ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์เปิดผลสำรวจความในใจเด็กด้อยโอกาส ระบุชัดวันเด็กเหมือนวันอื่นๆไม่มีความสำคัญ สะท้อนคำขวัญวันเด็กของนายกฯ ทำตามไม่ได้เพราะไม่ได้เรียนหนังสือ สิ่งที่อยากได้มากที่สุดคือเงินและวัตถุ ขอให้พ่อแม่เลิกทำร้ายทุบตี ขอให้ครอบครัวมีความสุข ขณะที่สิ่งที่ต้องการจากรัฐบาลคือทุนการศึกษา บ้าน และรายได้เสริม ส่วนบุคคลที่ชื่นชอบได้แก่ เบิร์ด ธงไชย นายกฯทักษิณ และ สรยุทธ์
วันที่ 6 มกราคม 2547 ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นของเด็กด้อยโอกาสในเรื่อง “วันเด็กกับความในใจของเด็กด้อยโอกาส” จากเยาวชน 854 คน เป็นชาย 435 คน หญิง 419 คน กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 75 กำลังศึกษาอยู่ และร้อยละ 25 ไม่ได้ศึกษาแล้ว โดยที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 73 อาศัยอยู่ในชุมชนแออัด ร้อยละ 17 อาศัยอยู่บริเวณบ้านพักคนงานก่อสร้างและร้อยละ 10 เป็นเด็กเร่ร่อน โดยมีการสำรวจในวันที่ 29-30 ธันวาคม 2547
ผลการสำรวจพบว่า เด็กด้อยโอกาสส่วนใหญ่คือ ร้อยละ 55 ระบุว่า วันเด็กไม่มีความสำคัญต่อพวกเขามากไปกว่าวันอื่นๆ ในขณะที่ร้อยละ 45 ระบุว่า วันเด็กเป็นวันที่มีความสำคัญมากกว่าวันอื่น ๆ เนื่องจาก ได้สนุกสนาน ได้ของขวัญ ได้ไปเที่ยว เป็นวันที่ทุกคนหันมาสนใจเด็ก และได้แสดงออก ได้ทำกิจกรรม
ในส่วนของคำขวัญวันเด็ก พ.ศ. 2548 ที่ว่า “เด็กรุ่นใหม่ต้องขยันอ่าน ขยันเรียน กล้าคิดกล้าพูด” นั้น ร้อยละ 88 บอกว่า สามารถทำตามคำขวัญดังกล่าวได้ ในขณะที่ร้อยละ 12 บอกว่า ทำตามไม่ได้ เนื่องจาก ไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่ชอบอ่านหนังสือ ขี้เกียจเรียนหนังสือ และเป็นคนไม่กล้าพูด
สำหรับวันเด็กที่จะถึงนี้ สถานที่ที่เด็กด้อยโอกาสอยากไปเที่ยวมากที่สุด คือ สวนสนุก รองลงมา คือ ทะเล ต่างจังหวัด สวนสัตว์ สถานที่สำคัญ เช่น พระบรมมหาราชวัง พิพิธภัณฑ์ ท้องฟ้าจำลอง รัฐสภา ห้างสรรพสินค้า ภูเขา/น้ำตก ต่างประเทศ สวนสาธารณะ อยู่บ้านกับครอบครัว
เมื่อถามว่าอนาคตโตขึ้นอยากเป็นอะไร เด็กด้อยโอกาสอยากเป็นทหาร/ตำรวจ นักร้อง/นักแสดง ครู/อาจารย์ เป็นแพทย์ นักธุรกิจ และนักการเมือง ตามลำดับ
หากขอพรวิเศษได้ 1 ข้อ สิ่งที่เด็กด้อยโอกาสขอมากที่สุด คือ เงินและวัตถุสิ่งของ (บ้าน รถ ของเล่น โทรศัพท์มือถือ) รองลงมา คือ ขอให้ครอบครัวมีความสุข มีสุขภาพแข็งแรง ขอให้ได้เรียนหนังสือ ขอให้พ่อแม่เลิกทำร้ายทุบตี ขอให้ภาคใต้มีแต่ความสุข ขอให้พ่อแม่มีงานทำที่ดีกว่านี้ และอื่น ๆ เช่น ขอให้โลกนี้ไม่มีคนจน ขอให้ไม่หิว ขอให้ได้ลองกินพิซซ่า ขอให้มีพ่อแม่เหมือนคนอื่นๆ และขอให้พ่อแม่ออกจากคุกเร็วๆ
ของขวัญวันเด็กที่กลุ่มเด็กด้อยโอกาสอยากได้จากรัฐบาลมากที่สุด คือ ทุนการศึกษา รองลงมา อยากได้ บ้าน อยากให้รัฐบาลหางานให้เด็กทำเพื่อมีรายได้เสริม ให้พาไปเที่ยว จัดให้มีสนามกีฬา/สนามเด็กเล่น หาอาชีพที่ดีกว่าเดิมให้พ่อแม่ทำ อยากได้อาหาร
บุคคลที่ชื่นชอบและอยากยึดถือเป็นแบบอย่างมากที่สุดนั้น ส่วนใหญ่ระบุว่า คือ พ่อแม่ นักร้อง/นักแสดง ครู/อาจารย์ นักการเมือง นักข่าว/พิธีกร
สำหรับนักร้อง/นักแสดงที่กลุ่มตัวอย่างระบุว่าชื่นชอบและยึดถือเป็นแบบอย่างมากที่สุด ได้แก่ ธงไชย แมคอินไตย์ รองลงมาได้แก่ สุวนันท์ คงยิ่ง และ ศรราม เทพพิทักษ์ ตามลำดับ
นักการเมืองที่ชื่นชอบ อันดับแรกคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รองลงมาได้แก่ นายชวน หลีกภัย นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน และนางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์
ส่วนนักข่าว/พิธีกร อันดับแรกคือ สรยุทธ สุทัศนะจินดา รองลงมาได้แก่ ไตรภพ ลิมปพัทธ์ และกิตติ สิงหาปัด
วันที่ 6 มกราคม 2547 ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นของเด็กด้อยโอกาสในเรื่อง “วันเด็กกับความในใจของเด็กด้อยโอกาส” จากเยาวชน 854 คน เป็นชาย 435 คน หญิง 419 คน กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 75 กำลังศึกษาอยู่ และร้อยละ 25 ไม่ได้ศึกษาแล้ว โดยที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 73 อาศัยอยู่ในชุมชนแออัด ร้อยละ 17 อาศัยอยู่บริเวณบ้านพักคนงานก่อสร้างและร้อยละ 10 เป็นเด็กเร่ร่อน โดยมีการสำรวจในวันที่ 29-30 ธันวาคม 2547
ผลการสำรวจพบว่า เด็กด้อยโอกาสส่วนใหญ่คือ ร้อยละ 55 ระบุว่า วันเด็กไม่มีความสำคัญต่อพวกเขามากไปกว่าวันอื่นๆ ในขณะที่ร้อยละ 45 ระบุว่า วันเด็กเป็นวันที่มีความสำคัญมากกว่าวันอื่น ๆ เนื่องจาก ได้สนุกสนาน ได้ของขวัญ ได้ไปเที่ยว เป็นวันที่ทุกคนหันมาสนใจเด็ก และได้แสดงออก ได้ทำกิจกรรม
ในส่วนของคำขวัญวันเด็ก พ.ศ. 2548 ที่ว่า “เด็กรุ่นใหม่ต้องขยันอ่าน ขยันเรียน กล้าคิดกล้าพูด” นั้น ร้อยละ 88 บอกว่า สามารถทำตามคำขวัญดังกล่าวได้ ในขณะที่ร้อยละ 12 บอกว่า ทำตามไม่ได้ เนื่องจาก ไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่ชอบอ่านหนังสือ ขี้เกียจเรียนหนังสือ และเป็นคนไม่กล้าพูด
สำหรับวันเด็กที่จะถึงนี้ สถานที่ที่เด็กด้อยโอกาสอยากไปเที่ยวมากที่สุด คือ สวนสนุก รองลงมา คือ ทะเล ต่างจังหวัด สวนสัตว์ สถานที่สำคัญ เช่น พระบรมมหาราชวัง พิพิธภัณฑ์ ท้องฟ้าจำลอง รัฐสภา ห้างสรรพสินค้า ภูเขา/น้ำตก ต่างประเทศ สวนสาธารณะ อยู่บ้านกับครอบครัว
เมื่อถามว่าอนาคตโตขึ้นอยากเป็นอะไร เด็กด้อยโอกาสอยากเป็นทหาร/ตำรวจ นักร้อง/นักแสดง ครู/อาจารย์ เป็นแพทย์ นักธุรกิจ และนักการเมือง ตามลำดับ
หากขอพรวิเศษได้ 1 ข้อ สิ่งที่เด็กด้อยโอกาสขอมากที่สุด คือ เงินและวัตถุสิ่งของ (บ้าน รถ ของเล่น โทรศัพท์มือถือ) รองลงมา คือ ขอให้ครอบครัวมีความสุข มีสุขภาพแข็งแรง ขอให้ได้เรียนหนังสือ ขอให้พ่อแม่เลิกทำร้ายทุบตี ขอให้ภาคใต้มีแต่ความสุข ขอให้พ่อแม่มีงานทำที่ดีกว่านี้ และอื่น ๆ เช่น ขอให้โลกนี้ไม่มีคนจน ขอให้ไม่หิว ขอให้ได้ลองกินพิซซ่า ขอให้มีพ่อแม่เหมือนคนอื่นๆ และขอให้พ่อแม่ออกจากคุกเร็วๆ
ของขวัญวันเด็กที่กลุ่มเด็กด้อยโอกาสอยากได้จากรัฐบาลมากที่สุด คือ ทุนการศึกษา รองลงมา อยากได้ บ้าน อยากให้รัฐบาลหางานให้เด็กทำเพื่อมีรายได้เสริม ให้พาไปเที่ยว จัดให้มีสนามกีฬา/สนามเด็กเล่น หาอาชีพที่ดีกว่าเดิมให้พ่อแม่ทำ อยากได้อาหาร
บุคคลที่ชื่นชอบและอยากยึดถือเป็นแบบอย่างมากที่สุดนั้น ส่วนใหญ่ระบุว่า คือ พ่อแม่ นักร้อง/นักแสดง ครู/อาจารย์ นักการเมือง นักข่าว/พิธีกร
สำหรับนักร้อง/นักแสดงที่กลุ่มตัวอย่างระบุว่าชื่นชอบและยึดถือเป็นแบบอย่างมากที่สุด ได้แก่ ธงไชย แมคอินไตย์ รองลงมาได้แก่ สุวนันท์ คงยิ่ง และ ศรราม เทพพิทักษ์ ตามลำดับ
นักการเมืองที่ชื่นชอบ อันดับแรกคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รองลงมาได้แก่ นายชวน หลีกภัย นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน และนางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์
ส่วนนักข่าว/พิธีกร อันดับแรกคือ สรยุทธ สุทัศนะจินดา รองลงมาได้แก่ ไตรภพ ลิมปพัทธ์ และกิตติ สิงหาปัด