เป็นประเพณีปฏิบัติไปแล้วที่ทุก ๆ เทศกาล หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องจะต้องมานั่งนับศพว่าจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงจากปีที่ผ่าน ๆ มากี่มากน้อย ถ้าแบบตรงไปตรงมาก็ยังพออภัย แต่พ่อเมืองหลายจังหวัดก็ยังทำงามหน้าด้วยการไม่รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตเสียอย่างนั้น ด้วยเหตุผลข้อเดียวคือ กลัวโดนหมายหัวว่าไร้ประสิทธิภาพในการควบคุมอุบัติภัย เพราะดีไม่ดีถูกย้ายไป 3 จังหวัดชายแดนใต้ล่ะก็ยุ่งไปกันใหญ่

นิตยา จันทร์เรือง มหาผล ในฐานะประธานคณะทำงาน เพื่อดำเนินโครงการวิจัยความปลอดภัยทางด้านวิศวกรรม ของสภาวิศวกร ได้ทำการวิจัยจุดวิกฤตและสายทางที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยในช่วงเทศกาลย้อนหลังตั้งแต่ปี 2545-2546 พบว่า จุดที่เกิดอุบัติบ่อย ได้แก่ กม.136-138 ถ.มิตรภาพ ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
สาเหตุคือ ขับรถเร็วและอุปกรณ์บกพร่อง สภาพทางบริเวณจุดดังกล่าวเป็นทางลงเขาลาดชัน คดเคี้ยว รถจะลงมาด้วยความเร็วสูงทำให้เสียหลักไม่สามารถควบคุมได้และเมื่อมีอุบัติเหตุแล้วรถที่แล่นตามมาทางด้านหลังไม่สามารถหยุดรถหลบหลีกได้ทันและอุปกรณ์ของรถชำรุดบกพร่อง
สำหรับแนวทางแก้ไขคณะทำงานเสนอว่า ควรขยายช่องทางเพิ่มมากขึ้นไม่น้อยกว่า 2 ช่องทาง ติดตั้งป้ายขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นเด่นชัดก่อนผ่านจุดดังกล่าวไม่น้อยกว่า 1-2 กม.
จุดที่ 2 คือ กม.ที่ 76-77 ถ.พหลโยธิน ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา สาเหตุเพราะมีการกลับรถบริเวณดังกล่าวทำให้รถที่ลงเนินมาต้องเปลี่ยนช่องทาง ประกอบกับสภาพถนนเป็นทางโค้งมี 10 ช่องทางแบ่งเป็นขาเข้า 5 ช่องทาง ขาออก 5 ช่องทาง
แนวทางแก้ไขควรประสานแขวงการทางอยุธยาเพื่อพิจารณาป้ายเตือนให้ใช้ความระมัดระวัง “ข้างหน้าเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง” ตลอดจนซ่อมแซมพื้นผิวการจราจรที่ขรุขระ
จุดที่ 3 คือ กม.ที่ 66-67 ถ.เอเชีย ทางแยกเข้า ทล.356 ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา สาเหตุเนื่องจากบริเวณจุดกลับรถแห่งนี้ตรงกับทางเข้าออกทางหลวงหมายเลข 356 ซึ่งจะมีรถที่แล่นมาจากทางหลวงหมายเลข 347 ผ่านเพื่อเลี้ยวเข้า ถ.เอเชีย จะมีรถเข้าออกโดยฝ่าฝืนกฎจราจรด้วยการรอจังหวะเลี้ยวเข้าจุดกลับรถเพื่อมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ หรือรถที่อยู่ในบริเวณจุดกลับรถย้อนทางเพื่อเลี้ยวตัดรถ กระแสรถทางตรงเข้าทางหลวงหมายเลข 356 จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้รถเกิดเฉี่ยวชนกันบ่อยครั้ง

สภาพทางบริเวณดังกล่าวเป็นทางโค้งขาเข้า ผิวการจราจรไม่เรียบ ผู้ขับขี่รถเร็วเกินอัตราที่กำหนด ไม่ชะลอรถเมื่อถึงบริเวณทางร่วมแยก สภาพถนนแบ่งเป็น 1 ช่องจราจรสภาพทางหลวงหมายเลข 356 เป็นทางโค้งขาเข้า สภาพผิวถนนไม่เรียบถึงบริเวณทางร่วมแยก
สำหรับแนวทางแก้ไขนั้น ควรปิดจุดกลับรถแห่งนี้เป็นการถาวรต่อไป ซึ่งในเรื่องดังกล่าวนี้ได้มีหนังสือประสานไปครั้งหนึ่งแล้ว
จุดที่ 4 คือ กม.ที่ 152-153 ถ.เพชรเกษม ต.หัวสะพาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากขับรถเร็วและอุปกรณ์บกพร่อง สภาพถนนแบ่งเป็น 4 ช่องทางจราจร ทางโค้งมีสะพาน ทางแคบ มีกลับรถทั้งหัวและท้ายเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งเนื่องจากเป็นแหล่งชุมชน มีจักรยานยนต์และคนเดินผ่านไปมาโดยเฉพาะวันที่มีตลาดนัดมีรถจอดบนไหล่ทางบริเวณทางโค้ง
จุดที่ 5 คือ ถ.สุขุมวิท ทางหลวงหมายเลข 3 กม.129-130 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี สาเหตุเพราะมีการกลับรถบริเวณดังกล่าวทำให้รถที่ลงเนินมาต้องเปลี่ยนช่องทาง สภาพถนนเป็น 4 ช่องทางจราจร วิ่งสวนทางกันด้านละ 2 ช่องทางเป็นทางลงเนินและทางโค้งและมีจุดกลับรถบริเวณทางโค้ง ซึ่งทางแก้ควรปิดบริเวณจุดกลับรถดังกล่าวโดยให้ไปใช้จุดกลับรถถัดไป

จุดที่ 6 คือ ถ.สุขุมวิท ทางหลวงหมายเลข 3 กม.145-146 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สาเหตุที่เกิดอุบัติเนื่องจากรถที่ออกจากซอยและจะกลับรถบริเวณดังกล่าวตัดหน้ารถทางตรง สภาพถนนแบ่งเป็น 4 ช่องทางจราจร วิ่งสวนทางกันด้านละ 2 ช่องทาง มีซอยแยกและจุดกลับรถ แนวทางการแก้ปัญหาคือ รถที่ออกจากซอยดังกล่าวห้ามมิให้กลับรถในจุดดังกล่าวโดยให้ไปใช้จุดกลับรถถัดไป
จุดที่ 7 คือ ถ.สุขุมวิท ทางหลวงหมายเลข 3 กม.4-7 ถ.เลี่ยงเมืองชลบุรี ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี สาเหตุเพราะมีปริมาณรถเป็นจำนวนมากทั้งรถยนต์บรรทุกและรถยนต์ส่วนบุคคล เมื่อมีการเปลี่ยนช่องทางทำให้ชนท้ายกันบ่อยครั้ง ประกอบกับสภาพถนนซึ่งเป็น 4 ช่องทางจราจรวิ่งสวนทางกันด้านละ 2 ช่องทางสภาพผิวการจราจรชำรุดเป็นช่วง ๆ สำหรับแนวทางแก้ไขนั้น เนื่องจากปริมาณบริเวณดังกล่าวเป็นไปอย่างหนาแน่นควรที่จะขยายเพิ่มช่องทางจราจรให้เพียงพอกับปริมาณรถและบำรุงรักษาผิวการจราจรให้อยู่สภาพดีตลอดเวลา
จุดที่ 8 คือ จุดถ.สุขุมวิท ทางหลวงหมายเลข 344 กม. 6-7 ต.หนองรี อ.เมือง จ.ชลบุรี สาเหตุเพราะมีปริมาณรถหนาแน่นและมีจุดกลับรถประกอบกับไหล่ทางแคบ เมื่อมีรถจอดรอกลับทำให้เหลือช่องทางจราจรเพียงช่องทางเดียว สภาพถนนมี 4 ช่องทางจราจร วิ่งสวนทางกันด้านละ 2 ช่องทางและมีจุดกลับรถ แนวทางแก้ไขคือ ให้ติดตั้งป้ายเตือนและขยายไหล่ทางเพื่อเพิ่มช่องทางการจราจรบริเวณจุดกลับรถ
นิตยา จันทร์เรือง มหาผล ในฐานะประธานคณะทำงาน เพื่อดำเนินโครงการวิจัยความปลอดภัยทางด้านวิศวกรรม ของสภาวิศวกร ได้ทำการวิจัยจุดวิกฤตและสายทางที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยในช่วงเทศกาลย้อนหลังตั้งแต่ปี 2545-2546 พบว่า จุดที่เกิดอุบัติบ่อย ได้แก่ กม.136-138 ถ.มิตรภาพ ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
สาเหตุคือ ขับรถเร็วและอุปกรณ์บกพร่อง สภาพทางบริเวณจุดดังกล่าวเป็นทางลงเขาลาดชัน คดเคี้ยว รถจะลงมาด้วยความเร็วสูงทำให้เสียหลักไม่สามารถควบคุมได้และเมื่อมีอุบัติเหตุแล้วรถที่แล่นตามมาทางด้านหลังไม่สามารถหยุดรถหลบหลีกได้ทันและอุปกรณ์ของรถชำรุดบกพร่อง
สำหรับแนวทางแก้ไขคณะทำงานเสนอว่า ควรขยายช่องทางเพิ่มมากขึ้นไม่น้อยกว่า 2 ช่องทาง ติดตั้งป้ายขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นเด่นชัดก่อนผ่านจุดดังกล่าวไม่น้อยกว่า 1-2 กม.
จุดที่ 2 คือ กม.ที่ 76-77 ถ.พหลโยธิน ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา สาเหตุเพราะมีการกลับรถบริเวณดังกล่าวทำให้รถที่ลงเนินมาต้องเปลี่ยนช่องทาง ประกอบกับสภาพถนนเป็นทางโค้งมี 10 ช่องทางแบ่งเป็นขาเข้า 5 ช่องทาง ขาออก 5 ช่องทาง
แนวทางแก้ไขควรประสานแขวงการทางอยุธยาเพื่อพิจารณาป้ายเตือนให้ใช้ความระมัดระวัง “ข้างหน้าเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง” ตลอดจนซ่อมแซมพื้นผิวการจราจรที่ขรุขระ
จุดที่ 3 คือ กม.ที่ 66-67 ถ.เอเชีย ทางแยกเข้า ทล.356 ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา สาเหตุเนื่องจากบริเวณจุดกลับรถแห่งนี้ตรงกับทางเข้าออกทางหลวงหมายเลข 356 ซึ่งจะมีรถที่แล่นมาจากทางหลวงหมายเลข 347 ผ่านเพื่อเลี้ยวเข้า ถ.เอเชีย จะมีรถเข้าออกโดยฝ่าฝืนกฎจราจรด้วยการรอจังหวะเลี้ยวเข้าจุดกลับรถเพื่อมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ หรือรถที่อยู่ในบริเวณจุดกลับรถย้อนทางเพื่อเลี้ยวตัดรถ กระแสรถทางตรงเข้าทางหลวงหมายเลข 356 จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้รถเกิดเฉี่ยวชนกันบ่อยครั้ง
สภาพทางบริเวณดังกล่าวเป็นทางโค้งขาเข้า ผิวการจราจรไม่เรียบ ผู้ขับขี่รถเร็วเกินอัตราที่กำหนด ไม่ชะลอรถเมื่อถึงบริเวณทางร่วมแยก สภาพถนนแบ่งเป็น 1 ช่องจราจรสภาพทางหลวงหมายเลข 356 เป็นทางโค้งขาเข้า สภาพผิวถนนไม่เรียบถึงบริเวณทางร่วมแยก
สำหรับแนวทางแก้ไขนั้น ควรปิดจุดกลับรถแห่งนี้เป็นการถาวรต่อไป ซึ่งในเรื่องดังกล่าวนี้ได้มีหนังสือประสานไปครั้งหนึ่งแล้ว
จุดที่ 4 คือ กม.ที่ 152-153 ถ.เพชรเกษม ต.หัวสะพาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากขับรถเร็วและอุปกรณ์บกพร่อง สภาพถนนแบ่งเป็น 4 ช่องทางจราจร ทางโค้งมีสะพาน ทางแคบ มีกลับรถทั้งหัวและท้ายเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งเนื่องจากเป็นแหล่งชุมชน มีจักรยานยนต์และคนเดินผ่านไปมาโดยเฉพาะวันที่มีตลาดนัดมีรถจอดบนไหล่ทางบริเวณทางโค้ง
จุดที่ 5 คือ ถ.สุขุมวิท ทางหลวงหมายเลข 3 กม.129-130 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี สาเหตุเพราะมีการกลับรถบริเวณดังกล่าวทำให้รถที่ลงเนินมาต้องเปลี่ยนช่องทาง สภาพถนนเป็น 4 ช่องทางจราจร วิ่งสวนทางกันด้านละ 2 ช่องทางเป็นทางลงเนินและทางโค้งและมีจุดกลับรถบริเวณทางโค้ง ซึ่งทางแก้ควรปิดบริเวณจุดกลับรถดังกล่าวโดยให้ไปใช้จุดกลับรถถัดไป
จุดที่ 6 คือ ถ.สุขุมวิท ทางหลวงหมายเลข 3 กม.145-146 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สาเหตุที่เกิดอุบัติเนื่องจากรถที่ออกจากซอยและจะกลับรถบริเวณดังกล่าวตัดหน้ารถทางตรง สภาพถนนแบ่งเป็น 4 ช่องทางจราจร วิ่งสวนทางกันด้านละ 2 ช่องทาง มีซอยแยกและจุดกลับรถ แนวทางการแก้ปัญหาคือ รถที่ออกจากซอยดังกล่าวห้ามมิให้กลับรถในจุดดังกล่าวโดยให้ไปใช้จุดกลับรถถัดไป
จุดที่ 7 คือ ถ.สุขุมวิท ทางหลวงหมายเลข 3 กม.4-7 ถ.เลี่ยงเมืองชลบุรี ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี สาเหตุเพราะมีปริมาณรถเป็นจำนวนมากทั้งรถยนต์บรรทุกและรถยนต์ส่วนบุคคล เมื่อมีการเปลี่ยนช่องทางทำให้ชนท้ายกันบ่อยครั้ง ประกอบกับสภาพถนนซึ่งเป็น 4 ช่องทางจราจรวิ่งสวนทางกันด้านละ 2 ช่องทางสภาพผิวการจราจรชำรุดเป็นช่วง ๆ สำหรับแนวทางแก้ไขนั้น เนื่องจากปริมาณบริเวณดังกล่าวเป็นไปอย่างหนาแน่นควรที่จะขยายเพิ่มช่องทางจราจรให้เพียงพอกับปริมาณรถและบำรุงรักษาผิวการจราจรให้อยู่สภาพดีตลอดเวลา
จุดที่ 8 คือ จุดถ.สุขุมวิท ทางหลวงหมายเลข 344 กม. 6-7 ต.หนองรี อ.เมือง จ.ชลบุรี สาเหตุเพราะมีปริมาณรถหนาแน่นและมีจุดกลับรถประกอบกับไหล่ทางแคบ เมื่อมีรถจอดรอกลับทำให้เหลือช่องทางจราจรเพียงช่องทางเดียว สภาพถนนมี 4 ช่องทางจราจร วิ่งสวนทางกันด้านละ 2 ช่องทางและมีจุดกลับรถ แนวทางแก้ไขคือ ให้ติดตั้งป้ายเตือนและขยายไหล่ทางเพื่อเพิ่มช่องทางการจราจรบริเวณจุดกลับรถ
สายทางที่เกิดอุบัติเหตุตั้งแต่ 10 ครั้งขึ้นไป 1. ทางหลวงหมายเลข 3091 แยกทางหลวงหมายเลข 4 ต่อทางเทศบาลเมืองสมุทรสาครควบคุม 2.ทางหลวงหมายเลข 35 แยกทางหลวงหมายเลข 303 (ดาวคะนอง) –สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน 3.ทางหลวงหมายเลข 34 แยกทางหลวงหมายเลข 3 (บางนา) – กม.46+000 (ต่อเขตแขวงฯชลบุรี 1) 4.ทางหลวงหมายเลข 1 กม.213+454 (ต่อเขตแขวงฯอุทัยธานี)-จุดเริ่มทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ 5.ทางหลวงหมายเลข 108 ต่อเขตเทศบาลเชียงใหม่ควบคุม-สะพานแม่ขาน 6.ทางหลวงหมายเลข 35 สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน (ฝั่งตะวันตก) – กม.53+875 (ต่อเขตแขวงฯราชบุรี) 7.ทางหลวงหมายเลข 32 กม.102+000 (ต่อเขตแขวงฯ อยุธยา) – แยกเข้าสิงห์บุรี 8.ทางหลวงหมายเลข 4.ต่อทางของเทศบาลเมืองอ้อมน้อยควบคุม-กม.41+067 (ต่อเขตแขวงฯ ราชบุรี) 9.ทางหลวงหมาย 2 สระบุรี-มวกเหล็ก 10.ทางหลวงหมายเลข 11.สาพนลำน้ำไชยสถาน (ต่อแขวงฯลำพูน) – เชียงใหม่ 11.ทางหลวงหมายเลข 32 ทางแยกเข้าสิงห์บุรี-สี่แยกไปชัยนาท 12.ทางหลวงหมายเลข 107 ต่อเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ควบคุม – กม.37+000 (แม่มาลัย) 13.ทางหลวงหมายเลข 1 รังสิต-บางปะอิน (ต่อแขวงฯอยุธยา) 14.ทางหลวงหมายเลข 106 สามแยกดอนไชย – อ.ลี้ 15.ทางหลวงหมาย 3242 แยกทางหลวงหมายเลข 35 (สมุทรสาคร) – ธนบุรี (เอกชัย) 16.ทางหลวงหมายเลข 11 สามแยกดอยติ-ต่อแขวงฯ เชียงใหม่ 2 17.ทางหลวงหมายเลข 32 ต่อเขตแขวงฯ อยุธยา (บ่อโพง) – ทางแยกต่างระดับอ่างทอง 18.ทางหลวงหมายเลข 3310 ต่อทางของเทศบาลเมืองอ้อมน้อยควบคุม-พุทธมณฑล 19.ทางหลวงหมายเลข 108 สะพานแม่ขาน-สะพานห้วยอีลิง 20.ทางหลวงหมายเลข 3268 สำโรง-บางบ่อ 21.ทางหลวงหมายเลข 3 แยกเข้า ขลุง-ตราด 22.ทางหลวงหมายเลข 402 ต่อเขตเทศบาลภูเก็ตควบคุม-สี่แยกสะพานสารสิน 23.ทางหลวงหมายเลข 1 จุดสุดทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ทางแยกไปลาดยาว 24.ทางหลวงหมายเลข 4 ทางแยกไปปากพะยูน (ต่อเขตแขวงฯสตูล) – สามแยกท่ามิหรำ 25.ทางหลวงหมายเลข 106 บ้านปาง –บ้านแพะ 26.ทางหลวงหมายเลข 21 จุดสุดทางเลี่ยงเมืองเขาท่าเกย-หนองไผ่ 27.ทางหลวงหมายเลข 311 สิงห์บุรี-บรรจบทางหลวงหมายเลข 1 (ชัยนาท) 28.ทางหลวงหมายเลข 1006 ต่อเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ควบคุม-สันกำแพง 29. ทางหลวงหมายเลข 1072 แยกทางหลวงหมายเลข 1 (หนองเบน) –ลาดยาว 30.ทางหลวงหมายเลข 41 แยกทางหลวงหมายเลข 4 (พัทลุง) 31.ทางหลวงหมายเข 3454 บ้านท่าข้าม (ต่อเขตสน.บท สิงห์บุรี)-โพธิ์ทอง และ 32.ทางหลวงหมายเข 3256 แยกซอยอ่อนนุช (ลาดกระบัง) – บางพลี |