ศาลรธน.ตีตกคำร้อง "วัฒนา เมืองสุข" ดิ้นขอวินิจฉัย ปมศาลฎีกาอาญานักการเมือง ใช้พยานที่ได้มามิชอบมาพิจารณาลงโทษ ชี้คดีถึงที่สุดแล้ว จึงไม่มีสิทธิ์ยื่นร้อง
วันนี้ (18ธ.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์สั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยในคดีที่นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นักโทษคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร ผู้ร้อง ขอให้ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ213โดยอ้างว่า การพิจารณาพิพากษาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผู้ถูกร้องที่ 1และศาลฎีกา ผู้ถูกร้องที่ 2ที่นำพยานหลักฐานที่ได้มาโดยมิชอบเข้าสู่การพิจารณาคดีของผู้ร้องไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 226และการพิพากษาลงโทษผู้ร้องไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่ใช้บังคับขณะผู้ร้องกระทำความผิดขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 5 วรรคหนึ่ง มาตรา 29 วรรคหนึ่ง มาตรา 188 และมาตรา 194 วรรคสอง โดยศาลฯเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบ เป็นเรื่องที่ศาลอื่นมีคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดแล้ว
ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561มาตรา 47(4) ซึ่งมาตรา 46 วรรคสาม บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องไว้พิจารณา ดังนั้น ผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 213
อย่างไรก็ตามก่อนการพิจารณาคำร้องนี้ก่อนพิจารณาคำร้องนี้ นายจิรนิติ หะวานนท์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญขอถอนตัวจากการพิจารณาคดีเนื่องจากเคยทำหน้าที่กรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)
ในการสอบสวนเรื่องนี้ แม้ว่า คตส. จะสอบสวนยังไม่สิ้นสุดและโอนคดีให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)ดำเนินการสอบสวนและทำความเห็นส่งฟ้องต่ออัยการสูงสุด (อสส.) ต่อไปที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วไม่อนุญาตให้ถอนตัว เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องพิจารณานี้


