ถ้าพูดถึงตาวิเศษหลายคนจะต้องนึกถึง การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยการไม่ทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง และการทำลายสิ่งแวดล้อมต่างๆทางธรรมชาติ ตาวิเศษจึงเป็นหน่วยงานที่คอยรณรงค์และปลูกฝัง ให้เยาวชนและคนไทยรักษ์สิ่งแวดล้อม
“ตาวิเศษเห็นนะ ทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทาง”
หรือ “ขยะในมือท่านลงถังเถอะครับ”
คำพูดทั้งหลายนี้ จึงเป็นเสมือนคำเตือนใจให้แก่ผู้ที่พบเห็นได้ยินและจดจำ สร้างจิตสำนึกให้กับคนไทยได้
ในช่วงสัปดาห์ร่วมใจทำไทยให้สะอาดที่ผ่านมา สมาคมสร้างสรรค์ไทยในฐานะผู้ประสานงานการจัดกิจกรรมทำความสะอาดในประเทศไทย และในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งกองทุนเรารักษ์เต่าทะเล จึงได้ร่วมกับศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล และหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลสัตหีบ ตำรวจน้ำสัตหีบ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง คณะทูตตาวิเศษ และทหารเรือรวมกว่า 200 คน ร่วมแรงร่วมใจกันทำความสะอาดเก็บขยะ บริเวณหาดสะเดา (เกาะคราม) อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
นาวาเอก เอกศักดิ์ ทุกข์สูญ ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล หาดสะเดา ให้ข้อมูลว่า เกาะครามเป็นเกาะที่เงียบสงบ บริเวณของหาดมีความสวยงาม เป็นเขตของทหารเรือที่ไม่อนุญาตให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวขึ้นไปในช่วงเดือนพฤษภาคม – ตุลาคม เพราะเวลากลางคืนเต่าทะเลจะขึ้นมาวางไข่เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากองทัพเรือได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล โดยนำไข่เต่าจากเกาะครามมาเพาะฟักที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ./รฝ.) โดยร่วมกับสมาคมสร้างสรรค์ไทย (ตาวิเศษ) ก่อตั้ง “กองทุนอนุรักษ์เต่าทะเล” รับบริจาคค่าอาหารเพื่อเลี้ยงดูลูกเต่าทะเลให้แข็งแรง ก่อนปล่อยกลับลงสู่ทะเล ซึ่งดำเนินงานต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2536 จนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงหน้ามรสุมมักมีเศษขยะจากท้องทะเลพัดเข้ามามาก โดยเฉพาะเศษไม้ ไม้ไผ่ ขวดพลาสติก จึงทำให้บริเวณรอบๆ ชายหาด เต็มไปด้วยเศษขยะ เป็นสิ่งที่สกปรกมาก จึงได้มีความคิดที่จะนำกำลังพลไปทำความสะอาด เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่
นาวาเอก เอกศักดิ์ กล่าวเพิ่มอีกว่า การอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ให้คงอยู่ จะต้องไม่สนับสนุนผู้จำหน่ายไข่เต่าเพื่อนำไปบริโภค อีกทั้งกระดองเต่าที่ทำมาจากเครื่องประดับ เช่น ที่เขี่ยบุหรี่ แจกัน กำไล เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการทำลายทรัพยากรทางธรรมชาติ หากพบเจอเต่าทะเลที่ไหน ให้นำส่งศูนย์วิจัยประมงศรีราชา หรือ ศูนย์วิจัยของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
“การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญที่คนไทยทุกคน ควรที่จะช่วยกันรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งขยะไม่เป็นที่ แม้กระทั่งการทำลายทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล เหล่านี้...คนไทยทุกคนควรจะช่วยกัน สร้างจิตสำนึกให้เกิดขึ้น เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีจะได้คงอยู่กับเราตลอดไป”
ด้าน น.ส.พิสมัย เพริศพริ้ง หรือน้องพุ่ม อายุ 19 ปี นักเรียนโรงเรียนวิทยาลัยพณิชยการบางนา ปวส. 2 ตัวแทนคณะทูตตาวิเศษ บอกว่า การได้เข้าร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกับตาวิเศษ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีในการช่วยเหลือสังคม ได้ทำกิจกรรมต่างๆ ที่ทางตาวิเศษจัดขึ้น ซึ่งการเข้าร่วมกับคณะทูตตาวิเศษ ต้องผ่านการคัดเลือกจากทางวิทยาลัย โดยเป็นตัวแทนของนักศึกษาเข้ารับการอบรม เพื่อเป็นการเผยแพร่ให้กับทางวิทยาลัยได้รู้ถึงความสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
“จากที่ได้มาทำความสะอาดที่หาดสะเดา เกาะครามพบว่า มีขยะบริเวณรอบๆชายหาดเต็มไปหมด เราก็เป็นคนไทยคนหนึ่งควรที่จะมีความรับผิดชอบในหน้าที่ เป็นคนหนึ่งในสังคม น่าจะช่วยดูแล รักษาความสะอาด ไม่ว่าจะเป็นที่หาด หรือที่ใดก็ตามทางธรรมชาติก็อยากจะให้ช่วยกันดูแล เพียง 1 ชิ้น ของแต่ละคน เมื่อมารวมกันแล้วมหาศาลมาก ถ้าหากเราไม่ช่วยกันดูแลแล้ว ใครล่ะจะช่วยทำให้ประเทศไทยเป็นเมืองที่สะอาด”
“ก็อยากจะฝากถึงเพื่อนๆ และคนไทยทุกคน การทำลายทรัพยากรธรรมชาติโดยไม่ยั้งคิดจะทำให้สิ่งแวดล้อมเสื่อมไป สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิต การไปทำลายให้แย่ลงไปกว่านี้ ปล่อยปะละเลยไม่สนใจ ไม่ดูแล สิ่งที่มีค่าเหล่านี้คงสูญหายไปในไม่ช้า การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมจึงเป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนควรกระทำและให้ความสนใจ”
ส่วน น.ส.ไพลิน กล้าจริง (ตั๊ก) ตัวแทนคณะทูตตาวิเศษอีกคนหนึ่ง บอกว่า ได้รับคัดเลือกจากทางสถาบันการเข้าร่วมกับโครงการตาวิเศษ ได้เรียนรู้ถึงวิถีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ เพราะสภาพแวดล้อมที่สวยงาม ทำให้สภาพภูมิทัศน์น่ามอง
ทั้งนี้ จากการได้มาลงพื้นที่ทำความสะอาดหาดสะเดาแห่งนี้ ได้พบกับเศษขยะที่เกลื่อนกลาด อยู่ริมชายหาด เต็มไปหมด มีทั้งเศษขยะ ใบไม้ ไม้ไผ่ ขวดพลาสติก ที่พัดมากับคลื่นน้ำทะเล
ดังนั้น จึงอยากจะฝากไปถึงเพื่อนๆ และคนไทยทุกคน ให้ช่วยกันประหยัดทรัพยากร ลดปริมาณการใช้สิ่งของฟุ่มเฟือย เพื่อลดจำนวนทรัพยากรธรรมชาติให้น้อยลง รวมทั้งรณรงค์ให้คนไทยหันมารักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อให้เป็นสิ่งที่สวยงาม น่ามองต่อไป
“ตาวิเศษเห็นนะ ทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทาง”
หรือ “ขยะในมือท่านลงถังเถอะครับ”
คำพูดทั้งหลายนี้ จึงเป็นเสมือนคำเตือนใจให้แก่ผู้ที่พบเห็นได้ยินและจดจำ สร้างจิตสำนึกให้กับคนไทยได้
ในช่วงสัปดาห์ร่วมใจทำไทยให้สะอาดที่ผ่านมา สมาคมสร้างสรรค์ไทยในฐานะผู้ประสานงานการจัดกิจกรรมทำความสะอาดในประเทศไทย และในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งกองทุนเรารักษ์เต่าทะเล จึงได้ร่วมกับศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล และหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลสัตหีบ ตำรวจน้ำสัตหีบ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง คณะทูตตาวิเศษ และทหารเรือรวมกว่า 200 คน ร่วมแรงร่วมใจกันทำความสะอาดเก็บขยะ บริเวณหาดสะเดา (เกาะคราม) อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
นาวาเอก เอกศักดิ์ ทุกข์สูญ ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล หาดสะเดา ให้ข้อมูลว่า เกาะครามเป็นเกาะที่เงียบสงบ บริเวณของหาดมีความสวยงาม เป็นเขตของทหารเรือที่ไม่อนุญาตให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวขึ้นไปในช่วงเดือนพฤษภาคม – ตุลาคม เพราะเวลากลางคืนเต่าทะเลจะขึ้นมาวางไข่เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากองทัพเรือได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล โดยนำไข่เต่าจากเกาะครามมาเพาะฟักที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ./รฝ.) โดยร่วมกับสมาคมสร้างสรรค์ไทย (ตาวิเศษ) ก่อตั้ง “กองทุนอนุรักษ์เต่าทะเล” รับบริจาคค่าอาหารเพื่อเลี้ยงดูลูกเต่าทะเลให้แข็งแรง ก่อนปล่อยกลับลงสู่ทะเล ซึ่งดำเนินงานต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2536 จนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงหน้ามรสุมมักมีเศษขยะจากท้องทะเลพัดเข้ามามาก โดยเฉพาะเศษไม้ ไม้ไผ่ ขวดพลาสติก จึงทำให้บริเวณรอบๆ ชายหาด เต็มไปด้วยเศษขยะ เป็นสิ่งที่สกปรกมาก จึงได้มีความคิดที่จะนำกำลังพลไปทำความสะอาด เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่
นาวาเอก เอกศักดิ์ กล่าวเพิ่มอีกว่า การอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ให้คงอยู่ จะต้องไม่สนับสนุนผู้จำหน่ายไข่เต่าเพื่อนำไปบริโภค อีกทั้งกระดองเต่าที่ทำมาจากเครื่องประดับ เช่น ที่เขี่ยบุหรี่ แจกัน กำไล เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการทำลายทรัพยากรทางธรรมชาติ หากพบเจอเต่าทะเลที่ไหน ให้นำส่งศูนย์วิจัยประมงศรีราชา หรือ ศูนย์วิจัยของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
“การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญที่คนไทยทุกคน ควรที่จะช่วยกันรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งขยะไม่เป็นที่ แม้กระทั่งการทำลายทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล เหล่านี้...คนไทยทุกคนควรจะช่วยกัน สร้างจิตสำนึกให้เกิดขึ้น เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีจะได้คงอยู่กับเราตลอดไป”
ด้าน น.ส.พิสมัย เพริศพริ้ง หรือน้องพุ่ม อายุ 19 ปี นักเรียนโรงเรียนวิทยาลัยพณิชยการบางนา ปวส. 2 ตัวแทนคณะทูตตาวิเศษ บอกว่า การได้เข้าร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกับตาวิเศษ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีในการช่วยเหลือสังคม ได้ทำกิจกรรมต่างๆ ที่ทางตาวิเศษจัดขึ้น ซึ่งการเข้าร่วมกับคณะทูตตาวิเศษ ต้องผ่านการคัดเลือกจากทางวิทยาลัย โดยเป็นตัวแทนของนักศึกษาเข้ารับการอบรม เพื่อเป็นการเผยแพร่ให้กับทางวิทยาลัยได้รู้ถึงความสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
“จากที่ได้มาทำความสะอาดที่หาดสะเดา เกาะครามพบว่า มีขยะบริเวณรอบๆชายหาดเต็มไปหมด เราก็เป็นคนไทยคนหนึ่งควรที่จะมีความรับผิดชอบในหน้าที่ เป็นคนหนึ่งในสังคม น่าจะช่วยดูแล รักษาความสะอาด ไม่ว่าจะเป็นที่หาด หรือที่ใดก็ตามทางธรรมชาติก็อยากจะให้ช่วยกันดูแล เพียง 1 ชิ้น ของแต่ละคน เมื่อมารวมกันแล้วมหาศาลมาก ถ้าหากเราไม่ช่วยกันดูแลแล้ว ใครล่ะจะช่วยทำให้ประเทศไทยเป็นเมืองที่สะอาด”
“ก็อยากจะฝากถึงเพื่อนๆ และคนไทยทุกคน การทำลายทรัพยากรธรรมชาติโดยไม่ยั้งคิดจะทำให้สิ่งแวดล้อมเสื่อมไป สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิต การไปทำลายให้แย่ลงไปกว่านี้ ปล่อยปะละเลยไม่สนใจ ไม่ดูแล สิ่งที่มีค่าเหล่านี้คงสูญหายไปในไม่ช้า การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมจึงเป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนควรกระทำและให้ความสนใจ”
ส่วน น.ส.ไพลิน กล้าจริง (ตั๊ก) ตัวแทนคณะทูตตาวิเศษอีกคนหนึ่ง บอกว่า ได้รับคัดเลือกจากทางสถาบันการเข้าร่วมกับโครงการตาวิเศษ ได้เรียนรู้ถึงวิถีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ เพราะสภาพแวดล้อมที่สวยงาม ทำให้สภาพภูมิทัศน์น่ามอง
ทั้งนี้ จากการได้มาลงพื้นที่ทำความสะอาดหาดสะเดาแห่งนี้ ได้พบกับเศษขยะที่เกลื่อนกลาด อยู่ริมชายหาด เต็มไปหมด มีทั้งเศษขยะ ใบไม้ ไม้ไผ่ ขวดพลาสติก ที่พัดมากับคลื่นน้ำทะเล
ดังนั้น จึงอยากจะฝากไปถึงเพื่อนๆ และคนไทยทุกคน ให้ช่วยกันประหยัดทรัพยากร ลดปริมาณการใช้สิ่งของฟุ่มเฟือย เพื่อลดจำนวนทรัพยากรธรรมชาติให้น้อยลง รวมทั้งรณรงค์ให้คนไทยหันมารักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อให้เป็นสิ่งที่สวยงาม น่ามองต่อไป