"เสกสกล" แรมโบ้ อีสาน คัมแบ๊ก พปชร.จ่อลงสมัคร สส.เขต 10 โคราช มั่นใจคนในพื้นที่ยังสนับสนุน ในฐานะอดีต สส. 3 สมัย ผลงานประจักษ์ไม่หวั่นอำนาจทุนใดๆ
ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยนายกรัฐมนตรีและอดีตที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองที่อยู่ในช่วงการยุบสภาฯ โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกกต.เตรียมความพร้อมจัดการเลือกตั้ง หลังเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2568 เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งตามกรอบเวลา ต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง สส.เป็นการทั่วไป ภายในไม่เกิน 60 วัน ซึ่งกกต.มีมติเห็นชอบร่างแผนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และวันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้งและนอกเขตเลือกตั้งแล้วนั้น
"ล่าสุดผมได้เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐแล้ว โดยพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ให้โอกาสในการลงสมัครรับเลือกตั้งเขต 10 จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งประกอบด้วยอำเภอโชคชัย อำเภอครบุรี (เฉพาะตำบลแชะ ตำเฉลียง ตำบลบ้านใหม่ ตำบลจระเข้หิน ตำบลอรพิมพ์ ตำบลครบุรีใต้ ตำบลครบุรี) อำเภอเฉลิมพระเกียรติ( เฉพาะตำบลหนองงูเหลือม ตำบลพระพุทธ และตำบลหนองยาง )
นายเสกสกล ระบุว่า ตนในฐานะเป็นคนในพื้นที่นครราชสีมา และเคยได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในพื้นที่เขต 10 ให้เป็น สส.ถึง 3 ครั้ง ในปี 2544,2548, 2549ประกอบกับได้สังกัดพรรคพลังประชารัฐ ก็มั่นใจว่าพี่น้องประชาชนจะยังให้การสนับสนุน ให้เป็นผู้แทนเข้าไปแก้ไขปัญหาให้อีก
“ผมเองมั่นใจว่าประชาชนในพื้นที่ยังคิดถึงตนเองอยู่ เพราะในขณะที่เป็น สส.นั้นได้เข้าไปแก้ไขปัญหาหลายอย่าง ขณะเดียวกันที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นไม่ว่าคู่แข่งจะเป็น สส.เดิม หรือบ้านใหญ่ก็ไม่กลัว เพราะการเคยเป็นสส.มาแล้วผลงานเป็นที่ประจักษ์ ประชาชนเข้าถึง เรียกง่ายใช้คล่องและผมเป็นคนติดดินเป็นกันเองกับพี่น้องทุกคน จึงไม่หวั่นเกรงอำนาจทุนใดๆทั้งสิ้น” นายเสกสกล กล่าว
นายเสกสกล กล่าวย้ำว่า ในอดีตเคยลงสมัครในพื้นที่ดังกล่าวและได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งมาถึง 3 ครั้ง ทั้งปี 2544 ปี 2548 และปี 2549 แต่ในปี 2544 ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ไปอยู่บ้านเลขที่ 111 จึงส่งนายสัมภาษณ์ อัตถาวงศ์ พี่ชาย ลงสมัครรับเลือกตั้งแทนและได้รับชัยชนะ อย่างไรก็ตามในปี 2562 ได้กลับมาลงสมัครเลือกตั้ง สส. ในนามพรรคพลังประชารัฐ หลังจากถูกเว้นวรรค
ทางการเมืองนับ 10 ปี แม้ว่าจะแพ้การเลือกตั้ง แต่คะแนนที่ได้ 30,000 คะแนน ถือเป็นคะแนนเฉพาะตัวที่คนพื้นที่ให้การสนับสนุน"นายเสกสกล กล่าว
นายเสกสกล กล่าวอีกว่า จากนั้นการเลือกตั้งในปี 2566 ที่ผ่านมา ตนเองไม่ได้ลงสมัครเลือกตั้งแบบแบ่งเขต แต่ลงสมัครแบบบัญชีรายชื่อ ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ลำดับที่ 15 ปัจจุบันบัญชีรายชื่อของพรรครวมไทยสร้างชาติ
ได้เป็น สส. ถึงลำดับที่ 20 เนื่องจากขณะนั้น ตนมีความประสงค์ไม่เป็น สส. ขณะเดียวกันมีความขัดแย้งภายในพรรค ที่มีความเห็นต่างทางการเมือง จึงลาออกจากพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อสละสิทธิ์การเป็น สส. พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งแม้จะลาออกจากการเป็นสส. ไม่ได้มีตำแหน่งอะไรทางการเมือง แต่ก็ยังลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ทราบความต้องการของพี่น้องประชาชนดี
ทั้งนี้ การเลือกตั้งในปี 2566 ได้มีการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ 10 ใหม่ โดยอำเภอเสิงสาง และอำเภอครบุรี (5 ตำบล) ไปอยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 11 รวมกับอำเภอหนองบุญมาก อำเภอเสิงสาง และอำเภอครบุรี(5 ตำบล) ในเขตเลือกตั้งที่ 10 จึงมีอำเภอโชคชัย อำเภอครบุรี(7 ตำบล) และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ(3 ตำบล)
สรุปจำนวนประชากรในเขตเลือกตั้งที่ 10 อำเภอโชคชัย มีจำนวนประชากร 92,237 คน และจำนวนผู้มีสิทธิ์60,617 คน
อำเภอครบุรี มีจำนวนประชากร 60,582 คน และจำนวนผู้มีสิทธิ์50,096 คน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ มีจำนวนประชากร 23,128 คน และจำนวนผู้มีสิทธิ์ 19,214 คน คาดว่าผู้สมัครที่มีโอกาสจะต้องสู้ในการเลือกตั้ง มี 3 คน คือ1. นายอภิชา เลิศพชรกมล พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นสส.ปัจจุบัน 2. นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีต สส. พรรคภูมิใจไทย และตนเอง ในอดีตเป็นสส.ทั้งพรรคไทยรักไทย และพรรคเพื่อไทย
"การลงพื้นที่หาเสียงครั้งนี้ ในนามพรรคพลังประชารัฐ ผมต้องลงพื้นที่รักษาฐานคะแนนเสียงในอำเภอครบุรีไว้ให้ได้อย่างเหนียวแน่น และลงพื้นที่หาเสียงในอำเภอโชคชัย และอำเภอเฉลิมพระเกียรติใน 3 ตำบล เพื่อสู้กับผู้สมัคร
อีก 2 คนดังกล่าว ถ้าพรรคคู่แข่งไม่มีการเปลี่ยนตัว หากเปรียบเทียบแล้ว ผมในฐานะมีภูมิลำเนาเกิดและมีฐานเสียงอยู่ในอำเภอครบุรี ขณะที่คู่แข่ง มีภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอโชคชัย ดังนั้นในฐานะที่ผมเป็นลูกหลานและเป็นอดีตสส. ที่เคยชนะการเลือกตั้งมาถึง 3 ครั้ง เชื่อมั่นว่าประชาชนยังจะให้การสนับสนุนเลือกให้กลับเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎร เป็นปากเป็นเสียงแทนพี่น้องประชาชนในสภาผู้แทนราษฎร ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ในนามผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ"นายเสกสกล กล่าว


