก็จะไม่มีหมอนวดฝีมือชั้นครูไว้ในในระบบ ทางออกสำหรับเรื่องนี้รัฐควรสนับสนุนจัดการอบรมพัฒนาครูฝึกเพื่อผลิตหมอนวดไทยเข้าสู่ระบบให้มากๆ เพราะประเทศไทยมีต้นทุนทางสังคมอยู่แล้วทำให้ผู้ให้บริการได้เปรียบ การที่คนไทยช่างยิ้มแย้มเป็นเสน่ห์ของเมืองไทยถือเป็นอันดับหนึ่งของโลก เมื่อประกอบกับโครงสร้างพื้นฐานซึ่งไม่เป็นรองใครจึงทำให้ธุรกิจได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ดังนั้นต่างประเทศจึงจ้องเอาจุดนี้ไปใช้แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เร่งสร้างภาพลักษณ์ให้กับมาเหมือนเดิม นอกจากนี้ในส่วนของกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ จะจัดงานอเมซิ่งสปาไทยที่กรุงเทพฯ แต่ตนคิดว่าจะยกงานดังกล่าวมาไว้ที่ภูเก็ตโดยกำหนดการจัดจะหารืออีกครั้ง คาดว่างานนี้จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาได้อย่างมาก
นายวัฒน์ สว่างแจ้ง รองประธานชมรมธุรกิจสปา กล่าวระหว่างการประชุมระดมความเห็นกับสมาคมธุรกิจสปา จ.ภูเก็ต มูลนิธิการแพทย์แผนไทย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ว่า จากเหตุภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิถล่ม 6 จังหวัดอันดามัน ทำให้นักท่องเที่ยวไม่มั่นใจและไม่กล้ามาโดยเฉพาะภูเก็ตก่อนเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากสร้างรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวนมหาศาล จึงอยากให้รัฐบาลและสื่อมวลชนเสนอภาพลักษณ์ด้านดี เพื่อดึงนักท่องเที่ยวกลับคืนมา ซึ่งความเป็นจริงภูเก็ตได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะเดียวกันภายใต้วิกฤต ธรรมชาติก็นำความสวยงามกลับคืนมาให้กลับภูเก็ตมากขึ้นกว่าเดิม เรียกได้ว่าขณะนี้ทุกหาดสวยสะอาดเหมือนเมื่อ 30 ปีก่อน ขณะที่ผู้ให้บริการก็มีความพร้อมเช่นเดิมโดยเฉพาะธุรกิจสปา ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก
นายวัฒน์ กล่าวต่อว่า ชมรมธุรกิจสปา ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้หารือแนวทางการฟื้นฟูภูเก็ต โดยเบื้องต้นแบ่งออกเป็น 4 ระยะ คือ 1 การแก้ไขภาพลักษณ์ เผยแพร่ภาพที่แท้จริงของ จ.ภูเก็ต 2. จัดเชิญฝึกอบรมหมอนวดไทยให้เกิดความเชี่ยวชาญ เพื่อคนเหล่านี้จะกลายเป็นผู้ฝึกอบรมได้เองในอนาคต 3.เปิดโอกาสให้มีการอบรมหมอนวดแผนไทยคนใหม่ๆ เข้ามา 4.ส่งเสริมให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และเผยแพร่การนวดไทยและแพทย์แผนไทยไปทั่วโลก
ทั้งนี้ ชมรมธุรกิจสปาได้กล่าวสรุปภาพร่วมธุรกิจสปาว่า ได้ก่อตั้งชมรมเมื่อ 3 ปี ที่แล้วมีสมาชิกทั้งสิ้น 71 ราย สร้างรายได้และงานอย่างครบวงจรกว่า 3,000 ชีวิต มีรายได้เข้าประเทศปีละ 3,000 ล้านบาท มีเงินหมุนเวียน 1,000 ล้านต่อเดือน ซึ่งเงินเหล่านี้กระจายไปสู่รากหญ้า เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นก็เกิดเป็นผลกระทบดังโดมิโนซึ่งจะปรากฏให้เห็นชัดเจนในอีก 2 เดือนข้างหน้า
“สิ่งที่ไม่เคยจะเกิดในภูเก็ตอย่างขอทานจะเกิดขึ้น และหลังจากนี้ 1-2 เดือน คนที่ไม่มีงานทำแต่ต้องเลี้ยงดูครอบครัวจะย่ำแย่ ซึ่งที่พูดนี้ไม่ได้ดูถูกผู้หญิงหรือผู้ชายแต่ในอนาคตอันใกล้การหันเข้าสู่ธุรกิจการค้าบริการเพื่อหารายได้เข้าครอบครัวจะเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลควรให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน”นายวัฒน์กล่าว
นายพัฒนพงษ์ เอกวาณิช นายกสมาคมท่องเที่ยวภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากเกิดภัยธรรมชาติธุรกิจโรงแรมและสปาได้รับการเสียหายบางส่วนคงต้องฟื้นฟูดูแล ซึ่งไม่เกิน 2 เดือน ก็สามารถดำเนินการได้เชื่อว่าภายใน 1 เดือนนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจะกลับเข้ามาเหมือนเดิมซึ่งต้องดำเนินการควบคู่ไปกับประชาสัมพันธ์ให้ความั่นใจเพราะการสูญเสียไม่ใช่แค่ธุรกิจสปา แต่เกี่ยวเนื่องถึงธุรกิจปากท้องของคนรากหญ้า เช่น ร้านดอกไม้ ฯลฯ ทำให้รายได้ลงรากหญ้าลดลงไปด้วย ซึ่งขณะนี้กำลังจะมีการจัดระเบียบชายหาดป่าตอง และหาดกมลาให้เข้าที่เข้าทาง เตียงร่มผ้าใบที่เคยทำลายภูมิทัศน์ก็จะลดลง อีกทั้งในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี แขกจะเข้ามาจองโรงแรมกว่า 50% แต่วันนี้เหลือไม่ถึง 10% เงินหายไปจากระบบ 10,000 ล้านบาทต่อเดือน โรงแรมเล็กๆ ต้องปิดตัวหลายแห่งซึ่งน่าเป็นห่วงมาก
นายพัฒนพงษ์ กล่าวต่อว่า ระบบการตลาดซึ่งตนได้ดูแลมาตลอด สัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้ขอความร่วมมือไปยังสมาคมท่องเที่ยว สายการบิน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดทำแพ็คเกจ ให้คนต่างประเทศใช้บริการสปาในราคาพิเศษ เป็นที่น่ายินดีว่า ในฮ่องกงเราสามารถขายบัตรที่นั่งได้ 10,000 ที่นั่ง ภายใน 3 วัน ตอนนี้ประเทศคู่แข่งขยับลดราคาบ้างแล้วเพื่อดึงกลุ่มนักท่องเที่ยว ส่วนประเทศลูกค้ารายใหญ่อย่าง สวีเดน อังกฤษ เยอรมันก็ตอบรับว่าจะกลับมาเที่ยวในเดือนหน้า เช่นเดียวกับสิงค์โปร
“ต้องยอมรับว่า ข่าวผีสึนามิทำลายการท่องเที่ยวอย่างมหาศาลโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวเอเชียนั้นกลัวผี รวมกึงคนไทยเองก็ไม่มาเที่ยวด้วย ทางสมาคมธุรกิจก็พยายามทำพิธีปัดรังควาญ อุทิศส่วนกุศล ให้กับผู้เสียชีวิต ให้ไปที่ชอบๆ คิดว่าน่าจะสร้างความมั่นใจได้ แต่ส่วนตัวแล้วไม่เชื่อ และอยากวิงวอนสื่อให้เลิกนำเสนอข่าวนี้ได้แล้ว”นายพัฒนพงษ์
นายสมบูรณ์ ไอยลักษณ์ ที่ปรึกษาชมรมธุรกิจสปา กล่าวว่า ในฐานะที่อยู่ในภูเก็ตมานานและเห็นความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยืนยันว่าทะเลและหาดทรายในปัจจุบันสวยสะอาดที่สุดในรอบ 30 ปี เรื่องระบบการบำบัดน้ำเสียก็ดีขึ้น นอกจากนี้จะมีการจัดระเบียบผังเมืองใหม่ยิ่งเป็นโอกาสที่ภูเก็ตจะดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาซึ่ง ตนอยากเสนอรัฐบาลดังนี้ 1.ให้มาการทัวร์ทำบุญเพื่อสร้างความเชื่อมันให้กับนักท่องเที่ยว 2.บริษัทเอกชนต้องทำแพ็คเกจทัวร์ลดราคาในบางส่วนแต่ไม่ลดคุณภาพ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้นักเรียนได้มาเที่ยวเพื่อดูความเป็นจริงหลังเกิดเหตุสึนามิว่ามีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น ไม่ใช่รับรู้แต่สึนามิคือภัยพิบัติทำลายล้าง นอกจากนี้ การประชุมสัมมนา ที่หน่วยราชการชอบจัดช่วงปลายปีงบประมาณก็ขอให้จัดในช่วงนี้เลย โดยที่กระทรวงการคลังต้องช่วยในการยกเว้นภาษีการจัดประชุมขณะเดียวกันก็ควรเปิดโอกาสให้นักวิชาการได้มาสำรวจ 3 จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ เพื่อทำวิจัย ประชาสัมพันธ์ต่อสาธารณ ขณะเดียวกันก็อยากเห็นกระทรวงแรงงานเข้ามาดูแลแรงงาน 20,000 คน ในระบบธุรกิจสปาโรงแรม พร้อมทั้งคูณด้วยสมาชิกในครอบครัว 4 คนก็ถือเป็นจำนวนมากทีเดียวที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัตินี้ ในส่วนของนักธุรกิจ ขณะนี้ก็มีหนี้ บางรายถึงกับหมดตัวธนาคารก็ควรจะมีมาตรการพักชำระหนี้และยืดเวลาชำระหนี้ด้วย เพราะเมื่อธนาคารอยู่ได้ธุรกิจก็อยู่ได้เป็นการเกื้อหนุนกัน ตนขอร้องรัฐบาลอย่าใช้มาตรการไฟไหม้ฟาง หรือผักชีโรยหน้าเพราะทุกอย่างจะเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม
พญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ รองอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ ในฐานะเลขาธิการมูลนิธิแพทย์แผนไทย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุภัยพิบัติภาพลักษณ์ภูเก็ตในสายตาชาวโลกนั้น เกิดความเสียหายย่อยยับ แต่ความจริงไม่ใช่แต่ธุรกิจโรงแรมและสปาเสียหายไม่มาก ใช้เวลาซ่อมบำรุงไม่นาน ซึ่งตรงนี้เป็นเหตุคู่แข่งในต่างประเทศฉวยจังหวะนี้ เสนอค่าตอบแทนให้กับหมอนวดไทยที่มีฝีมือให้ไปทำงานในธุรกิจของตัวเอง ถึงเวลานั้นประเทศไทยก็จะไม่มีหมอนวดฝีมือชั้นครูไว้ในในระบบ ทางออกสำหรับเรื่องนี้รัฐควรสนับสนุนจัดการอบรมพัฒนาครูฝึกเพื่อผลิตหมอนวดไทยเข้าสู่ระบบให้มากๆ เพราะประเทศไทยมีต้นทุนทางสังคมอยู่แล้วทำให้ผู้ให้บริการได้เปรียบ การที่คนไทยช่างยิ้มแย้มเป็นเสน่ห์ของเมืองไทยถือเป็นอันดับหนึ่งของโลก เมื่อประกอบกับโครงสร้างพื้นฐานซึ่งไม่เป็นรองใครจึงทำให้ธุรกิจได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ดังนั้นต่างประเทศจึงจ้องเอาจุดนี้ไปใช้แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เร่งสร้างภาพลักษณ์ให้กับมาเหมือนเดิม นอกจากนี้ในส่วนของกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ จะจัดงานอเมซิ่งสปาไทยที่กรุงเทพฯ แต่ตนคิดว่าจะยกงานดังกล่าวมาไว้ที่ภูเก็ตโดยกำหนดการจัดจะหารืออีกครั้ง คาดว่างานนี้จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาได้อย่างมาก