จิตแพทย์ชวนโอบกอดแสดงความรักความผูกพันต่อกัน ชวนพ่อแม่กอดลูก สื่อสารกันด้วยภาษากาย สร้างความรักความอบอุ่น ด้าน “จอห์น นูโว” ขอให้การกอดเป็นไปตามธรรมชาติ วอนพ่อทุกคนให้ความสำคัญกับครอบครัวและลูก
นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล จิตแพทย์ กล่าวว่า ผู้ชายหลายคนเปลี่ยนแปลงตนเอง เมื่อมีภรรยาและลูก เป็นผู้ใหญ่ เข้มแข็งขึ้น โดยธรรมชาติฮอร์โมนเพศชายจะกระตุ้นความรุนแรงและเซ็กส์ แต่เมื่อมีครอบครัว ภรรยาและลูก ความรู้สึกจะเปลี่ยนแปลง คือ อ่อนโยน ตนมีลูก 3 คน ลูกชายคนโตอายุ 17 ปี และลูกชาย 2 คน อายุ 12 ปี และ 11 ปี ซึ่งถือว่า มีคนคอยห่วงใยอยู่ที่บ้าน เป็นความรักความผูกพันกัน จะทำอะไรก็คิดหน้าคิดหลังมากขึ้น
ส่วนความหมายของการกอดอาจแบ่งได้ 2 ส่วน คือ แสดงความรักระหว่างพ่อ แม่ ลูก ญาติ ๆ และความรักระหว่างชาย หญิง ที่มีความเสน่หาต่อกัน คนโกรธกันจะทำร้ายกันไม่กอดกัน อย่างไรก็ตาม อ้อมกอดมีพลัง ให้ความอบอุ่นและกำลังใจ อยากให้พ่อแม่กอดลูก หรือลูก ๆ กอดพ่อแม่
นพ.สุกมล กล่าวว่า สิ่งที่จะสร้างความอบอุ่นในครอบครัวต้องสร้างขึ้นด้วยการสื่อสารด้วยถ้อยคำพูดและภาษาทางกาย ซึ่งการกอดถ่ายทอดความรู้สึกต่าง ๆ สู่กันได้ วัฒนธรรมไทยไม่ค่อยสัมผัสร่างกายเหมือนชาวยุโรปกอดจูบกัน เนื่องจากคนไทยสมัยก่อนเคี้ยวหมากไม่จูบกัน โอบกอดกันเพราะอยู่เมืองหนาวแต่ไทยอากาศร้อน ฝรั่งจับมือกันแต่ไทยไม่ทำ เพราะมีอาชีพเกษตรกรรมหันมาใช้การไหว้แทน เมื่อลูกโตขึ้นพ่อแม่คนไทยไม่กอดลูกเพราะมีค่านิยมที่ต่ำที่สูง อย่างดีที่สุด คือ กราบเท้าพ่อแม่ ทั้งที่ช่วงวัยเด็กแม่อุ้มลูกแนบอกให้นมพร้อมความรัก ความอบอุ่น
“เมื่อโตขึ้นห่างเหินการสัมผัสลูก ๆ ต้องมีเทคนิคในการเริ่มต้นกอด อาจฝึกว่ายน้ำให้ลูกเกิดการสัมผัสกัน หรือพูดกับลูกว่า คิดถึงกันขอกอดกันหน่อย วันนี้พ่อเหนื่อยมาก ขอพลังจากการกอดลูกหน่อย เป็นจุดเริ่มต้นของการถ่ายทอดพลังสร้างสรรค์ให้กันและกัน” นพ.สุกมล กล่าวและว่า ลูก ๆ ควรสัมผัสผู้สูงอายุด้วยการนวด เช่น นวดเข่า นวดขา นวดหัวไหล่เป็นการแสดงความรักผ่านการสัมผัส
นายจอห์น รัตนเวโรจน์ หรือ จอห์น นูโว ดารานักร้องพิธีกร ลูกครึ่งแม่ไทย-พ่ออังกฤษ กล่าวว่า เมื่อพระเจ้าให้โอกาสได้แต่งงานกับผู้หญิงที่รักและมีลูกอายุ 4 ปี ชื่อว่า น้องจัสติน ทำให้มีความอ่อนโยน มีความรับผิดชอบมากขึ้น คำว่า “แฟมิลี แมน” เป็นการเพิ่มศักดิ์ศรีให้กับผู้ชาย เป็นพ่อและสามีที่ดี เดิมช่วงเป็นวัยรุ่นจะค่อนข้างโผงผาง แต่ปัจจุบันจะอ่อนโยนขึ้น ทุกวันนี้ยังแสดงความรักต่อญาติ เพื่อน ๆ คุณพ่อคุณแม่ตลอด เพราะถือว่า เป็นเรื่องธรรมชาติ ปัจจุบันตนก็กอดเพื่อน รุ่นพี่ คนที่ทำงานด้วยกันเป็นเวลานาน แม้แต่ครูของลูกเพราะถือว่า เป็นคนที่ดูแลลูกของเราวันละ 5 ชั่วโมง
“ผมให้เวลากับครอบครัวเป็นหลัก ต้องกลับบ้านก่อนดวงอาทิตย์ตก เป็นช่วงดี ๆ ที่จะเกิดขึ้นช่วงนี้ การทำงานพิธีกร บริหารงานในบริษัท หรือเป็นนักแสดง งานหลักของผม คือ ครอบครัว ช่วง 5 โมงเย็นต้องรีบกลับบ้าน ชอบการถีบจักรยานเล่นกับลูก สนุกกับการอยู่กับครอบครัว ซื้อกับข้าว ไปดูหนังด้วยกัน” จอห์น นูโว กล่าว
นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล จิตแพทย์ กล่าวว่า ผู้ชายหลายคนเปลี่ยนแปลงตนเอง เมื่อมีภรรยาและลูก เป็นผู้ใหญ่ เข้มแข็งขึ้น โดยธรรมชาติฮอร์โมนเพศชายจะกระตุ้นความรุนแรงและเซ็กส์ แต่เมื่อมีครอบครัว ภรรยาและลูก ความรู้สึกจะเปลี่ยนแปลง คือ อ่อนโยน ตนมีลูก 3 คน ลูกชายคนโตอายุ 17 ปี และลูกชาย 2 คน อายุ 12 ปี และ 11 ปี ซึ่งถือว่า มีคนคอยห่วงใยอยู่ที่บ้าน เป็นความรักความผูกพันกัน จะทำอะไรก็คิดหน้าคิดหลังมากขึ้น
ส่วนความหมายของการกอดอาจแบ่งได้ 2 ส่วน คือ แสดงความรักระหว่างพ่อ แม่ ลูก ญาติ ๆ และความรักระหว่างชาย หญิง ที่มีความเสน่หาต่อกัน คนโกรธกันจะทำร้ายกันไม่กอดกัน อย่างไรก็ตาม อ้อมกอดมีพลัง ให้ความอบอุ่นและกำลังใจ อยากให้พ่อแม่กอดลูก หรือลูก ๆ กอดพ่อแม่
นพ.สุกมล กล่าวว่า สิ่งที่จะสร้างความอบอุ่นในครอบครัวต้องสร้างขึ้นด้วยการสื่อสารด้วยถ้อยคำพูดและภาษาทางกาย ซึ่งการกอดถ่ายทอดความรู้สึกต่าง ๆ สู่กันได้ วัฒนธรรมไทยไม่ค่อยสัมผัสร่างกายเหมือนชาวยุโรปกอดจูบกัน เนื่องจากคนไทยสมัยก่อนเคี้ยวหมากไม่จูบกัน โอบกอดกันเพราะอยู่เมืองหนาวแต่ไทยอากาศร้อน ฝรั่งจับมือกันแต่ไทยไม่ทำ เพราะมีอาชีพเกษตรกรรมหันมาใช้การไหว้แทน เมื่อลูกโตขึ้นพ่อแม่คนไทยไม่กอดลูกเพราะมีค่านิยมที่ต่ำที่สูง อย่างดีที่สุด คือ กราบเท้าพ่อแม่ ทั้งที่ช่วงวัยเด็กแม่อุ้มลูกแนบอกให้นมพร้อมความรัก ความอบอุ่น
“เมื่อโตขึ้นห่างเหินการสัมผัสลูก ๆ ต้องมีเทคนิคในการเริ่มต้นกอด อาจฝึกว่ายน้ำให้ลูกเกิดการสัมผัสกัน หรือพูดกับลูกว่า คิดถึงกันขอกอดกันหน่อย วันนี้พ่อเหนื่อยมาก ขอพลังจากการกอดลูกหน่อย เป็นจุดเริ่มต้นของการถ่ายทอดพลังสร้างสรรค์ให้กันและกัน” นพ.สุกมล กล่าวและว่า ลูก ๆ ควรสัมผัสผู้สูงอายุด้วยการนวด เช่น นวดเข่า นวดขา นวดหัวไหล่เป็นการแสดงความรักผ่านการสัมผัส
นายจอห์น รัตนเวโรจน์ หรือ จอห์น นูโว ดารานักร้องพิธีกร ลูกครึ่งแม่ไทย-พ่ออังกฤษ กล่าวว่า เมื่อพระเจ้าให้โอกาสได้แต่งงานกับผู้หญิงที่รักและมีลูกอายุ 4 ปี ชื่อว่า น้องจัสติน ทำให้มีความอ่อนโยน มีความรับผิดชอบมากขึ้น คำว่า “แฟมิลี แมน” เป็นการเพิ่มศักดิ์ศรีให้กับผู้ชาย เป็นพ่อและสามีที่ดี เดิมช่วงเป็นวัยรุ่นจะค่อนข้างโผงผาง แต่ปัจจุบันจะอ่อนโยนขึ้น ทุกวันนี้ยังแสดงความรักต่อญาติ เพื่อน ๆ คุณพ่อคุณแม่ตลอด เพราะถือว่า เป็นเรื่องธรรมชาติ ปัจจุบันตนก็กอดเพื่อน รุ่นพี่ คนที่ทำงานด้วยกันเป็นเวลานาน แม้แต่ครูของลูกเพราะถือว่า เป็นคนที่ดูแลลูกของเราวันละ 5 ชั่วโมง
“ผมให้เวลากับครอบครัวเป็นหลัก ต้องกลับบ้านก่อนดวงอาทิตย์ตก เป็นช่วงดี ๆ ที่จะเกิดขึ้นช่วงนี้ การทำงานพิธีกร บริหารงานในบริษัท หรือเป็นนักแสดง งานหลักของผม คือ ครอบครัว ช่วง 5 โมงเย็นต้องรีบกลับบ้าน ชอบการถีบจักรยานเล่นกับลูก สนุกกับการอยู่กับครอบครัว ซื้อกับข้าว ไปดูหนังด้วยกัน” จอห์น นูโว กล่าว