“อภิสิทธิ์” นำทีมผู้สมัคร สส.กทม. 33 เขต สักการะศาลหลักเมือง เอาชัยก่อนสมัครพรุ่งนี้ การันตี 3 แคนดิเดตนายกฯ ปชป. พร้อมพาประเทศพ้นจน ดันเศรษฐกิจโต 5% ย้ำไม่จับมือ “กล้าธรรม” ทำตามเสียงประชาชน
เมื่อเวลา 07.25 น. วันที่ 26 ธ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย ทีมงานผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานครทั้ง 33 เขต เข้าสักการะศาลหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล สร้างขวัญกำลังใจ และปลุกพลังกลุ่ม “กรุงเทพฯฟ้าใหม่” ก่อนการสมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 27 ธันวาคม 2568
ภายหลังพิธี นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการประกาศรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคจำนวน 3 รายชื่อ ว่า ไม่ใช่การนำบุคคลที่ต่างคนต่างมาอาสาเป็นนายกฯ แต่ทั้ง 3 คนมีที่มาร่วมกัน ทั้งความคิด วิสัยทัศน์ และประสบการณ์การทำงานร่วมกันมาในหลากหลายบทบาท จึงมั่นใจว่า แนวทางการทำงานจะกลมกลืน และมองอนาคตประเทศไปในทิศทางเดียวกัน โดยได้ร่วมกันหารือนโยบายที่จะใช้ในการรณรงค์หาเสียงมาแล้วอย่างรอบคอบ
นายอภิสิทธิ์ ย้ำว่า พรรคไม่ได้เปรียบเทียบแคนดิเดตนายกฯ กับพรรคการเมืองอื่น แต่ต้องการอธิบายให้ประชาชนเห็นกระบวนการคัดเลือกของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยึดอุดมการณ์ วิสัยทัศน์ และความต่อเนื่องในการทำงานเป็นสำคัญ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นว่าแคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 3 คนมีความพร้อมจริง
เมื่อถามถึงกระแสตอบรับจากประชาชน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า จากการลงพื้นที่พบปะประชาชนในหลายพื้นที่ กระแสตอบรับถือว่าดี แต่ประชาชนยังต้องใช้เวลาที่เหลือราว 40 วันในการพิจารณาและเปรียบเทียบตัดสินใจ พร้อมย้ำว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออนาคตประเทศ หากตัดสินใจผิดอาจทำให้ประเทศติดหล่มปัญหาเศรษฐกิจและสังคมเช่นที่ผ่านมา
นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงนโยบายหลัก “ไทยหายจน” ว่า ไม่ได้หมายถึงความจนด้านรายได้เพียงอย่างเดียว แต่ครอบคลุมถึงความจนด้านโอกาส คุณภาพชีวิต และความเป็นธรรม โดยพรรคจะทยอยเปิดนโยบายแก้จนในแต่ละมิติอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมตั้งเป้าหมายที่ตรวจสอบได้ เช่น ภายใน 4 ปี เศรษฐกิจไทยเติบโตเฉลี่ย 5% ลดหนี้ครัวเรือนจากระดับ 80–90% ให้เหลือประมาณ 60% และยกระดับการเมืองสุจริต เพื่อฟื้นอันดับดัชนีความโปร่งใสจากอันดับ 107 กลับมาอยู่ใกล้ระดับ 80 เช่นในช่วงที่พรรคเคยบริหารประเทศ
ส่วนกรณีการประกาศไม่จับมือร่วมรัฐบาลกับ พรรคกล้าธรรม นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่า ไม่ใช่วาทะกรรมทางการเมือง แต่เป็นความตั้งใจที่พูดแล้วทำจริง สอดคล้องกับเสียงสะท้อนจากประชาชนจำนวนมากที่ต้องการเห็นการเมืองสุจริต และไม่ต้องการตอบโต้ทางการเมืองใดๆ
เมื่อถูกถามถึงกระแสที่บางพรรคการเมืองแสดงท่าทีสนับสนุนจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ควรตีความหรือยัดเยียดเกินกว่าที่พูดไว้ โดยย้ำชัดว่า พรรคจะไม่ร่วมงานกับพรรคที่มีนโยบายสร้างความแตกแยกในสังคม และแสดงความห่วงใยต่อประเด็นการแก้ไขกฎหมายอ่อนไหว ซึ่งต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและตรงไปตรงมา
“พรรคพร้อมร่วมงานกับทุกพรรคการเมืองที่ยึดหลักการเมืองสุจริต มีวิสัยทัศน์ชัดเจน และมุ่งทำให้เศรษฐกิจเติบโตเพื่อประโยชน์ของประชาชน โดยย้ำว่า การแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนในวันนี้ คือการป้องกันไม่ให้ประเทศกลับไปสู่การเมืองที่เต็มไปด้วยข้อตกลงลับและความไม่โปร่งใสอีกครั้ง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว


