ประธานสภากทม.ไม่ยอมรับคำสั่ง “โภคิน” อ้างมหาดไทยไม่มีสิทธิ์สั่งให้ทำการเลือกตั้งใหม่ แถมกฤษฎีกาก็ระบุชัดเจนแล้วว่ามีอำนาจได้แค่เฉพาะผู้ว่าฯ กทม.เท่านั้น
นายธนา ชีรวินิจ ประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีที่นายโภคิน พลกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ส่งหนังสือแจ้งให้ทางสภากรุงเทพมหานคร(กทม.)ดำเนินการเลือกประธานสภาให้ถูกต้องตามกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับมายังสภากทม.ในวันนี้(26 ก.ค.)ว่า หนังสือดังกล่าวเป็นเพียงหนังสือที่ส่งมาเพื่อแจ้งให้สภากทม.ดำเนินการเลือกประธานให้ถูกต้องตามกฎหมาย หรือระเบียบข้อบังคับ ไม่ใช่คำสั่งแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ตามบันทึกของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาก็ระบุชัดเจนแล้วว่า กระทรวงมหาดไทยมีอำนาจสั่งการยับยั้งหรือสั่งการได้เฉพาะผู้ว่าฯ กทม.เท่านั้น แต่ไม่ได้หมายรวมถึงสภากทม.ด้วย ดังนั้น จึงไม่มีอำนาจสั่งการเรื่องที่จะให้มีการดำเนินการเลือกตั้งประธานสภากทม.ใหม่ตามมาตรา 123 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการ กทม. พ.ศ.2528 แต่อย่างใดเพราะอาจจะผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ
อีกทั้งหากทางกระทรวงมหาดไทยเองก็ไม่ได้มีคำสั่งออกมาชี้ขาดว่าการเลือกตั้งประธานสภากทม.เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมาเป็นโมฆะจึงทำได้แค่แจ้งให้ทางสภา กทม.ดำเนินการเท่านั้น และตอนนี้ทางสภากทม.เห็นว่าการเลือกตั้งประธานสภา และรองประธานสภาถูกต้องแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเลือกตั้งใหม่
“การดำรงตำแหน่งของประธานสภาและรองประธานสภากทม.จะพ้นจากวาระการดำรงตำแหน่งนั้น สาเหตุจะมาจากขาดจากสมาชิกภาพของสมาชิกสภากทม.,ลาออกจากตำแหน่งโดยยื่นหนังสือลาออกต่อรมว.มหาดไทยและให้มีผลนับแต่วันที่ยื่นหนังสือลาออกและเมื่อสมาชิกสภากทม.ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมด เข้าชื่อเสนอญัตติให้สภากทม.มีการเลือกตั้งประธานสภาหรือรองประธานใหม่และสภากทม.มีมติตามนั้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด โดยให้พ้นจากตำแหน่งเมื่อได้มีการเลือกตั้งประธานสภาหรือรองประธานสภากทม.แล้วแต่กรณี”
นายธนากล่าวต่อไปอีกว่าการใช้อำนาจของรมว.มหาดไทยดังกล่าวข้างต้นย่อมไม่เป็นการตัดสิทธิผู้ซึ่งได้รับความเสียหายจากการดำเนินการของของสภากทม.ที่จะนำคดีไปฟ้องร้องยังศาลปกครองตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีทางปกครอง พ.ศ.2542 ต่อไป
ด้านนายชนินทร์ รุ่งแสง รองประธานสภากทม.กล่าวว่าเมื่อทางกฎษฎีกาตีความออกมาแบบนี้ตนเองเชื่อว่าในการประชุมสภากทม.ในวันพุธ(28 ก.ค.)ที่จะถึงนี้ทางสมาชิกสภากทม.จากทางพรรคไทยรักไทยจะมาร่วมเข้าประชุมเพื่อพิจารณาวาระงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2548 และวาระอื่นๆ
“ผมเชื่อว่าจะสามารถเปิดประชุมสภากทม.ในวันพุธนี้ได้อย่างแน่นอน และหากทางส.ก.จากทางพรรคไทยรักไทยจะหารือในประเด็นการเลือกประธานสภากทม.คนใหม่เชื่อว่าทางประธานสภากทม.จะยินดีเปิดให้มีการหารือและจะสมารถหาข้อยุติในเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้”นายชนินนทร์ระบุ
นายธนา ชีรวินิจ ประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีที่นายโภคิน พลกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ส่งหนังสือแจ้งให้ทางสภากรุงเทพมหานคร(กทม.)ดำเนินการเลือกประธานสภาให้ถูกต้องตามกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับมายังสภากทม.ในวันนี้(26 ก.ค.)ว่า หนังสือดังกล่าวเป็นเพียงหนังสือที่ส่งมาเพื่อแจ้งให้สภากทม.ดำเนินการเลือกประธานให้ถูกต้องตามกฎหมาย หรือระเบียบข้อบังคับ ไม่ใช่คำสั่งแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ตามบันทึกของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาก็ระบุชัดเจนแล้วว่า กระทรวงมหาดไทยมีอำนาจสั่งการยับยั้งหรือสั่งการได้เฉพาะผู้ว่าฯ กทม.เท่านั้น แต่ไม่ได้หมายรวมถึงสภากทม.ด้วย ดังนั้น จึงไม่มีอำนาจสั่งการเรื่องที่จะให้มีการดำเนินการเลือกตั้งประธานสภากทม.ใหม่ตามมาตรา 123 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการ กทม. พ.ศ.2528 แต่อย่างใดเพราะอาจจะผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ
อีกทั้งหากทางกระทรวงมหาดไทยเองก็ไม่ได้มีคำสั่งออกมาชี้ขาดว่าการเลือกตั้งประธานสภากทม.เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมาเป็นโมฆะจึงทำได้แค่แจ้งให้ทางสภา กทม.ดำเนินการเท่านั้น และตอนนี้ทางสภากทม.เห็นว่าการเลือกตั้งประธานสภา และรองประธานสภาถูกต้องแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเลือกตั้งใหม่
“การดำรงตำแหน่งของประธานสภาและรองประธานสภากทม.จะพ้นจากวาระการดำรงตำแหน่งนั้น สาเหตุจะมาจากขาดจากสมาชิกภาพของสมาชิกสภากทม.,ลาออกจากตำแหน่งโดยยื่นหนังสือลาออกต่อรมว.มหาดไทยและให้มีผลนับแต่วันที่ยื่นหนังสือลาออกและเมื่อสมาชิกสภากทม.ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมด เข้าชื่อเสนอญัตติให้สภากทม.มีการเลือกตั้งประธานสภาหรือรองประธานใหม่และสภากทม.มีมติตามนั้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด โดยให้พ้นจากตำแหน่งเมื่อได้มีการเลือกตั้งประธานสภาหรือรองประธานสภากทม.แล้วแต่กรณี”
นายธนากล่าวต่อไปอีกว่าการใช้อำนาจของรมว.มหาดไทยดังกล่าวข้างต้นย่อมไม่เป็นการตัดสิทธิผู้ซึ่งได้รับความเสียหายจากการดำเนินการของของสภากทม.ที่จะนำคดีไปฟ้องร้องยังศาลปกครองตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีทางปกครอง พ.ศ.2542 ต่อไป
ด้านนายชนินทร์ รุ่งแสง รองประธานสภากทม.กล่าวว่าเมื่อทางกฎษฎีกาตีความออกมาแบบนี้ตนเองเชื่อว่าในการประชุมสภากทม.ในวันพุธ(28 ก.ค.)ที่จะถึงนี้ทางสมาชิกสภากทม.จากทางพรรคไทยรักไทยจะมาร่วมเข้าประชุมเพื่อพิจารณาวาระงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2548 และวาระอื่นๆ
“ผมเชื่อว่าจะสามารถเปิดประชุมสภากทม.ในวันพุธนี้ได้อย่างแน่นอน และหากทางส.ก.จากทางพรรคไทยรักไทยจะหารือในประเด็นการเลือกประธานสภากทม.คนใหม่เชื่อว่าทางประธานสภากทม.จะยินดีเปิดให้มีการหารือและจะสมารถหาข้อยุติในเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้”นายชนินนทร์ระบุ