xs
xsm
sm
md
lg

“เชาว์” เย้ยกธ.ดิ้นพล่าน ชูปชป.ไม่เป็นนั่งร้านทุนเทามีจุดยืนติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูก จำนวนสส.ไม่สำคัญเท่าคุณภาพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อดีตรองโฆษกปชป. ซัด กธ.ดิ้นพล่านเหมือน “ไส้เดือนคลุกขี้เถ้า” ย้ำปชป.ยืนหลักการไม่เป็นนั่งร้านให้ “ทุนเทา” ชี้การมีจุดยืนคือการติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูก ไม่ใช่สร้างขัดแย้ง ชี้เลือกตั้ง 69 จำนวนสส.ไม่สำคัญเท่าคุณภาพ ลั่นไม่เอากธ.เพราะปชป. “กล้าทำ”

วันที่ (24 ธ.ค. 2568) นาย เชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรค พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Chao Meekhuad” ภายใต้หัวข้อ “หยุดบิดเบือน! การ ‘มีจุดยืน’ ไม่ใช่การสร้างความขัดแย้ง แต่การ ‘ไร้หลักการ’ ต่างหาก ที่พาประเทศสู่วิกฤตซ้ำซาก” เพื่อตอบโต้กรณี อนุดิษฐ์ นาครทรรพ แกนนำและโฆษก พรรคกล้าธรรม ออกมาโจมตี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยวาทกรรม “ดีแต่พูด” หลังประกาศจุดยืนไม่ร่วมรัฐบาล

นายเชาว์ระบุว่า ตนไม่ขอลงไปคลุกโคลนสาดกันแบบการเมืองเก่า แต่จำเป็นต้องชี้แจงเพื่อไม่ให้สังคมถูกเบี่ยงประเด็น พร้อมเปรียบพฤติกรรมการเมืองที่กำลังดิ้นทุรนทุรายว่าไม่ต่างจาก “ไส้เดือนคลุกขี้เถ้า” และตั้งข้อสังเกตว่า พรรคกล้าธรรมอ้างจะพาประเทศไปข้างหน้า แต่เนื้อแท้เป็นการรวมตัวของกลุ่มการเมืองหน้าเดิม เพียงเปลี่ยนชื่อใหม่เพื่อหวังกลับสู่อำนาจ

“ใครเคยกราบเท้าใคร แล้วเนรคุณเขาในทางการเมือง คนพรรคนี้ก็น่าจะรู้กันดี”

อดีตรองโฆษกประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า การที่นายอภิสิทธิ์ประกาศไม่ร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม คือการ “ติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูก” เพราะหากยอมจับมือกับพรรคที่ถูกตั้งคำถามเรื่อง “ทุนเทา” เพียงเพื่อหวังเป็นรัฐบาล จะพาประเทศกลับสู่วงจรอุบาทว์ของการทุจริตและความเสื่อมศรัทธา ซึ่งสังคมไทยเคยเผชิญมาแล้ว ขณะที่วาทกรรม “ดีแต่พูด” ถูกใช้เพื่อลดทอนการตรวจสอบ ทั้งที่บทเรียนการเมืองย้ำชัดว่า การยืนหยัดในหลักการสำคัญกว่าการลงมือทำเพื่อพวกพ้อง

นายเชาว์ยังยกผลงานในอดีตของนายอภิสิทธิ์ ชี้ว่าเคยฟื้นฟูประเทศจากวิกฤตการเงินโลก จนเศรษฐกิจไทยเติบโตถึง 7.5% พร้อมย้ำว่าหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เคารพกระบวนการยุติธรรม ไม่เคยหนีคดี ไม่เคยออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ตนเอง และไม่ตระบัดสัตย์เพื่อรักษาเก้าอี้

“การใช้คำว่า ‘ความสามัคคี’ เพื่อปิดปากคำถามด้านจริยธรรม คือการฮั้วกันของนักการเมือง ไม่ใช่ความสามัคคีของประชาชน การขีดเส้นแบ่งไม่ใช่การแตกแยก แต่เป็นการแยก ‘การเมืองสีขาว’ ออกจาก ‘การเมืองสีเทา’”

ช่วงท้าย นายเชาว์ทิ้งท้ายถึงข้อครหาว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีสิทธิ์กำหนดทิศทางการเมือง ว่าเป็นทัศนคติที่มองการเมืองเป็นเพียงเกมตัวเลขและการต่อรองเก้าอี้ พร้อมย้ำว่าในการเลือกตั้งปี 2569 จำนวน ส.ส. ไม่สำคัญเท่าคุณภาพและความศรัทธา

“เราพร้อมเป็นรัฐบาล และพร้อมเป็นฝ่ายค้าน แต่ไม่พร้อมเป็น ‘นั่งร้าน’ ให้ใครเข้าไปโกงบ้านกินเมือง… ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน”


กำลังโหลดความคิดเห็น