xs
xsm
sm
md
lg

ไม่ต้องแปล “หลิว จงอี้” ชี้ชัดๆ รัฐบาลกัมพูชาเชื่อมโยง และมีผลประโยชน์ร่วมกับขบวนการสแกมเมอร์! ** ฝันเป็นรัฐบาลพรรคเดียว “นายกฯเท้ง” ตั้งรองนายกฯ ไว้ล่วงหน้าแล้ว 4 คน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว




++ ไม่ต้องแปล “หลิว จงอี้” ชี้ชัดๆ รัฐบาลกัมพูชาเชื่อมโยง และมีผลประโยชน์ร่วมกับขบวนการสแกมเมอร์!

สถานการณ์ชายแดนเข้าสู่วันที่ 11 ที่ไทยเราต้องรับมือกับ "BM-21" หรือ “กระสุนเงินเทา” จากฝั่งกัมพูชา ที่สาดเข้ามาไม่หยุดหย่อน ส่งกำลังใจให้รั้วของชาติทุกนายปลอดภัย

หลายคนสงสัยว่า ทำไมรอบนี้ปฏิบัติการทางการทหารจึงใช้เวลานาน

เบื้องหลังปฏิบัติการเป็นที่ชัดเจนว่าไม่เพียงปกป้องอธิปไตย ยัง "ล้างบางแก๊งสแกมเมอร์" ไปด้วย ดังที่เห็นกองทัพไทยเดินหน้าถล่มฐานปฏิบัติการอาคารกาสิโนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 6 แห่ง

ข้อมูลวงในระบุว่า ตึกเหล่านั้น คือ “รังโจร!” อย่างน้อย 2 ใน 6 แห่งที่ถูกถล่ม เป็นรีสอร์ตและกาสิโน ที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรทางการเงิน และยึดทรัพย์เจ้าของไปก่อนหน้านี้แล้ว จากการพัวพันกับธุรกรรมสแกมเมอร์ ที่หลอกลวงชาวอเมริกันมาอย่างยาวนาน

เพราะฉะนั้นจึงอธิบายได้ว่า เหตุใดหลายประเทศแม้จะเรียกร้องหยุดยิง แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใดที่เป็นรูปธรรมต่อไทย รวมถึงท่าทีของสหรัฐฯ ที่ดูเหมือนปรามตามมารยาท ในฐานะผู้สนับสนุนสันติภาพ

เพราะในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่รัฐบาลและกองทัพไทยกำลังทำอยู่ ไม่ใช่การขยายสงคราม แต่คือการ “ตัดรากอาชญากรรมข้ามชาติ” และช่วยปกป้องประชาชนทั่วโลกจากเครือข่ายโจรสแกมเมอร์

กองทัพไทย ย้ำว่า ไม่ใช่แค่การป้องกันอธิปไตยของไทย แต่คือการยืนหยัดแนวหน้าแทนโลกทั้งใบ ในการรับมือภัยคุกคามรูปแบบใหม่ อย่างตรงไปตรงมา

เกี่ยวพันกันนี้ ที่น่าสนใจ คือเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 68 ที่ผ่านมา ที่กองบัญชาการกองทัพบก "พลเอกดิเรก บงการ" หัวหน้าศูนย์ประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ได้ให้การต้อนรับ "หลิว จงอี้" ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน (MPS) พร้อมด้วยคณะผู้แทนจากกรมสอบสวนคดีอาญา กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กองสอบสวนอาชญากรรมโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ต กระทรวงความมั่นคงสาธารณรัฐประชาชนจีน

หลิว จงอี้ เข้าพบ พล.อ.ดิเรก บงการ
ฟังว่า ไฮไลต์ในวงสนทนา พลเอกดิเรก บอกว่า ตอนนี้สแกมเมอร์เริ่ม "แตกฮือ" เหมือนผึ้งรังแตก พยายามแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว-นักลงทุนเข้าไทย งานนี้ถ้าจีนช่วยส่ง "แบล็กลิสต์" มาให้คัดกรอง รับรองว่าสกัดจับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ผิดตัว

ฝ่ายจีนชมไม่ขาดปาก เรื่องผลงานที่ “ไทย-เมียนมา-จีน” ร่วมกันกวาดล้างที่เมียวดี รวบคนจีนกลับบ้านได้กว่า 6,600 คน! แถมตอนนี้ที่ KK Park เมียนมา เขาส่งตำรวจบุกตรวจตึกไปแล้วกว่า 400 แห่ง

เรียกว่า งานนี้สแกมเมอร์ฝั่งพม่า ไม่มีที่อยู่!

“ หลิว จงอี้” ได้ขอความร่วมมือให้ไทยเพิ่มมาตรการสกัดกั้นผู้กระทำผิด ที่พยายามใช้ไทยเป็นเส้นทางผ่าน ทั้งทางธรรมชาติ และด่านตรวจคนเข้าเมือง รวมทั้งกล่าวว่า อุปกรณ์ที่ขบวนการสแกมเมอร์ใช้ ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง คือหลักฐานสำคัญที่จะใช้ในการดำเนินคดี และขยายผลเครือข่ายอาชญากรรม จึงต้องมีการดำเนินการเก็บวัตถุพยานอย่างรอบคอบ และรัดกุม ซึ่งวิธีดังกล่าวเป็นวิธีที่ทางการจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินการที่ผ่านมา
ที่สำคัญ “หลิว จงอี้” ชี้ชัดๆ ว่า รัฐบาลกัมพูชา มีความเชื่อมโยงและมีผลประโยชน์ร่วมกับขบวนการสแกมเมอร์ในหลายมิติ!
ชัดเจนแบบนี้คงไม่ต้องแปลนะ “ฮุน เซน” !

.

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
++ ฝันเป็นรัฐบาลพรรคเดียว “นายกฯเท้ง” ตั้งรองนายกฯ ไว้ล่วงหน้าแล้ว 4 คน

ตั้งแต่พรรคประชาชน เล่นบท “ฝ่ายค้ำ” โหวตหนุนให้ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี แลกกับความหวังลมๆ แล้งๆ ว่าจะแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จ แก้มาตรา 112 ได้ โดยที่ตัวเองไม่ร่วมรัฐบาล ไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรี

กระแสความนิยมของ“พรรคส้ม” ก็ตกต่ำลงเรื่อยๆ เพราะสังคมต่างมองว่า นั่นเป็นความคิดของ “ละอ่อนทางการเมือง” คงไปหวังพึ่งพิง ฝากผี ฝากไข้ ไม่ได้แล้ว

ส่วนทางกับพรรคภูมิใจไทย ที่โตวันโตคืน เพราะเมื่อ “อนุทิน” เป็นนายกฯ ก็เท่ากับถืออำนาจรัฐ ถืองบประมาณ และอื่นๆ อยู่ในมือ ซึ่งในทางการเมืองถือว่า เป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการเลือกตั้งแบบครบวงจร

บรรดานักเลือกตั้ง กลุ่มมุ้งการเมือง กระทั่งพรรคการเมืองอย่าง “พรรคชาติไทยพัฒนา” ของ “ลูกชายบรรหาร” ยังต้องวิ่งเข้าหา โดยยอมแช่แข็งพรรคการเมืองของตัวเองไว้ชั่วคราว

ตอนเกิดวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ภาคใต้ ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และจังหวัดใกล้เคียง บรรดาแกนนำ “พรรคส้ม” ก็ไม่ได้ลงไปช่วยเหลืออย่างแข็งขัน จริงจัง จะมีสส.ที่พื้นเพเป็นคนภาคใต้ลงไปช่วยบ้าง แต่ก็หนักไปทาง “ทำคอนเทนต์” มากกว่าตั้งใจไปช่วย
ยิ่งเมื่อเกิดสงครามไทยกัมพูชา มีการ อพยพผู้คน ภาคเอกชนเปิดรับบริจาคสิ่งของเพื่อไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน “พรรคส้ม”ก็ไม่รู้ร้อน รู้หนาว มือไม่พายยังเอาเท้าราน้ำ ออกมาให้ข่าว “ด้อยค่าทหาร” อีกต่างหาก

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ
“เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ถึงกับออกมาบอกว่า ทหารไทยไม่ควรรบแบบรุกคืบ หรือสุดซอย เพราะจะตกหลุมพรางฝ่ายตรงข้าม แต่ให้รัฐบาลรีบหาทางเจรจา เพื่อสันติภาพ ก่อนที่ต่างชาติจะมองว่าไทยเป็นผู้รุกราน
ท่าทีของพรรคส้ม ต่อเรื่องน้ำท่วม เรื่องสงคราม ทำคะแนนนิยมถดถอยอย่างเห็นได้ชัด มีผลโพลของ “นิด้าโพล”
ยืนยันชัดเจน

และที่ดิ่งหนักก็เรื่องแก้รัฐธรรมูญ วาระ 2 ที่ถูกพรรคภูมิใจไทย จับมือกับสว. โหวตคว่ำ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในประเด็นที่ว่า ในการแก้รัฐธรรมนูญ ให้ใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกรัฐสภาให้ความเห็นชอบ โดยให้ตัดเสียงสว.1 ใน 3 ออก ซึ่งของเดิมนั้น นอกจากใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งแล้ว ในจำนวนเสียงที่ให้ความเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งนั้น ต้องมีเสียงสว. อย่างน้อย1 ใน 3 หรือเท่ากับ 67 เสียงด้วย

เมื่อถูกคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคประชาชน ก็เตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงทำให้“อนุทิน” ชิงประกาศยุบสภา
การยุบสภาครั้งนี้ทำให้ พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย ถูกวิพากวิจารณ์อย่างหนักว่า ห่วงแต่ประโยชน์ทางการเมือง ชิงความได้เปรียบ หนีการซักฟอก ห่วงแต่เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ห่วงประเทศชาติที่กำลังอยู่ในภาวะสงคราม

พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์
“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ผู้นำทางความคิดและจิตวิญญาณของพรรคส้ม ก็รับรู้ได้ถึงกระแสความไม่พอใจของสังคม จึงยกขบวนพาแกนนำพรรคทั้งรุ่นเก่า รุ่นใหม่ ไป “ปิกนิก” ที่ มศว. ประสานมิตร เพื่อขอโทษประชาชน ที่ไปทำ MOA แบบไร้เดียงสา กับพรรคภูมิใจไทย

แล้วก็มีคำพูดที่เป็นประเด็นคือ “ธนาธร” บอกว่า ถ้าวันนั้น “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นนายกฯ ก็คงไม่มีวันนี้ วันที่ไทยต้องรบกับกัมพูชา เพราะมั่นใจว่าจะใช้ “การทูต” ยับยั้งได้ เพราะไม่มีใครกระหายเลือด กระหายสงคราม ทุกคนต้องการสันติภาพ
เรื่องนี้ทำเอาโซเชียลฯ ไปขุดคำพูดเก่าๆ ของ “พิธา” ที่เคยด้อยค่าทหาร ด้อยค่ากองทัพ มาเย้ยหยัน ...อย่างเช่นมีทหารไว้ทำไม ...ถึงรบไปก็ไม่มีทางชนะ ...การรบยุคใหม่เขาใช่เรือประมง เป็นต้น

นอกจากนี้“ธนาธร” ยังบอกว่า บทเรียนครั้งนี้ ทำให้เราไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องสามัคคี ช่วยกันสนับสนุนพรรคต่อไป ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ให้ได้เสียงเกิน 250 เสียง เพื่อเป็นรัฐบาลพรรคเดียว!

เดชรัตน์ สุขกำเนิด
ขณะที่ “ธนาธร” เรียกร้องหาพลังความสามัคคีจาก“ด้อมส้ม” แต่ภายในพรรคแทบว่าจะตีกันตาย ในเรื่องการจัดคนลงสมัครรับเลือกตั้ง ทั้ง สส.เขต และสส.บัญชีรายชื่อ

อดีต สส.เจ้าของพื้นที่หลายคน ไม่ได้รับการพิจารณาให้ลงสมัครต่อ หลายคนถูกจัดให้ขึ้นไปอยู่ในปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อเลี่ยงปัญหาคดีความที่มีแนวโน้มจะมีข้อยุติในทางลบ หรืออย่าง “สส.หนีทหาร” เมื่อถูกศาลตัดสินจำคุก ก็ให้เมียมาลงสมัครแทน
ภาพของ “พรรคส้ม” ที่เคยโออวดว่า เป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ ประชาธิปไตยหัวก้าวหน้า แต่เนื้อในก็ไม่ต่างกับเผด็จการ ที่มีระดับ “โปลิตบุโร” ของพรรคเพียงไม่กี่คนคอยชี้นิ้ว บยังเล่นการเมืองแบบพวกพ้อง ผัวเมีย เครือญาติ สืบทอดอำนาจ

วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร
ขนาด “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ที่เป็น “เดอะแบก” ของพรรคยังทนไม่ไหว ประกาศขอไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้
แต่กระนั้น “พรรคส้ม” ก็พยายามกลบเกลื่อนเรื่องปัญหาภายในพรรค สร้างภาพว่า จะชนะเลือกตั้งแน่นอน มีโอกาสได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียว โดยมี “เท้ง ณัฐพงษ์” เป็นนายกฯ

ศิริกัญญา ตันสกุล
ล่าสุด “นายกฯเท้ง” ยังตั้ง รองนายกฯ ไว้ล่วงหน้าแล้วถึง 4 คน คือ 1. “พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์” อดีต สส.พรรคประชาชน ดูแลเรื่องประชาธิปไตยและความมั่นคงใหม่ 2. “เดชรัตน์ สุขกำเนิด” ผู้อำนวยการ Think Forward center และอดีตที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน ดูแลเรื่องคุณภาพชีวิตใหม่ 3. “วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร” แคนดิเดตนายกฯ ดูแลเรื่องเศรษฐกิจใหม่ และ 4. “ศิริกัญญา ตันสกุล” แคนดิเดตนายกฯ ดูแลเรื่องการปฏิรูปรัฐบริหารราชการแผ่นดินใหม่

ขณะที่กระแสความนิยมของทั้งคน และพรรค ดิ่งวูบ แต่ “เท้ง” มั่นใจเบอร์นี้ เลยไม่รู้ว่า กำลังสร้างภาพหลอก “ติ่งส้ม” หรือ “หลอกตัวเอง” กันแน่


กำลังโหลดความคิดเห็น