xs
xsm
sm
md
lg

โรคติดเซ็กซ์ พฤติกรรมอันตรายที่กำลังมาแรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมกำลังระบาดไปทั่วทุกซอกมุมของสังคมไทย และลุกลามเข้าไปในเด็กหญิงชาย วัยรุ่น ครอบครัว จนกระทั่งกลายเป็นการ "เสพติดเซ็กซ์" พฤติกรรมที่ไม่ต่างกับการติดยาเสพติดและนับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น พร้อมๆ กับ ค่านิยมทางเพศที่ต้องการความแปลกใหม่ ตื่นเต้นและเร้าใจ

ทั้งนี้ ในโอกาสครบรอบ 30 ปี คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้มีการจัดสัมมนาเรื่อง "เสพติดเซ็กซ์ : โรคหรือค่านิยมผิดๆ" ซึ่งประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิอย่าง ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม นักจิตบำบัดชื่อดัง, น.พ.พนมทวน ชูแสงทอง จิตแพทย์บำบัด ฯลฯ


น.พ.พนมทวนให้ข้อมูลว่า โรคเสพติดเซ็กซ์ (Sexually Addiction) คือ การใช้เซ็กซ์เป็นทางออกเพื่อผ่อนคลายหรือระบายความเครียด แต่ไม่สามารถควบคุมหรือหยุดการมีเพศสัมพันธ์ได้ เมื่อเสพติดนานๆ เข้าก็จะเพิ่มปริมาณในการเสพ หมกมุ่นแต่เรื่องเซ็กซ์อย่างเดียว คนกลุ่มนี้จะมีพฤติกรรม ซ้ำๆ โดยติดการเสพความสุขจากการมีเพศสัมพันธ์เหมือนการติดยาเสพติดหรือสุรา จึงมักหยุดไม่ค่อยได้

นอกจากการมีเพศสัมพันธ์แล้ว คนกลุ่มนี้อาจช่วยตัวเอง ชอบโชว์ แอบดู จนอาจนำไปสู่การร่วมเพศ และเป็นรักสองเพศ (HOMOSEXUAL) ได้ โดยโรคนี้เกิดได้ทั้งกับผู้ชายและผู้หญิง คนที่เป็นโรคเสพติดเซ็กซ์จะมีจินตนาการสูง ทั้งในการช่วยตัวเองและกับผู้อื่น ซึ่งพวกเขามักจะหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับคนรัก แต่กลับชอบที่จะมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลอื่นๆ อาจเป็นคนแปลกหน้า หรือการเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นการรบกวนชีวิตปกติ ประจำวันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นชีวิตรัก หรือชีวิตการทำงาน เมื่อมีเพศสัมพันธ์ก็จะรู้สึกผิดละอาย แต่หยุดไม่ได้ กลัวจะถูกเปิดเผย กลัวคนอื่นรู้ความลับ แต่ยังทำ กลายเป็นพฤติกรรมสำส่อน มั่ว ซึ่งคนกลุ่มนี้แม้แต่เอดส์ก็ไม่ทำให้เขากลัวจนเลิกพฤติกรรมได้

น.พ.พนมทวน อธิบายต่อว่า ส่วนใหญ่สาเหตุมักเกิดจากประสบการณ์ในวัยเด็กถูกทารุณ ทำร้าย ทุบตี และส่วนหนึ่งเกิดจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ผู้ปกครอง นอกจากจะเสพติดเซ็กซ์แล้ว คนกลุ่มนี้จะมีพฤติกรรมติดอย่างอื่นรวมอยู่ด้วยถึง 87% เช่น ติดสารเสพติด ติดเหล้า ติดพนัน พวกบ้างานมากๆ ใช้จ่ายมาก ทั้งนี้พบว่าในอเมริกามี 3-6 % ที่มีโอกาสเป็นโรคนี้

"จากการสำรวจพบว่าเด็ก 97% ถูกกระตุ้นด้วยการเลี้ยงดูโดยใช้อารมณ์ ถ้อยคำ และ 83% เป็นเรื่อง การอนาจารเด็ก ซึ่งเด็กไม่ทันได้ระวังตัว เพราะส่วนมากเกิดจากครอบครัวใกล้ชิด ส่วน 71% เป็นเรื่องความรุนแรงจากการทารุณ ทุบตีเด็ก นอกจากนี้สื่อก็เป็นตัวกระตุ้นโดยเฉพาะวีซีดีโป๊สิ่งเหล่านี้ทำให้เด็กไม่ภูมิใจในตัวเอง ไม่รู้คุณค่าในตัวเอง ขณะที่ค่านิยมทางเพศก็เป็นส่วนที่ทำให้เกิดโรคเสพติดเซ็กซ์ได้เหมือนกัน"

น.พ.พนมทวน บอกด้วยว่า คนกลุ่มนี้ต่างกับกลุ่มที่มีความต้องการทางเพศสูงหรือมีเซ็กซ์จัด เนื่องจากพวกเซ็กซ์จัดจะพึงพอใจในการมีเพศสัมพันธ์ของตน ส่วนคนที่เป็นโรคเสพติดเซ็กซ์ทำเพื่อให้ตัวเองรู้สึกเหมือนคนปกติ ขาดความรัก ความศรัทธา ความมั่นคง ในตัวเอง และจะรู้สึกผิด ละอายเมื่อทำไปแล้ว และหากได้รับการปฏิเสธก็จะรู้สึกชีวิตล้มเหลว เสียความเป็นตัวเอง

เรียกว่าพวกเขาพยายามหาความสุขแต่ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง

ทั้งนี้ โดยปกติคนพวกนี้จะไม่ยอมรับว่าตนเองผิดปกติ หรือรู้ว่าตัวเองผิดปกติก็ไม่ปรึกษาแพทย์อยู่ดี เพราะทำแล้วมีความสุขไม่ได้เดือดร้อน ส่วนมากที่มีปัญหา คือกรณีที่มีอาการซึมเศร้า ทรมาน ซึ่งการรักษาโรคเสพติดเซ็กซ์จะต้องใช้เวลา โดยการพูดคุย พฤติกรรมบำบัด สะกดจิต

"เราต้องรู้ว่าเกิดจากอะไร เป็นรูปแบบไหน ส่วนในกรณีที่มีอาการของโรคซึมเศร้าจึงจะต้องใช้ยาควบคู่ไปด้วย อย่างไรก็ตาม คนกลุ่มนี้มักเข้าใจผิดว่าการแต่งงานจะช่วยทำให้เขาสามารถหยุดพฤติกรรมได้แต่เป็นเรื่องไม่จริงกลับทำให้ชีวิตคู่มีปัญหา ซึ่งคนกลุ่มนี้มีโอกาสหายได้สิ่งสำคัญอยู่ที่แรงจูงใจของผู้ป่วย"

"จากประสบการณ์ที่ผ่านมาพบว่ากลุ่มผู้ป่วยในวัยรุ่นยังสามารถพบได้น้อย เพราะไม่รู้ถึงความผิดปกติของตัวเอง มักคิดว่าเป็นความท้าทาย สิ่งแปลกใหม่ รสนิยมเท่านั้น ดังนั้นคนส่วนใหญ่ที่มารับการรักษาจะเป็นผู้ใหญ่วัยทำงานมากกว่า"

ด้าน ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การเสพติดเซ็กซ์เป็นการแสดงออกถึงความหมกมุ่น คิดว่าเป็นความสุขแต่ไม่ใช่ คนส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ "สติสังคม" โดยเฉพาะวัยรุ่นเป็นปัญหาที่เป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลควรเข้ามาช่วยเหลือไม่เช่นนั้น ปัญหาจะเพิ่มขึ้นและหนักขึ้นด้วย

"การดำเนินชีวิตของวัยรุ่นในปัจจุบันเป็นไปในลักษณะ 5 ประการคือ 1.การขาดวิ่นในชีวิต ขาดวินัยซึ่งสามารถแก้ไขโดยการบริหารเวลา และสร้างระเบียบวินัยขึ้น 2. เอกลักษณ์สับสน ทุกวันนี้คนไม่รู้ว่าตัวเองคือใคร ไม่มีการตั้งเป้าหมายในชีวิต ไม่รู้ว่าถนัดหรือสนใจอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตื่นขึ้นมาแล้วต้องทำอะไรหรือที่แท้จริงชีวิตต้องการอะไร 3.อาการเอาแต่ใจ ค่านิยมต้องการเงินมากๆ โดยไม่คำนึงถึงวิธีการ ชอบความสบาย จึงเป็นสาเหตุให้วัยรุ่นขายตัว ขายยาเสพติด กลายเป็นสังคมบริโภคนิยมที่สิ่งที่ไม่จำเป็นแต่ต้องมี 4.อาการทางเพศ ขาดการยั้งคิดสังคมรอบข้าง 5. อารมณ์ร่วม-มนุษยสัมพันธ์ ไม่มีทัศนะชีวิตและทัศนะสังคม ไม่รู้อะไรควรอะไรไม่ควร และเมื่อทำแล้วมีผลอย่างไรกับคนรอบข้างบ้าง"

ดร.วัลลภบอกอีกว่า ยิ่งในยุคดอทคอมทำให้คนรู้สึกโดดเดี่ยวขาดอารมณ์ร่วมและมนุษยสัมพันธ์ทำให้เป็นโรคซึมเศร้าที่มากเป็นอันดับ 1 โรควิตกกังวลอันดับ 2 และโรคย้ำคิดย้ำทำอันดับ ที่ 3 ส่วนอีกโรคที่คาดว่าจะเข้ามาสู่ประเทศไทยในอีกไม่ช้าก็คือโรคกลัวการเข้าสังคม วิธีแก้คือกลับคืนสู่ธรรมชาติ

"สำหรับพฤติกรรมทางเพศของคนในสมัยนี้ อย่างในประเทศญี่ปุ่นระยะ 2 ปีที่ผ่านมามีพฤติกรรมทางเพศที่เลวร้ายขนาดมีเพศสัมพันธ์กับคนแก่ เด็ก คนพิการ สัตว์ ส่วนขณะนี้นิยมเห็นผู้หญิงกำลังปลดทุกข์ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นทางเพศ ขณะที่ประเทศไทยก็กลายเป็นศูนย์รวมการบริการทางเพศ มีแหล่งที่มีบาร์ชาย และมีบาร์หญิงมากที่สุดในโลกโดยเฉพาะที่พัทยา ส่วนบาร์อะโกโก้มีมากที่สุดในเอเชีย นอกจากนี้ยังมีแฝงมา กับอโรมาฯโดยใช้ผู้ชายนวด ทั้งยังมีการมั่วเพศแบบสวิงกิ้งมากกว่า 100 คู่ต่อคืน เรื่องพวกนี้ถือเป็นความสุขทางเพศที่ยิ่งมีของใหม่ ของแปลกก็จะเอาหมด"ดร.วัลลภตอกย้ำถึงสภาพของสังคมไทยทิ้งท้าย
แบบทดสอบ "คุณติดเซ็กซ์หรือเปล่า"

หากกำลังสงสัยว่า ตัวเอง"เสพติดเซ็กซ์หรือไม่" หรือหากอยากรู้ว่าตัวเองมีพฤติกรรมเช่นนั้นหรือเปล่า น.พ.ดิฐกานต์ บริบูรณ์หิรัญสาร ได้ทำแบบทดสอบในเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งเมื่อทดลองตอบคำถามต่างๆเหล่านี้ดู ก็จะรู้ซึ้งถึงพฤติกรรมของตนเองว่าใช่หรือไม่ใช่

หากคำตอบมีแต่ใช่ ใช่ ใช่ มากหลายข้อ แสดงว่าคุณมีโอกาสผิดปกติค่อนข้างสูง

1.คุณเคยมีประวัติหรือมีอาการซึมเศร้าและละอายในพฤติกรรมทางเพศของตนเอง
2.คุณรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถที่จะควบคุมความต้องการทางเพศหรือกิจกรรมทางเพศได้
3.คุณได้เคยพยายามหยุดพฤติกรรมดังกล่าวแต่ไม่สำเร็จ
4.คุณไม่สามารถหักห้ามใจได้เมื่อพบเจอกับสิ่งเร้าทางเพศต่างๆ
5.คุณเคยใช้กิจกรรมทางเพศเพื่อทดแทนความรู้สึกไม่สบายใจต่างๆ เช่น เครียด โกรธ อาย เพราะเมื่อได้ทำกิจกรรมดังกล่าวแล้วจะสบายใจและลืมทุกอย่างลงได้
6.คุณใช้เวลาอย่างไม่เหมาะสมกับกิจกรรมทางเพศ (หมายถึงใช้เวลามากเกินไป)
7.คุณเคยถึงกับละทิ้งครอบครัวหรือเพื่อนฝูงเพื่อไปปฏิบัติกิจกรรมทางเพศเมื่อเกิดความต้องการขึ้น
8.คุณเคยละทิ้งหน้าที่การงานเพื่อไปปฏิบัติกิจกรรมทางเพศ
9.คุณเคยมีพฤติกรรมทางเพศที่รู้ว่าไม่เหมาะสม ไม่ถูกต้อง และน่าละอาย
10.คุณมีความกลัวหรือไม่กล้าเกี่ยวกับเพศตรงข้ามอย่างมากจนต้องหาทางออกโดยใช้จินตนาการหรือการช่วยตัวเอง
11.คุณมีความต้องการที่จะดูรูปหรือหนังโป๊มากจนไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ตามปกติ
12.คุณมีความหมกมุ่นเกี่ยวกับเรื่องเพศมากขึ้นเรื่อยๆ
13.คุณมีกิจกรรมทางเพศอย่างรวดเร็วจนบดบังความรักและความสัมพันธ์ตามปกติ
14.คุณมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นแบบชั่วครั้งชั่วคราวหรือแม้กระทั่งเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
15.คุณเคยถูกจับกุมหรือทำผิดกฎหมายในประเด็นของพฤติกรรมทางเพศ
16.คุณมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่ปลอดภัยทั้งๆที่มีความรู้ เนื่องจากไม่สามารถหักห้ามใจได้
17.คุณใช้เงินเป็นจำนวนมากเพื่อกิจกรรมทางเพศ แม้จะไม่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจของคุณ
18.คุณคิดว่าชีวิตจะไม่มีค่าถ้าหากขาดเพศสัมพันธ์ไป
19.คุณเคยถูกปฏิบัติทางเพศอย่างไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสมสมัยยังเป็นเด็ก
20.คุณมักพบว่าตัวเองคิดถึงแต่เรื่องราวทางเพศอยู่เสมอโดยไม่เลือกเวลาและสถานที่
21.พฤติกรรมทางเพศของคุณทำให้เกิดปัญหาภายในครอบครัวของคุณ
22.คุณเคยกังวลว่าคนอื่นจะล่วงรู้ถึงพฤติกรรมทางเพศของคุณ
23.คุณเคยมีกิจกรรมทางเพศกับผู้ด้อยโอกาสอื่นๆ
24.คนใกล้ชิดเคยบ่นหรือเป็นกังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศของคุณ
25.คุณเคยรู้สึกผิดเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศของคุณ

กำลังโหลดความคิดเห็น