สธ. พร้อมรับคลื่นมหาชน 75,000 คน เต้นแอโรบิค “รวมพลคนเหลือง-ฟ้า”ที่สนามหลวง กระทรวงสาธารณสุข ประกาศความพร้อม 100% การจัดงานรวมพลังสร้างสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 3 ที่ท้องสนามหลวง มั่นใจคนร่วมงานเต็มพื้นที่ 75,000 คนจะได้รับความสะดวกทุกด้าน และได้ความรู้ด้านสุขภาพกลับไปเต็มที่ประชาชนที่ใส่เสื้อเหลืองหรือฟ้ามาร่วมงาน สามารถขึ้นรถเมล์ เรือข้ามฟากและรถไฟฟ้า ได้ฟรี
วันนี้ (17 พฤศจิกายน 2547) เวลา 13.30 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์วิชัย เทียนถาวร ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ร่วมกันแถลงข่าวความพร้อมการจัดงานมหกรรมรวมพลังสร้างสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 3 “รวมพลคนเหลือง-ฟ้า เทิดพระเกียรติ 5 ธันวามหาราชา 12 สิงหามหาราชินี” ซึ่งจะจัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 20-21 พฤศจิกายน 2547 โดยในกรุงเทพฯจัดที่ท้องสนามหลวง ว่า การจัดงานครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน ขณะนี้มีความพร้อมทุกด้านเต็มที่ 100% โดยการเต้นแอโรบิคในวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ท้องสนามหลวงได้เตรียมพื้นที่ไว้กว่า 60,000 ตารางเมตรรองรับคนออกกำลังกายได้ 75,000 คน
ขณะนี้มีประชาชนแจ้งชื่อล่วงหน้าแล้ว 73,000 คน ซึ่งในวันงานได้ตั้งจุดลงทะเบียนรับคนเพิ่มบริเวณหน้าศาลฎีกา และสนามหลวงฝั่งตรงข้ามวัดมหาธาตุ ตั้งแต่เวลา 09.00-14.00 น.คาดว่าจะมีผู้ร่วมออกกำลังกายเต็มพื้นที่แน่นอนงานมหกรรมสร้างสุขภาพแห่งชาติปีนี้ จัดพิเศษกว่า 2 ปีแรก แบ่งเป็น 2 ส่วนได้แก่ กิจกรรมออกกำลังกาย และการแสดงนิทรรศการเมืองไทยแข็งแรงซึ่งได้จำลองจากแบบของจริงที่สัมผัสได้มาแสดง ในวันที่ 20 พฤศจิกายน
ทั้งนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นต้นไป จะมีการประกวดออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ อาทิ ลีลาศเพื่อสุขภาพ กระโดดเชือกลีลา รำกลองยาวประยุกต์ เต้นแอโรบิคจากเขตต่างๆ ของกทม. โดยมีนายยุรนันท์ ภมรมนตรี และนายดนุพร ปุณณกัณต์ดาราชื่อดังเป็นพิธีกร และในเวลา 17.00-18.00 น. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีจะเสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงานและนำเต้นแอโรบิคด้วยพระองค์เอง มีดารานักร้อง นักแสดง นักกีฬาทีมชาติ อาทิ นางสาวเยาวภา บุรพลชัย (น้องวิว)ร่วมเต้นแอโรบิคด้วย
นางสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า ในเรื่องการอำนวยความสะดวกประชาชนที่จะเข้าร่วมงาน กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานกับกรมการขนส่งทางน้ำ ขสมก. และรถไฟฟ้ามหานครบริการฟรีประชาชนที่ใส่เสื้อสีเหลืองหรือสีฟ้ามาร่วมงานโดยจะมีบริการฟรีเรือข้ามฟากตั้งแต่เวลา 13.00-21.00 น.ที่ท่าวัดระฆังถึงท่าช้าง และท่ารถไฟบางกอกน้อยถึงท่าพระจันทร์รถเมล์เหลือง-ครีม ของ ขสมก. ฟรีตั้งแต่ 09.00-21.00 น.ส่วนรถไฟฟ้าจะให้บริการฟรีเฉพาะเที่ยวกลับตั้งแต่เวลา 18.00-21.00 น.โดยขึ้นที่สถานีหัวลำโพง นอกจากนี้ได้จัดสถานที่จอดรถให้ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สถานีรถไฟ บางกอกน้อย ถ.กำแพงเพชร ถ.มักกะสัน หน้าสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ทางคู่ขนาน ถ.ราชดำเนินนอก ฐานทัพเรือกรุงเทพฯ ราชนาวีสโมสร ราชตฤณมัยสมาคมฯ สนามเสือป่าและลานพระบรมรูปทรงม้า
ด้านนายแพทย์วิชัย เทียนถาวร ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับนิทรรศการให้ความรู้แนวทางสู่การมีสุขภาพดีแก่ประชาชนที่มาเที่ยวชมงานจะมีตลอด 2 วัน ประชาชนจะได้เห็นโฉมหน้าของเมืองไทยแข็งแรงที่เป็นเป้าหมายสูงสุดที่ประเทศไทยจะพัฒนา ประกอบด้วยการออกกำลังกายตามกลุ่มอายุ ถนนสายอาหารปลอดภัย สาธิตเมนูชูสุขภาพความฉลาดทางอารมณ์ การป้องกันโรคหัวใจ/หลอดเลือด มะเร็งปากมดลูก/เต้านม การลด ละ เลิกอบายมุข เหล้า บุหรี่ ยาเสพติด รวมทั้งจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรชุดทดสอบความปลอดภัยอาหาร และสินค้า โอทอป
นอกจากนี้ ยังจัดพื้นที่กิจกรรมพิเศษสำหรับประชาชนอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป เรียกว่า โซนพิฆาตไขมัน ซึ่งเป็นรูปแบบการแรลลี่ 3 สถานีโดยใช้อุปกรณ์นับก้าววัดค่าการก้าวและการเผาผลาญแคลอรี่ในเวลา 5 นาทีผู้ที่ผ่านกิจกรรมทั้ง 3 สถานีจะได้รับความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพง่ายๆ และผู้ที่ทำจำนวนก้าวได้มากที่สุดแต่ละรอบ จะได้รับรางวัลจากกระทรวงสาธารณสุขด้วย
นายแพทย์วิชัย กล่าวต่อว่า ในส่วนบริการการแพทย์และฉุกเฉิน ได้จัดทีมแพทย์ และทีมรถพยาบาล จากกรมการแพทย์ กทม. และรพ.เอกชน ให้บริการในวันที่ 20 พฤศจิกายน ทั้งหมด 14 จุด ส่วนวันที่ 21 พฤศจิกายนเป็นทีมแพทย์และทีมรถพยาบาลของกรมการแพทย์ 4 จุด และกรณีฉุกเฉินจะใช้ศูนย์นเรนทร กระทรวงสาธารณสุข และศูนย์เอราวัณ กทม.ส่งต่อผู้ป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช และวชิระพยาบาล
“จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าผู้ที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะมีการป่วยเล็กๆ น้อยๆ เช่น ไข้หวัด ลดลงกว่าผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย โดยในปี 2546-2547 ประชาชนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอมีการเจ็บป่วยลดลงถึง 6.3 ล้านครั้งสามารถประหยัดค่ารักษาได้ถึง 1,100 ล้านบาท ดังนั้นการจัดงานครั้งนี้กระทรวงสาธารณสุข จึงมุ่งเป้าหมายกระตุ้นให้ประชาชนอายุ 6 ปีขึ้นไป ออกกำลังกายให้ได้ 33 ล้านคนทั่วประเทศซึ่งจะเป็นก้าวแรกที่จะทำให้ประชาชนหันมาสนใจสร้างสุขภาพด้วยการออกกำลังกายเพิ่มมากขึ้น” นายแพทย์วิชัย กล่าว
วันนี้ (17 พฤศจิกายน 2547) เวลา 13.30 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์วิชัย เทียนถาวร ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ร่วมกันแถลงข่าวความพร้อมการจัดงานมหกรรมรวมพลังสร้างสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 3 “รวมพลคนเหลือง-ฟ้า เทิดพระเกียรติ 5 ธันวามหาราชา 12 สิงหามหาราชินี” ซึ่งจะจัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 20-21 พฤศจิกายน 2547 โดยในกรุงเทพฯจัดที่ท้องสนามหลวง ว่า การจัดงานครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน ขณะนี้มีความพร้อมทุกด้านเต็มที่ 100% โดยการเต้นแอโรบิคในวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ท้องสนามหลวงได้เตรียมพื้นที่ไว้กว่า 60,000 ตารางเมตรรองรับคนออกกำลังกายได้ 75,000 คน
ขณะนี้มีประชาชนแจ้งชื่อล่วงหน้าแล้ว 73,000 คน ซึ่งในวันงานได้ตั้งจุดลงทะเบียนรับคนเพิ่มบริเวณหน้าศาลฎีกา และสนามหลวงฝั่งตรงข้ามวัดมหาธาตุ ตั้งแต่เวลา 09.00-14.00 น.คาดว่าจะมีผู้ร่วมออกกำลังกายเต็มพื้นที่แน่นอนงานมหกรรมสร้างสุขภาพแห่งชาติปีนี้ จัดพิเศษกว่า 2 ปีแรก แบ่งเป็น 2 ส่วนได้แก่ กิจกรรมออกกำลังกาย และการแสดงนิทรรศการเมืองไทยแข็งแรงซึ่งได้จำลองจากแบบของจริงที่สัมผัสได้มาแสดง ในวันที่ 20 พฤศจิกายน
ทั้งนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นต้นไป จะมีการประกวดออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ อาทิ ลีลาศเพื่อสุขภาพ กระโดดเชือกลีลา รำกลองยาวประยุกต์ เต้นแอโรบิคจากเขตต่างๆ ของกทม. โดยมีนายยุรนันท์ ภมรมนตรี และนายดนุพร ปุณณกัณต์ดาราชื่อดังเป็นพิธีกร และในเวลา 17.00-18.00 น. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีจะเสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงานและนำเต้นแอโรบิคด้วยพระองค์เอง มีดารานักร้อง นักแสดง นักกีฬาทีมชาติ อาทิ นางสาวเยาวภา บุรพลชัย (น้องวิว)ร่วมเต้นแอโรบิคด้วย
นางสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า ในเรื่องการอำนวยความสะดวกประชาชนที่จะเข้าร่วมงาน กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานกับกรมการขนส่งทางน้ำ ขสมก. และรถไฟฟ้ามหานครบริการฟรีประชาชนที่ใส่เสื้อสีเหลืองหรือสีฟ้ามาร่วมงานโดยจะมีบริการฟรีเรือข้ามฟากตั้งแต่เวลา 13.00-21.00 น.ที่ท่าวัดระฆังถึงท่าช้าง และท่ารถไฟบางกอกน้อยถึงท่าพระจันทร์รถเมล์เหลือง-ครีม ของ ขสมก. ฟรีตั้งแต่ 09.00-21.00 น.ส่วนรถไฟฟ้าจะให้บริการฟรีเฉพาะเที่ยวกลับตั้งแต่เวลา 18.00-21.00 น.โดยขึ้นที่สถานีหัวลำโพง นอกจากนี้ได้จัดสถานที่จอดรถให้ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สถานีรถไฟ บางกอกน้อย ถ.กำแพงเพชร ถ.มักกะสัน หน้าสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ทางคู่ขนาน ถ.ราชดำเนินนอก ฐานทัพเรือกรุงเทพฯ ราชนาวีสโมสร ราชตฤณมัยสมาคมฯ สนามเสือป่าและลานพระบรมรูปทรงม้า
ด้านนายแพทย์วิชัย เทียนถาวร ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับนิทรรศการให้ความรู้แนวทางสู่การมีสุขภาพดีแก่ประชาชนที่มาเที่ยวชมงานจะมีตลอด 2 วัน ประชาชนจะได้เห็นโฉมหน้าของเมืองไทยแข็งแรงที่เป็นเป้าหมายสูงสุดที่ประเทศไทยจะพัฒนา ประกอบด้วยการออกกำลังกายตามกลุ่มอายุ ถนนสายอาหารปลอดภัย สาธิตเมนูชูสุขภาพความฉลาดทางอารมณ์ การป้องกันโรคหัวใจ/หลอดเลือด มะเร็งปากมดลูก/เต้านม การลด ละ เลิกอบายมุข เหล้า บุหรี่ ยาเสพติด รวมทั้งจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรชุดทดสอบความปลอดภัยอาหาร และสินค้า โอทอป
นอกจากนี้ ยังจัดพื้นที่กิจกรรมพิเศษสำหรับประชาชนอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป เรียกว่า โซนพิฆาตไขมัน ซึ่งเป็นรูปแบบการแรลลี่ 3 สถานีโดยใช้อุปกรณ์นับก้าววัดค่าการก้าวและการเผาผลาญแคลอรี่ในเวลา 5 นาทีผู้ที่ผ่านกิจกรรมทั้ง 3 สถานีจะได้รับความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพง่ายๆ และผู้ที่ทำจำนวนก้าวได้มากที่สุดแต่ละรอบ จะได้รับรางวัลจากกระทรวงสาธารณสุขด้วย
นายแพทย์วิชัย กล่าวต่อว่า ในส่วนบริการการแพทย์และฉุกเฉิน ได้จัดทีมแพทย์ และทีมรถพยาบาล จากกรมการแพทย์ กทม. และรพ.เอกชน ให้บริการในวันที่ 20 พฤศจิกายน ทั้งหมด 14 จุด ส่วนวันที่ 21 พฤศจิกายนเป็นทีมแพทย์และทีมรถพยาบาลของกรมการแพทย์ 4 จุด และกรณีฉุกเฉินจะใช้ศูนย์นเรนทร กระทรวงสาธารณสุข และศูนย์เอราวัณ กทม.ส่งต่อผู้ป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช และวชิระพยาบาล
“จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าผู้ที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะมีการป่วยเล็กๆ น้อยๆ เช่น ไข้หวัด ลดลงกว่าผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย โดยในปี 2546-2547 ประชาชนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอมีการเจ็บป่วยลดลงถึง 6.3 ล้านครั้งสามารถประหยัดค่ารักษาได้ถึง 1,100 ล้านบาท ดังนั้นการจัดงานครั้งนี้กระทรวงสาธารณสุข จึงมุ่งเป้าหมายกระตุ้นให้ประชาชนอายุ 6 ปีขึ้นไป ออกกำลังกายให้ได้ 33 ล้านคนทั่วประเทศซึ่งจะเป็นก้าวแรกที่จะทำให้ประชาชนหันมาสนใจสร้างสุขภาพด้วยการออกกำลังกายเพิ่มมากขึ้น” นายแพทย์วิชัย กล่าว