“เก่ง การุณ” ย้ำ พรรคกล้าธรรม คือการรวมพลัง “คนทำจริง” ชู “ธรรมนัส” ผู้นำกล้าลุยพื้นที่ ไม่กลัวอันตราย อยู่กับประชาชนทุกวิกฤติ พิสูจน์การเมืองที่ลงมือทำไม่ใช่แค่คำพูด
วันนี้ (27 ธ.ค. 2568) ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์กีฬาเยาวชนไทย–ญี่ปุ่น (ดินแดง) พรรคกล้าธรรม นำโดยนายการุณ โหสกุล ที่ปรึกษาประธานยุทธศาสตร์พรรค ร่วมนำขบวนผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กรุงเทพมหานคร ครบทั้ง 33 เขต เดินทางเข้ายื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง พร้อมกล่าวว่า พรรคกล้าธรรมเป็นการรวมตัวของคนพันธุ์พิเศษ ที่มีหัวใจเดียวกัน คือ หัวใจของการลงมือทำจริง มากกว่าการพูด เพราะคนที่พูดมีมาก แต่คนที่กล้าลงมือทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริงยังมีไม่มากนัก ซึ่งพรรคกล้าธรรมยึดมั่นแนวทางการทำงานเช่นนี้มาโดยตลอด
นายการุณ กล่าวถึงบทบาทของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคกล้าธรรมว่า เป็นผู้นำที่กล้าลงพื้นที่ กล้าเผชิญปัญหาด้วยตัวเอง ไม่ว่าพื้นที่จะยากลำบากหรือมีความเสี่ยงแค่ไหน เช่น กรณีเหตุโรงงานแก๊สระเบิด หรือสถานการณ์ภัยพิบัติต่าง ๆ ที่ท่านไม่เคยลังเลที่จะเข้าไปอยู่กับประชาชน แม้จะมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัย แต่ก็ไม่เคยถอย เพราะประชาชนที่เดือดร้อนยังรอความช่วยเหลืออยู่ตรงนั้น
นายการุณ ยังยกตัวอย่างการทำงานในช่วงน้ำท่วมพื้นที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลาว่า สะท้อนให้เห็นถึงรูปธรรมของการทำงานเชิงรุก มีรัฐมนตรีสักกี่คนที่กล้าลงพื้นที่คลุกคลีอยู่กับชาวบ้าน ลุยน้ำ เข้าถึงบ้านเรือนผู้ประสบภัย สั่งการในพื้นที่โดยไม่กลัวฟ้าฝน เพื่อให้ประชาชนคลายความกังวลและความหวาดระแวง จากสถานการณ์ที่การช่วยเหลือของภาครัฐยังไม่สมบูรณ์ สิ่งเหล่านี้คือภาพที่สร้างความประทับใจให้กับประชาชนทั่วประเทศ และเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการเมืองที่ดีต้องเป็นการเมืองที่ ทำจริง
นายการุณ กล่าวต่อว่า ตนได้รับมอบหมายจากประธานพรรคและประธานยุทธศาสตร์ ให้ทำหน้าที่นำพาพรรคกล้าธรรมเข้าสู่สภาให้ได้มากที่สุด ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องทำอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพราะนี่ไม่ใช่เพียงหน้าที่ทางการเมือง แต่คือความรับผิดชอบต่อความคาดหวังของประชาชน
สำหรับประเด็นส่วนตัวเกี่ยวกับเส้นทางชีวิตของลูกชาย นายการุณ เปิดเผยว่า ลูกชายมีความฝันและอุดมการณ์ของตนเอง เติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีเส้นทางชีวิตที่เลือกเดินเอง ซึ่งในฐานะพ่อ ตนพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ในทุกทางที่สามารถทำได้ แต่ในบทบาทของตนในฐานะนักการเมืองและพรรคกล้าธรรม ต้องแยกแยะบทบาทของความเป็นพ่อและความเป็นนักการเมือง


