"สุดารัตน์" เผยกรณีพบชิ้นส่วนของนิ้วคนในแหนมเยาวภาว่าอยู่ระหว่างผลจากห้องแล็ป ชี้หากพบว่าเป็นนิ้วคนจริง ก็เข้าข่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษตามกฎหมาย คาดจะทราบผลภายใน 1 สัปดาห์
นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการพบชิ้นส่วนของนิ้วคนในแหนมเยาวภา ว่า ขณะนี้ได้สั่งปิดโรงงานที่ผลิตแหนมไปแล้ว และจากการตรวจสอบไปที่สาธารณสุขจังหวัดสงขลาพบว่า โรงงานดังกล่าวได้ขออนุญาตผลิตอาหารอย่างถูกต้อง และผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ดังนั้น จึงต้องรอผลจากห้องปฎิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่า เป็นนิ้วของใครกันแน่ ซึ่งหากพบว่าเป็นนิ้วคนจริง ก็เข้าข่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษตามกฎหมาย แต่ก็ทราบว่าขณะนี้ลูกค้าได้งดสั่งแหนมจากโรงงานแล้ว
ด้านนายสุพรรณ ศรีธรรมา รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ส่งตัวอย่างชื้นเนื้อมาตรวจสอบที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และตัวอย่างก็เพิ่งมาถึงกรมฯ เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้(1 ต.ค.) โดยจะต้องพิสูจน์ว่าชิ้นเนื้อดังกล่าวเป็นนิ้วคนหรือไม่ จากนั้นจะต้องมีการตรวจสอบดีเอ็นเอ โดยจะดูว่าดีเอ็นเอในนิ้วที่พบตรงกับคนงานที่ถูกเครื่องจักรตัดนิ้วไปหรือไม่ คาดว่าจะทราบผลภายใน 1 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะต้องทำอย่างรอบคอบ เนื่องจากถือเป็นเรื่องทางคดี ที่จะต้องมีการประสานไปยังหน่วยงานนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป
ผอ.นิติวิทยาศาสตร์ ยันตรวจดีเอ็นเอหาเจ้าของนิ้วไม่ยาก
ด้านพล.ต.ต.นพ. ชุมศักดิ์ พฤกษาพงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวถึงการตรวจพิสูจน์นิ้วมือที่ผสมอยู่ในแหนมยี่ห้อดังว่า กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สามารถนำนิ้วมือมาตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของทั้ง 2 ฝ่ายได้ เพราะนิ้วที่พบในแหนมสดยังไม่ผ่านกระบวนการต้านความร้อน ผ่านแต่กระบวนการหมัก ดังนั้น ดีเอ็นเอจึงไม่ถูกทำลายสามารถนำมาตรวจพิสูจน์หาเจ้าของนิ้วมือได้ไม่ยาก ซึ่งกรณีแบบนี้ หากเกิดเหตุในต่างประเทศ ผู้บริโภคสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ทันที เพราะเป็นสินค้าที่ส่งขายให้กับร้านสะดวกซื้อ และมีฉลากระบุยี่ห้อชัดเจน แต่เป็นธรรมดาที่เจ้าของโรงงานผู้ผลิตจะไม่ยอมรับในความผิดพลาด จึงต้องมีการตรวจพิสูจน์ให้แน่ชัด หากตรวจสอบแล้ว ดีเอ็นเอจากนิ้วไม่ตรงกับดีเอ็นเอของพนักงานในโรงงานแหนม ก็ต้องยกประโยชน์ให้กับผู้ถูกกล่าวหา
พล.ต.ต.นพ.ชุมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สมัยนี้วิวัฒนาการการตรวจดีเอ็นเอแพร่หลายไปมาก กรณีที่เกิดขึ้นสามารถส่งตรวจกับสถานพยาบาลได้ทุกแห่ง ไม่จำเป็นต้องส่งมาให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจสอบก็ได้ แต่อาจจะมีปัญหาว่า ผู้เสียหายที่รับประทานแหนมผสมนิ้วมือเข้าไป ได้แจ้งความดำเนินคดีหรือไม่ และหน่วยงานใดจะเป็นผู้ร้องขอให้มีการตรวจดีเอ็นเอ. -สำนักข่าวไทย
นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการพบชิ้นส่วนของนิ้วคนในแหนมเยาวภา ว่า ขณะนี้ได้สั่งปิดโรงงานที่ผลิตแหนมไปแล้ว และจากการตรวจสอบไปที่สาธารณสุขจังหวัดสงขลาพบว่า โรงงานดังกล่าวได้ขออนุญาตผลิตอาหารอย่างถูกต้อง และผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ดังนั้น จึงต้องรอผลจากห้องปฎิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่า เป็นนิ้วของใครกันแน่ ซึ่งหากพบว่าเป็นนิ้วคนจริง ก็เข้าข่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษตามกฎหมาย แต่ก็ทราบว่าขณะนี้ลูกค้าได้งดสั่งแหนมจากโรงงานแล้ว
ด้านนายสุพรรณ ศรีธรรมา รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ส่งตัวอย่างชื้นเนื้อมาตรวจสอบที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และตัวอย่างก็เพิ่งมาถึงกรมฯ เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้(1 ต.ค.) โดยจะต้องพิสูจน์ว่าชิ้นเนื้อดังกล่าวเป็นนิ้วคนหรือไม่ จากนั้นจะต้องมีการตรวจสอบดีเอ็นเอ โดยจะดูว่าดีเอ็นเอในนิ้วที่พบตรงกับคนงานที่ถูกเครื่องจักรตัดนิ้วไปหรือไม่ คาดว่าจะทราบผลภายใน 1 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะต้องทำอย่างรอบคอบ เนื่องจากถือเป็นเรื่องทางคดี ที่จะต้องมีการประสานไปยังหน่วยงานนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป
ผอ.นิติวิทยาศาสตร์ ยันตรวจดีเอ็นเอหาเจ้าของนิ้วไม่ยาก
ด้านพล.ต.ต.นพ. ชุมศักดิ์ พฤกษาพงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวถึงการตรวจพิสูจน์นิ้วมือที่ผสมอยู่ในแหนมยี่ห้อดังว่า กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สามารถนำนิ้วมือมาตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของทั้ง 2 ฝ่ายได้ เพราะนิ้วที่พบในแหนมสดยังไม่ผ่านกระบวนการต้านความร้อน ผ่านแต่กระบวนการหมัก ดังนั้น ดีเอ็นเอจึงไม่ถูกทำลายสามารถนำมาตรวจพิสูจน์หาเจ้าของนิ้วมือได้ไม่ยาก ซึ่งกรณีแบบนี้ หากเกิดเหตุในต่างประเทศ ผู้บริโภคสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ทันที เพราะเป็นสินค้าที่ส่งขายให้กับร้านสะดวกซื้อ และมีฉลากระบุยี่ห้อชัดเจน แต่เป็นธรรมดาที่เจ้าของโรงงานผู้ผลิตจะไม่ยอมรับในความผิดพลาด จึงต้องมีการตรวจพิสูจน์ให้แน่ชัด หากตรวจสอบแล้ว ดีเอ็นเอจากนิ้วไม่ตรงกับดีเอ็นเอของพนักงานในโรงงานแหนม ก็ต้องยกประโยชน์ให้กับผู้ถูกกล่าวหา
พล.ต.ต.นพ.ชุมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สมัยนี้วิวัฒนาการการตรวจดีเอ็นเอแพร่หลายไปมาก กรณีที่เกิดขึ้นสามารถส่งตรวจกับสถานพยาบาลได้ทุกแห่ง ไม่จำเป็นต้องส่งมาให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจสอบก็ได้ แต่อาจจะมีปัญหาว่า ผู้เสียหายที่รับประทานแหนมผสมนิ้วมือเข้าไป ได้แจ้งความดำเนินคดีหรือไม่ และหน่วยงานใดจะเป็นผู้ร้องขอให้มีการตรวจดีเอ็นเอ. -สำนักข่าวไทย