xs
xsm
sm
md
lg

หน่วยงานกีฬา อ้างกลางที่ประชุม กมธ.ติดตามงบฯ สว. ห่างหายจากจัดซีเกมส์เลยมีปัญหา ด้าน “ภิญญาพัชญ์“ ย้ำต้องเพิ่มความโปร่งใสและยกระดับมาตรฐานเจ้าภาพในอนาคต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้(23 ธ.ค.)นางสาวภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะรองโฆษกคณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ วุฒิสภา แถลงผลการประชุมติดตามการใช้งบประมาณและการดำเนินงานเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 หลังการแข่งขันสิ้นสุดลง โดยได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. เข้าชี้แจง

นางสาวภิญญาพัชญ์ ระบุว่า ที่ประชุมได้รับทราบภาพรวมงบประมาณการจัดการแข่งขัน รวมทั้งสิ้น 2,861.34 ล้านบาท ซึ่งได้รับการจัดสรรครบถ้วน แบ่งเป็นงบตามมติคณะรัฐมนตรี 2,055 ล้านบาท เงินสิทธิประโยชน์จากภาคเอกชน 154 ล้านบาท เงินจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ 653 ล้านบาท รวมถึงงบโอนข้ามแผนงานประมาณ 178 ล้านบาท และงบกลางที่ กกท. ขอรับการจัดสรร 459 ล้านบาท แต่ได้รับจริง 434 ล้านบาท เพื่อรองรับการแข่งขันทั้ง 54 ชนิดกีฬา

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการฯ มีข้อสังเกตถึงการบริหารงบประมาณที่ล่าช้าและไม่ครบถ้วน ทำให้ต้องพึ่งพางบกลางและการโอนงบจากแผนงานอื่นเพิ่มเติม โดยเฉพาะปัญหาการเบิกจ่ายเงินไปยังนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ที่ล่าช้า จากขั้นตอนธุรการหลายระดับ ตั้งแต่สมาคมกีฬา ไปยังคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย จนถึง กกท. โดยเฉพาะเงินจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติที่พบปัญหาความล่าช้าชัดเจนที่สุด

สำหรับข้อสงสัยของสังคมต่อความเป็นมืออาชีพในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชี้แจงว่า ประเทศไทยไม่ได้เป็นเจ้าภาพซีเกมส์มานานถึง 19 ปี และต้องรับไม้ต่อเร็วกว่ารอบปกติ เนื่องจากประเทศเจ้าภาพเดิมไม่พร้อม ส่งผลให้ขาดบุคลากรที่มีประสบการณ์ต่อเนื่อง รวมถึงมีการเพิ่มชนิดกีฬาในภายหลัง และขั้นตอนการกลั่นกรองงบประมาณที่ซับซ้อน ซึ่งคณะกรรมาธิการเห็นว่าเป็นเหตุผลที่พอรับฟังได้

ส่วนข้อผิดพลาดด้านการจัดการและเทคนิคที่ปรากฏตามสื่อ อาทิ การขึ้นธงชาติผิด การสะกดคำภาษาอังกฤษผิด การประชาสัมพันธ์ล่าช้า หรือปัญหาการตัดสิน คณะกรรมาธิการฯเห็นว่าเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไข โดยสั่งการให้ กกท. นำทุกประเด็นไปถอดบทเรียนอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดซ้ำในการจัดงานระดับนานาชาติครั้งต่อไป

นางสาวภิญญาพัชญ์ ยังกล่าวถึงความสำเร็จด้านกีฬา โดยแสดงความยินดีที่ไทยคว้าอันดับหนึ่งเจ้าเหรียญทอง ด้วย 233 เหรียญทอง รวม 499 เหรียญ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศอย่างยิ่ง ขณะที่ในมิติเศรษฐกิจ มีข้อมูลจากหอการค้าไทยระบุว่าสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 12,128 ล้านบาท และมีการใช้จ่ายจากผู้เข้าร่วมกว่า 4,160 ล้านบาท แม้ตัวเลขดังกล่าวยังต้องรอการประเมินผลหลังการแข่งขันอย่างละเอียด

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ เห็นว่าการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งนี้ถือเป็นเกียรติยศของประเทศ และประสบความสำเร็จในเชิงสังคมและภาพลักษณ์ในอาเซียน แม้จะมีความคลาดเคลื่อนด้านงบประมาณ จนต้องใช้งบกลางมาช่วย โดยเสนอให้ กกท. นำปัญหาที่เกิดขึ้นไปปรับปรุง พร้อมเน้นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น เพื่อให้การใช้งบประมาณภาครัฐเกิดความคุ้มค่าและสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกันอย่างแท้จริง

นางสาวภิญญาพัชญ์ ย้ำว่า คณะกรรมาธิการฯ ให้ความสำคัญกับประเด็นความโปร่งใสเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะกรณีการเปลี่ยนแปลงผู้ดำเนินการจัดงานระหว่างทาง ซึ่งได้ตรวจสอบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างว่าเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และหลักธรรมาภิบาล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการใช้เงินภาษีประชาชน พร้อมย้ำว่า เป้าหมายสูงสุดของการเป็นเจ้าภาพ ไม่ใช่เพียงให้การแข่งขันจบลงได้ แต่ต้องทำให้ประเทศไทยถูกจดจำในฐานะเจ้าภาพที่มีศักยภาพ มีมาตรฐาน และสร้างความประทับใจอย่างยั่งยืนในสายตานานาชาติ


กำลังโหลดความคิดเห็น