เผยผลวิจัย “กระชายดำ” ชนิด “ผง” ผ่านเกณฑ์ความปลอดภัย หลังให้หนูทดลองกินและพบไม่มีพิษเฉียบพลันและไม่ก่อให้เกิดพิษระยะยาว แต่แนะประชาชนที่รับประทานติดต่อกันระยะยาว ควรหมั่นตรวจเลือดเหมือนการตรวจสุขภาพทั่วไป
น.พ.วิชัย โชควิวัฒน อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า จากการที่กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ ได้สนับสนุนงบประมาณแก่สถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดำเนินการทดสอบความปลอดภัยของสมุนไพรนี้ โดยศึกษาพิษเฉียบพลันและพิษเรื้อรังของผงกระชายดำในหนูขาว ผลการศึกษาพบว่า ไม่เกิดความเป็นพิษต่อสัตว์ทดลอง
ทั้งนี้ หนูที่ได้รับกระชายดำทุกกลุ่มมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น อาการและสุขภาพไม่แตกต่างจากหนูกลุ่มควบคุมที่ได้รับน้ำเป็นสารเปรียบเทียบและกระชายดำไม่ทำให้เกิดอาการพิษ ขณะเดียวกัน ผลการตรวจอวัยวะภายในทางจุลพยาธิวิทยาของหนูที่ได้รับกระชายดำ แสดงให้เห็นว่าสมุนไพรกระชายดำไม่ก่อให้เกิดพยาธิสภาพหรือความผิดปกติของอวัยวะต่างๆ ที่บ่งชี้ถึงความเป็นพิษ
“สมุนไพรกระชายดำเป็นสมุนไพรโปรดักส์แชมเปี้ยนและมีผู้นิยมทำเป็นผลิตภัณฑ์จำหน่ายอย่างกว้างขวาง แต่ยังไม่เคยมีการศึกษาในทางวิทยาศาสตร์ว่ากระชายดำมีความปลอดภัยต่อการบริโภคหรือไม่ เพราะกระชายดำไม่เหมือนกระชายขาวที่ใช้ปรุงอาหาร เป็นกระชายที่นำมาใช้ปรุงเป็นยา แต่ขณะนี้มีการนำมาใช้ปรุงในลักษณะเข้าข่ายเป็นอาหารจำนวนมาก จึงต้องมีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้สัตว์ทดลองเพื่อเปรียบเทียบกับคน ใช้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก คือ หนู โดยสรุปพบว่าอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย แต่การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษากับผงกระชายดำ ยังไม่ได้ศึกษากับสารสกัด ดังนั้น จะมีการศึกษาต่อไปในอนาคต แต่ขณะนี้ผลที่ยืนยันว่าปลอดภัย คือ ตัวผงกระชายดำ” นพ.วิชัย กล่าว
ด้านนายสัตวแพทย์ทรงพล กล่าวว่า ขณะนี้แม้ว่าการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่าไม่มีพิษเฉียบพลันและไม่ก่อให้เกิดพิษระยะยาว หรือพิษเรื้อรัง แต่อย่างไรก็ตามข้อมูลในสัตว์เป็นเพียงส่วนหนึ่งยังไม่สามารถตอบได้ว่าคนทั่วไปถ้ารับประทานเข้าไปมาก ๆ ระยะยาวจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะการศึกษาทางพิษวิทยาจริง ๆ ต้องทำการศึกษาเพิ่มเติมในสัตว์สายพันธุ์อื่นด้วยแต่ในสัตว์ทดลองครั้งนี้ คือ หนูติดจั่นและหนูแรดไม่เกิดพิษ
“ถ้าเกิดคนต้องกินผงกระชายดำระยะยาว ควรมีการติดตาม ตรวจเลือด เหมือนตรวจสุขภาพทั่วไปด้วย อย่างการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่พบในหนูทดลองที่ได้รับผงกระชายดำ 100 เท่า ในหนูเพศเมียจะมีระดับคลอเรสเตอรอลเพิ่มขึ้นและมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอื่น ๆ เช่น มีโซเดียมเพิ่มขึ้น ดังนั้น ถ้าทานนาน ๆ ควรมีการตรวจเลือดร่วมด้วย” นายสัตวแพทย์ทรงพล กล่าว
น.พ.วิชัย โชควิวัฒน อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า จากการที่กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ ได้สนับสนุนงบประมาณแก่สถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดำเนินการทดสอบความปลอดภัยของสมุนไพรนี้ โดยศึกษาพิษเฉียบพลันและพิษเรื้อรังของผงกระชายดำในหนูขาว ผลการศึกษาพบว่า ไม่เกิดความเป็นพิษต่อสัตว์ทดลอง
ทั้งนี้ หนูที่ได้รับกระชายดำทุกกลุ่มมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น อาการและสุขภาพไม่แตกต่างจากหนูกลุ่มควบคุมที่ได้รับน้ำเป็นสารเปรียบเทียบและกระชายดำไม่ทำให้เกิดอาการพิษ ขณะเดียวกัน ผลการตรวจอวัยวะภายในทางจุลพยาธิวิทยาของหนูที่ได้รับกระชายดำ แสดงให้เห็นว่าสมุนไพรกระชายดำไม่ก่อให้เกิดพยาธิสภาพหรือความผิดปกติของอวัยวะต่างๆ ที่บ่งชี้ถึงความเป็นพิษ
“สมุนไพรกระชายดำเป็นสมุนไพรโปรดักส์แชมเปี้ยนและมีผู้นิยมทำเป็นผลิตภัณฑ์จำหน่ายอย่างกว้างขวาง แต่ยังไม่เคยมีการศึกษาในทางวิทยาศาสตร์ว่ากระชายดำมีความปลอดภัยต่อการบริโภคหรือไม่ เพราะกระชายดำไม่เหมือนกระชายขาวที่ใช้ปรุงอาหาร เป็นกระชายที่นำมาใช้ปรุงเป็นยา แต่ขณะนี้มีการนำมาใช้ปรุงในลักษณะเข้าข่ายเป็นอาหารจำนวนมาก จึงต้องมีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้สัตว์ทดลองเพื่อเปรียบเทียบกับคน ใช้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก คือ หนู โดยสรุปพบว่าอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย แต่การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษากับผงกระชายดำ ยังไม่ได้ศึกษากับสารสกัด ดังนั้น จะมีการศึกษาต่อไปในอนาคต แต่ขณะนี้ผลที่ยืนยันว่าปลอดภัย คือ ตัวผงกระชายดำ” นพ.วิชัย กล่าว
ด้านนายสัตวแพทย์ทรงพล กล่าวว่า ขณะนี้แม้ว่าการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่าไม่มีพิษเฉียบพลันและไม่ก่อให้เกิดพิษระยะยาว หรือพิษเรื้อรัง แต่อย่างไรก็ตามข้อมูลในสัตว์เป็นเพียงส่วนหนึ่งยังไม่สามารถตอบได้ว่าคนทั่วไปถ้ารับประทานเข้าไปมาก ๆ ระยะยาวจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะการศึกษาทางพิษวิทยาจริง ๆ ต้องทำการศึกษาเพิ่มเติมในสัตว์สายพันธุ์อื่นด้วยแต่ในสัตว์ทดลองครั้งนี้ คือ หนูติดจั่นและหนูแรดไม่เกิดพิษ
“ถ้าเกิดคนต้องกินผงกระชายดำระยะยาว ควรมีการติดตาม ตรวจเลือด เหมือนตรวจสุขภาพทั่วไปด้วย อย่างการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่พบในหนูทดลองที่ได้รับผงกระชายดำ 100 เท่า ในหนูเพศเมียจะมีระดับคลอเรสเตอรอลเพิ่มขึ้นและมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอื่น ๆ เช่น มีโซเดียมเพิ่มขึ้น ดังนั้น ถ้าทานนาน ๆ ควรมีการตรวจเลือดร่วมด้วย” นายสัตวแพทย์ทรงพล กล่าว