เพื่อไทย ลุยต่อสุพรรณฯ รับฟังปัญหาปชช. ชาวบ้านขอหากกลับมาเป็นรบ.อย่ายกกระทรวงเกษตรฯให้ใคร ก่อนขึ้นปราศรัยเวทีแรก ”ยศชนัน“ อ้อนเลือกเพื่อไทยยกจว. สุพรรณเปลี่ยนได้ ประเทศเปลี่ยนได้ “จุลพันธ์” บอกเลือกพท.จะคืนชีวิตที่ดีให้ ปชช.
วันนี้ (21ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.40 น. นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พร้อมคณะว่าที่ผู้สมัคร สส.สุพรรณบุรี ได้แก่นายประยูร อินสกุล ว่าที่ผู้สมัคร สส.สุพรรณบุรี เขต 1 นายชัยพร สีถัน ว่าที่ผู้สมัคร สส.สุพรรณบุรี เขต 2 น.ส.กุลธิดา เหมาเพชร ว่าที่ผู้สมัคร สส.สุพรรณบุรี เขต 3 ลงพื้นที่ ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พูดคุยและรับฟังปัญหาเรื่องสินค้าการเกษตร และการบริหารจัดการ โดยได้นั่งล้อมวงพูดคุยกับตัวแทนชาวบ้าน และเกษตรกร
ซึ่งชาวบ้านได้สะท้อนปัญหาเรื่องการจัดการน้ำและราคาพืชผลการเกษตร โดยระบุว่า ปัจจุบันราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ แต่ต้นทุนสูง รัฐบาลเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทำให้การแก้ไขปัญหาไม่ต่อเนื่อง ดังนั้นอยากฝากว่าหากได้เป็นรัฐบาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่ายกให้ใคร และขอให้เอาคนที่มีความรู้ ความเข้าใจด้านการเกษตร มาเป็นรัฐมนตรี
จังหวะนี้ทำให้นายจุลพันธ์หัวเราะ และถามกลับว่า “ไม่ให้ยกกระทรวงเกษตรฯ ให้ใครใช่หรือไม่” ตัวแทนชาวบ้าน จึงย้ำว่า “กระทรวงเกษตรฯ อย่ายกให้” พร้อมขอให้ช่วยดูเรื่องราคาข้าวไม่ให้ต่ำกว่า 10,000-20,000 บาทต่อตัน เพาะต้นทุนสูง
ด้านนายยศชนัน กล่าวว่า ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านน้ำท่วม ภัยแล้ง การคมนาคม ว่าที่ผู้สมัคร สส. ได้สกัดประเด็นมาให้ตนรับทราบแล้วเพื่อนำไปจัดทำนโยบายแก้ไขปัญหาในพื้นที่ โดยเรื่องพันธุ์ข้าว ปุ๋ย เราจะนำวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย รวมถึงระบบเตือนภัยเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย ฉะนั้น เราจะมีการประกันกำไรสินค้าการเกษตร 30 เปอร์เซ็นต์ เพื่อที่จะสามารถทำให้พวกเรายืนอยู่ได้ด้วยขาของตัวเอง ทั้งนี้ ในส่วนของราคาการเกษตรต้องมีการควบคุม ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลจากทางกระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ เราเริ่มไว้แล้ว และพร้อมทำทันทีเมื่อเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลครั้งต่อไป
ขณะที่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า นโยบายด้านการเกษตรที่พรรคเพื่อไทยเตรียมจะเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คือ นโยบายประกันกำไรสินค้าการเกษตร 30 เปอร์เซ็นต์ โดยเราจะมีการแจกคูปอง 2 คูปองคือ 1.คูปองเพื่อซื้อปุ๋ย 250 กิโลกรัมต่อคน และ 2.คูปองเมล็ดพันธ์ ให้รับเมล็ดพันธ์ที่แข็งแรงจากรัฐ นอกจากนี้ ยังมีนโยบายพักหนี้ให้เกษตรกร 5 แสนบาทใน 3 ปี โดยไม่ต้องชำระทั้งต้นและดอก เชื่อว่าจะเป็นความหวังให้ประชาชน ทั้งนี้ เพื่อไทยไม่เคยทิ้งเกษตรกร เพราะฐานเสียงเรามาจากเกษตรกร ย้ำว่านโยบายประกันกำไร 30 เปอร์เซ็นต์ จะนำไปใช้กับสินค้าเกษตรทุกประเภท
ต่อมาเวลา 11.50 น. ที่ศาลาการเปรียญวัดโพธิ์ท่าทราย นายยศชนัน พร้อมคณะเดินทางพบประชาชนที่มารับฟังการปราศรัยเต็มศาลา โดยนายยศชนัน ปราศรัยว่า “ขอเสียงพี่น้องชาวสุพรรณบุรีหน่อย ใครว่ายศชนันพูดเสียงดังไม่ดัง นายจุลพันธ์ บอกว่ารอบนี้หาเสียงปราศรัยไม่ใช่มาบรรยาย กลัวพี่น้องจะหลับ วันนี้เป็นเวทีแรกจริงๆที่ผมได้มาพบพี่น้องทุกท่าน สิ่งที่อยากจะบอกกับพี่น้อง เหตุที่เรามาสุพรรณบุรีก่อนเพราะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ เป็นจังหวัดเก่าแก่ที่อยากให้ประชาชนเห็นว่าถ้าสุพรรณบุรีเปลี่ยนได้ประเทศไทยเปลี่ยนได้แน่นอน เวลาไปต่างประเทศคนพูดถึงประเทศไทยในแง่ดีว่าเราเป็นคนไทยหัวใจประเทศไทย ในการแสดงวิศัยทัศน์ ผมพูดถึงเกษตรกรก่อน เกษตรกรเดินไปข้างหน้าได้เลยผมและนายจุลพันธ์ จะบังหลังให้ไม่มีการแทงข้างหลังแน่นอน และตนจะไปทำงานกับทีมหลังบ้าน พัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเต็มรูปแบบ พัฒนาเครื่องจักรทางการเกษตรเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีขึ้นซึ่งตรงนี้ตนกระทำโดยที่น้องไม่ต้องช่วย สำหรับเรื่องราคาสินค้าการเกษตรเราจะพยายามดันราคาข้าวไปถึง 10,000 บาทข้าวหอมมะลิจะดันให้ถึง 15,000 บาทนี่คือเป้าที่วางไว้ แต่เมื่อต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆที่สูงขึ้น เราจึงคิดกันว่าจะประกันกำไร 30% ให้ประชาชน เพื่อให้ประชาชนลุกขึ้นยืนได้อีกครั้งรวมถึงจะมีการจัดการเรื่องการแปรรูปส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนเอาพลังจากภาครัฐมาให้ท้องถิ่นตามหลักการคืนอำนาจให้ประชาชน
นายยศชนัน กล่าวอีกว่า ประเทศเคยเจอปัญหาวิกฤติในปี 2540 การแก้ไขปัญหาสามารถทำได้ วันนั้นมีพรรคการเมืองหนึ่งเกิดขึ้นมาและช่วยปลดหนี้ซึ่งก็คือสมัยพรรคไทยรักไทย วันนี้เรามีคนของพรรคไทยกลับมาช่วยหลายคน องค์ความรู้ไม่เสียเปล่า ในปี 2568 มีปัญหาเยอะ มีการเปลี่ยนแปลง ในเรื่องต่างๆเช่นสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป จึงต้องใช้ควรมีประสบการณ์และตอนนี้ทุกคนมารวมกันอยู่ในพรรคเพื่อไทย เราจะทำให้ประชาชนชาวไทยโดยเฉพาะจังหวัดสุพรรณบุรีลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง ขอให้เลือกเพื่อไทยทั้งจังหวัด
ขณะที่จุลพันธ์ กล่าวว่า วันนี้เราไม่ได้มาแค่แคนดิเดตฯ แต่เรามากับนโยบาย พักหนี้เกษตรกร รายละไม่เกิน 500,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งดำเนินการตั้งแต่สมัยรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน จนถึงน.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ รวมถึงนโยบายการแจกคูปอง 2 ใบ แลกปุ๋ยและเมล็ดพันธ์ วันนี้พรคเพื่อไทยเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ซึ่งมีไม่กี่สีที่จะเลือก แต่สีแดงยังแรงเสมอ ฝากให้เข้าคูหาเลือกเพื่อไทยทั้งคนและพรรคเอานโยบายคืนกลับไป เอาชีวิตดีดีคืนให้กับทุกคน
จากนั้นนายยศชนัน ได้เดินทักทายประชาชนและถ่ายภาพกับคนที่มารับฟังการปราศรัยอย่างเป็นกันเอง


