ในบรรดาแสตมป์ ปี 2547 ชุดแสตมป์ที่โดดเด่นและน่าสนใจคงต้องยกให้ แสตมป์ชุดพระเครื่อง "พระเบญจภาคี" ซึ่งทำให้บรรดาเซียนแสตมป์และเซียนพระเครื่อง คึกคักเป็นอย่างมาก
อานุสรา จิตต์มิตรภาพ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เล่าถึงความเป็นมาของดวงตราไปรษณียากร ชุด พระเบญจภาคีว่า เริ่มแรกที่ได้มีการนำพระเครื่องไทยมาพิมพ์เป็นแสตมป์ เนื่องจากเห็นว่า พระเครื่องของไทยเป็นวัตถุมงคลที่มีความเก่าแก่และมีตำนานมากมาย รวมทั้งยังไม่เคยทำแสตมป์รูปแบบนี้มาก่อน จึงถือเป็นแสตมป์พระเครื่องชุดแรก ที่มีความสวยงาม
ทั้งนี้ แสตมป์มีลักษณะพิเศษที่การจัดพิมพ์โดยเทคนิคพิเศษ คือ การปั๊มดุนนูนเฉพาะองค์พระ และเคลือบด้วยวานิช ทำให้เหมาะอย่างยิ่งในการเก็บหาไว้สะสม ที่สำคัญคือยังเป็นพระที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ในเรื่องของพุทธคุณเมตตามหานิยม มีความเสน่ห์หา ใครได้ครอบครองจะมีโชค รอดพ้นภัยอันตราย
อานุสราบอกด้วยว่า ก่อนที่จะสำเร็จออกมาเป็นแสตมป์ชุดนี้ มีเรื่องแปลกเกิดขึ้น คือ หลักจากที่มีการทำรูปแบบพร้อมที่จะนำไปใส่บล็อกเพื่อตีพิมพ์ บล็อกกลับมีปัญหาทำให้ไม่สามารถที่จะพิมพ์ออกมาได้ โดยไม่ทราบสาเหตุ จึงมีการทำพิธีบวงสรวงใหญ่ขึ้นเพื่อความเป็นเรี่องที่เป็นศิริมงคล
สำหรับภาพต้นแบบได้รับความอนุเคราะห์จากเกจิพระเครื่อง โดยพระแต่ละองค์เป็นการนำมาจากองค์จริงซึ่งมีองค์เดียว เรียกว่ากว่าที่จะมาเป็นแสตมป์ชุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีการศึกษาความถูกต้องโดยผ่านการตรวจสอบหลายขั้นตอน ที่สำคัญแสตมป์ชุดนี้ไม่ได้เป็นเป็นที่สนใจเฉพาะนักสะสมของไทยเท่าแต่มีชาวต่างชาติที่สั่งจองเป็นจำนวนไม่น้อย
ทั้งนี้ ตราไปรษณียากร สุดยอดพระเครื่องของไทย "พระเครื่อง เบญจภาคี" จะมีการจำหน่ายในวันที่ 20 มิถุนายน 2547 เป็นวันแรก แสตมป์ชุดนี้ ประกอบด้วย 5 ดวง ( 5 แบบ ) ดวงละ 9 บาท จำหน่ายราคาชุดละ 45 บาท ภายใน 1 แผ่น มี 4 ชุด จำหน่ายแผ่นละ 180 บาท โดยพิมพ์คละแบบ (พิมพ์ทุกแบบอยู่ ภายในแผ่นเดียวกัน) ได้แก่
พระนางพญา พิมพ์เข่าโค้ง กรุวัดนางพญาจังหวัด พิษณุโลก
พระกำแพง ซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่ กรุทุ่งเศรษฐี จังหวัด กำแพงเพชร
พระสมเด็จวัด ระฆังโฆษิตาราม พิมพ์ใหญ่ กรุงเทพ มหานคร
พระรอด พิมพ์ ใหญ่ กรุวัดมหาวัน จังหวัดลำพูน
พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าแก่ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดสุพรรณบุรี
"เราจะมีการเปิดตัว แสตมป์ชุดพระเบญจภาคี เวลา 11.00 น. ณ ห้างบางลำพูสรรพสินค้า งามวงศ์วานชั้น 3 ภายในงานมีการบรรยายพิเศษของความสุดยอดของพระแต่ละองค์ที่นำมาพิมพ์แสตมป์จากผู้เชี่ยวชาญด้านพระเครื่องที่มีชื่อเสียง คือ ต้อย เมืองนนท์ (นายพิศาล เตชะวิภาค อุปนายกสมาคมผู้นอยมพระเครื่องพระบูชาไทย) อ.ราม วัชรประดิษฐ์ (แชมป์แฟนพันธุ์แท้ 2545) ป๋อง สุพรรณ (นายเสมอ งิ้วงาม แฟนพันธุ์แท้ปี 2546) อ.ประจำ อู่อรุณ และอ.สมศักดิ์ จวงสวัสดิ์ นอกจากนี้ยังมีการออกใบรับรองพระแท้และการจำหน่ายแสตมป์อีกด้วย"
สำหรับนักสะสมแสตมป์รุ่นลายครามอย่าง ลุงวชิระ สินวัต วัย 60 ปี พูดถึงดวงตราไปรษณียากร ชุด พระเบญจภาคี ว่า เป็นแสตมป์ชุดพระเครื่องที่มีความสวยงามและน่าสนใจอย่างมาก องค์พระแต่ละองค์มีค่ามหาศาลหาดูได้ยากยิ่งนัก ถึงแม้ว่าโดยส่วนตัวจะไม่ได้เป็นนักสะสมพระเครื่องแต่ก็มีความภูมิใจอย่างมากหากมีแสตมป์ชุดที่ไว้ครอบครอง
นอกจากนี้ ลุงวชิระยังให้ความรู้เกี่ยวกับการสะสมแสตมป์ด้วยว่า พูดถึงแสตมป์ที่เกี่ยวกับพระนั้น การพิมพ์ที่เห็นชุดแรกคือชุดลายสือไทย ซึ่งพิมพ์ขึ้นมาในในคราวการครบรอบ 700 ปี ลายสือไทย เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย
ส่วนชุดพระพุทธรูปชุดแรกจริงๆ คงจะเป็นชุดที่พิมพ์เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2527 ในชุดมี 4 ดวง เป็นพระพุทธรูปในยุคเชียงแสน สุโขทัย อู่ทองและอยุธยา ชุดที่ 2 วันวิสาขบูชา 13 พ.ค. 2538 พระแก้ว พระพุทชินราช พระพุทธสิหิงค์ และพระพุทธรูปทองคำวัดไตรมิตร ชุดที่ 3 เป็นพระประจำวันเกิดซึ่งออกวันสำคัญทางศาสนา มีพระประประจำวันอาทิตย์ จันทร์ พุธ และศุกร์ออกมาปีละดวง 5ปีแล้ว
สำหรับในวันที่ 2 มิถุนายน ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา จะมีพระพุทธรูปประจำวันพฤหัสบดีออกมาอุ่นเครื่องให้นักสะสมแสตมป์ที่ชื่นชอบแสตมป์เกี่ยวกับพระ เกจิชื่อดังหรือพระบรมวงศานุวงศ์ได้ชื่นชมกันก่อน
อานุสรา จิตต์มิตรภาพ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เล่าถึงความเป็นมาของดวงตราไปรษณียากร ชุด พระเบญจภาคีว่า เริ่มแรกที่ได้มีการนำพระเครื่องไทยมาพิมพ์เป็นแสตมป์ เนื่องจากเห็นว่า พระเครื่องของไทยเป็นวัตถุมงคลที่มีความเก่าแก่และมีตำนานมากมาย รวมทั้งยังไม่เคยทำแสตมป์รูปแบบนี้มาก่อน จึงถือเป็นแสตมป์พระเครื่องชุดแรก ที่มีความสวยงาม
ทั้งนี้ แสตมป์มีลักษณะพิเศษที่การจัดพิมพ์โดยเทคนิคพิเศษ คือ การปั๊มดุนนูนเฉพาะองค์พระ และเคลือบด้วยวานิช ทำให้เหมาะอย่างยิ่งในการเก็บหาไว้สะสม ที่สำคัญคือยังเป็นพระที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ในเรื่องของพุทธคุณเมตตามหานิยม มีความเสน่ห์หา ใครได้ครอบครองจะมีโชค รอดพ้นภัยอันตราย
อานุสราบอกด้วยว่า ก่อนที่จะสำเร็จออกมาเป็นแสตมป์ชุดนี้ มีเรื่องแปลกเกิดขึ้น คือ หลักจากที่มีการทำรูปแบบพร้อมที่จะนำไปใส่บล็อกเพื่อตีพิมพ์ บล็อกกลับมีปัญหาทำให้ไม่สามารถที่จะพิมพ์ออกมาได้ โดยไม่ทราบสาเหตุ จึงมีการทำพิธีบวงสรวงใหญ่ขึ้นเพื่อความเป็นเรี่องที่เป็นศิริมงคล
สำหรับภาพต้นแบบได้รับความอนุเคราะห์จากเกจิพระเครื่อง โดยพระแต่ละองค์เป็นการนำมาจากองค์จริงซึ่งมีองค์เดียว เรียกว่ากว่าที่จะมาเป็นแสตมป์ชุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีการศึกษาความถูกต้องโดยผ่านการตรวจสอบหลายขั้นตอน ที่สำคัญแสตมป์ชุดนี้ไม่ได้เป็นเป็นที่สนใจเฉพาะนักสะสมของไทยเท่าแต่มีชาวต่างชาติที่สั่งจองเป็นจำนวนไม่น้อย
ทั้งนี้ ตราไปรษณียากร สุดยอดพระเครื่องของไทย "พระเครื่อง เบญจภาคี" จะมีการจำหน่ายในวันที่ 20 มิถุนายน 2547 เป็นวันแรก แสตมป์ชุดนี้ ประกอบด้วย 5 ดวง ( 5 แบบ ) ดวงละ 9 บาท จำหน่ายราคาชุดละ 45 บาท ภายใน 1 แผ่น มี 4 ชุด จำหน่ายแผ่นละ 180 บาท โดยพิมพ์คละแบบ (พิมพ์ทุกแบบอยู่ ภายในแผ่นเดียวกัน) ได้แก่
พระนางพญา พิมพ์เข่าโค้ง กรุวัดนางพญาจังหวัด พิษณุโลก
พระกำแพง ซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่ กรุทุ่งเศรษฐี จังหวัด กำแพงเพชร
พระสมเด็จวัด ระฆังโฆษิตาราม พิมพ์ใหญ่ กรุงเทพ มหานคร
พระรอด พิมพ์ ใหญ่ กรุวัดมหาวัน จังหวัดลำพูน
พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าแก่ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดสุพรรณบุรี
"เราจะมีการเปิดตัว แสตมป์ชุดพระเบญจภาคี เวลา 11.00 น. ณ ห้างบางลำพูสรรพสินค้า งามวงศ์วานชั้น 3 ภายในงานมีการบรรยายพิเศษของความสุดยอดของพระแต่ละองค์ที่นำมาพิมพ์แสตมป์จากผู้เชี่ยวชาญด้านพระเครื่องที่มีชื่อเสียง คือ ต้อย เมืองนนท์ (นายพิศาล เตชะวิภาค อุปนายกสมาคมผู้นอยมพระเครื่องพระบูชาไทย) อ.ราม วัชรประดิษฐ์ (แชมป์แฟนพันธุ์แท้ 2545) ป๋อง สุพรรณ (นายเสมอ งิ้วงาม แฟนพันธุ์แท้ปี 2546) อ.ประจำ อู่อรุณ และอ.สมศักดิ์ จวงสวัสดิ์ นอกจากนี้ยังมีการออกใบรับรองพระแท้และการจำหน่ายแสตมป์อีกด้วย"
สำหรับนักสะสมแสตมป์รุ่นลายครามอย่าง ลุงวชิระ สินวัต วัย 60 ปี พูดถึงดวงตราไปรษณียากร ชุด พระเบญจภาคี ว่า เป็นแสตมป์ชุดพระเครื่องที่มีความสวยงามและน่าสนใจอย่างมาก องค์พระแต่ละองค์มีค่ามหาศาลหาดูได้ยากยิ่งนัก ถึงแม้ว่าโดยส่วนตัวจะไม่ได้เป็นนักสะสมพระเครื่องแต่ก็มีความภูมิใจอย่างมากหากมีแสตมป์ชุดที่ไว้ครอบครอง
นอกจากนี้ ลุงวชิระยังให้ความรู้เกี่ยวกับการสะสมแสตมป์ด้วยว่า พูดถึงแสตมป์ที่เกี่ยวกับพระนั้น การพิมพ์ที่เห็นชุดแรกคือชุดลายสือไทย ซึ่งพิมพ์ขึ้นมาในในคราวการครบรอบ 700 ปี ลายสือไทย เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย
ส่วนชุดพระพุทธรูปชุดแรกจริงๆ คงจะเป็นชุดที่พิมพ์เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2527 ในชุดมี 4 ดวง เป็นพระพุทธรูปในยุคเชียงแสน สุโขทัย อู่ทองและอยุธยา ชุดที่ 2 วันวิสาขบูชา 13 พ.ค. 2538 พระแก้ว พระพุทชินราช พระพุทธสิหิงค์ และพระพุทธรูปทองคำวัดไตรมิตร ชุดที่ 3 เป็นพระประจำวันเกิดซึ่งออกวันสำคัญทางศาสนา มีพระประประจำวันอาทิตย์ จันทร์ พุธ และศุกร์ออกมาปีละดวง 5ปีแล้ว
สำหรับในวันที่ 2 มิถุนายน ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา จะมีพระพุทธรูปประจำวันพฤหัสบดีออกมาอุ่นเครื่องให้นักสะสมแสตมป์ที่ชื่นชอบแสตมป์เกี่ยวกับพระ เกจิชื่อดังหรือพระบรมวงศานุวงศ์ได้ชื่นชมกันก่อน
