xs
xsm
sm
md
lg

“สุริยะ” ลั่นพร้อมสานต่อรถไฟฟ้า 20 บาท - บ้านเพื่อคนไทย หาก พท.เป็ฯรัฐบาล โวผลงานอดีตดัน ปตท.-AOT เข้าตลาดหุ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สุริยะ” แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ประกาศสานต่อ 2 นโยบาย “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย - บ้านเพื่อคนไทย” ภายใน 3 เดือน เมินคำดูถูก เชื่อ “เพื่อไทย” กลับมาได้ โวผลงานในอดีตดัน “ปตท.-AOT” เข้าตลาดหลักทรัพย์ สร้างรายได้เข้ารัฐมหาศาล

วันที่ 16 ธ.ค.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์เป็นคนที่ 2 โดยได้ขอบคุณผู้บริหารพรรคเพื่อไทยที่ได้คัดเลือกให้ตนเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ก่อนที่ตนจะเข้ามาทำงานการเมือง ได้ทำงานอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยนต์ โดยช่วง 20 กว่าปีที่ทำงาน ได้ประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง แต่ฐานะคนทำงาน ยังพบข้อติดขัด ติดระบบ ติดกฎเกณฑ์ ในการติดต่อกับหน่วยงานราชการ ซึ่งถ้าอยากให้ประเทศไทยดีขึ้นจริง เราต้องเข้าไปแก้ไขที่ระบบ ทำให้ผู้ประกอบการเดินได้ คนทำมาหากินดีขึ้น ประเทศถึงจะโต

นายสรุิยะ กล่าวต่อว่า วันหนึ่งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็มาชวนให้ตนเข้าทำงานการเมืองในพรรคไทยรักไทย ซึ่งตนไม่คิดเลย และได้ตอบรับทันที เพื่อเข้าไปแก้ไขในสิ่งที่ติดขัดให้ดี โดยตนมีจุดแข็ง ก็คือการเป็นนักทำ คือ การผลักดันนโยบายที่ได้รับมอบหมายให้ประสบความสำเร็จ เป็นรูปธรรมตามกรอบเวลาที่ได้รับมอบหมาย

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ตนเองมีภูมิหลังทางด้านวิศวกรรม ซึ่งถูกฝึกมาให้คิดเป็นระบบ และเมื่อได้รับมอบหมาย ก็มีความจริงจัง ทุ่มเทเต็มที่ เป็นผลให้นโยบายที่ได้รับมอบหมายประสบความสำเร็จ โดย ขอยกตัวอย่างที่ตนได้ผลักดันเป็นรูปธรรมมาแล้ว คือ ตอนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งขณะนั้นนายทักษิณ เล็งเห็นว่า รัฐบาลมีรัฐวิสาหกิจที่ประกอบการเชิงพาณิชย์ ซึ่งควรนำรัฐวิสาหกิจเหล่านั้น เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อตีมูลค่ารัฐวิสาหกิจเหล่านั้นได้ตามราคาตลาด เพราะจะได้ทำให้นักวิเคราะห์เศรษฐกิจของโลกเห็นว่า รัฐบาลมีทรัพย์สินอยู่ในรัฐวิสาหกิจจำนวนมหาศาล ไม่ใช่เมื่อมองประเทศไทยแล้ว จะเห็นแต่หนี้สิน โดยช่วงนั้นได้นำ บริษัท ปตท. จำกัด ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ตนจึงริเริ่มให้มีการแปรรูป บริษัท ปตท. มาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในที่สุดวันที่ 6 ธันวาคม 2544 ก็ประสบความสำเร็จ จากเดิมบริษัท ปตท. จำกัด มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือ Market Cap อยู่ประมาณ 100,000 ล้านบาท แต่ปัจจุบัน มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 900,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 800,000 ล้านบาท ทางกระทรวงการคลังถือหุ้นถึง 51 % เท่ากับว่า กระทรวงการคลังมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 400,000 ล้านบาท ซึ่งต้องยกให้นายทักษิณ ที่ได้ให้วิสัยทัศน์ในเรื่องนี้

หลังจากนั้นในปี 2546 ได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยวันที่ 11 มีนาคม 2547 ก็ได้ดำเนินการแปรรูปบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ให้เป็น บริษัทมหาชน โดยมีการทำ IPO สัดส่วนผู้ถือหุ้นกระทรวงการคลัง 70% รายย่อย และสถาบัน 30% มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด อยู่ที่ 60,000 ล้านบาท แต่ปัจจุบันมีมูลค่าราคา 700,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64,000 ล้านบาท ดังนั้นที่รัฐถือหุ้น 70 % จึงเพิ่มขึ้น 448,000 ล้านบาท โดยสรุปการแปรรูปรัฐวิสาหกิจทั้ง 2 แห่งนั้น ทำให้รัฐมีทรัพย์สินมากขึ้น 850,000 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้สามารถนำไปให้กับครอบครัวของคนไทย ซึ่งมีอยู่ 20,000,000 ครอบครัว เท่ากับครอบครัวละ 40,000 บาท


นายสุริยะ กล่าวอีกว่า หนึ่งในความภาคภูมิใจ ตลอดเวลาทำงาน 25 ปีนั้น คือ สนามบินสุวรรณภูมิ ที่สร้างมามานานหลาย 10 ปี แต่มาจบในรัฐบาลนายทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี และตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และได้ลบคำวิจารณ์ที่ไม่เชื่อว่า สามารถสร้างได้ เพราะเป็นบึงหนองงูเห่า โดยหลังจากที่มีการเปิดสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว บริษัทจัดอันดับของโลกได้จัดอันดับให้สนามบินสุวรรณภูมิอยู่ในระดับที่ 10 ของโลก แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ปี 2549 ได้มีการปฏิวัติรัฐประหาร ไม่เช่นนั้นแผนการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคงได้ดำเนินการต่อ ตามแผน และคงไม่แพ้ประเทศสิงคโปร์ หรือฮ่องกง ในการเป็นศูนย์กลางการบินในปัจจุบันนี้ และนับแต่หลังการปฏิวัติ 2549 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไม่ได้พัฒนาอย่างจริงจังอย่างตามแผนที่วางไว้ ทำให้คุณภาพการบริการลดลงอย่างมาก โดยสนามบินสุวรรณภูมิ ตกจากอันดับที่ 10 ของโลก ไปอยู่อันดับที่ 77 ของโลกในปี 2565 แต่หลังจากที่ตนเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในปี 2566 ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาท่าอากาศยานให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก เป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยได้กำกับให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย นำเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับระดับโลก มาใช้ในกระบวนการตรวจสอบผู้โดยสาร ทั้งการเช็คอิน, ตรวจค้น และตรวจคนเข้าเมือง ทำให้ระยะเวลาการรอคิวลดลงจากเดิมที่เฉลี่ย 40 นาทีเหลือเพียง 5 นาทีเท่านั้น และทำให้การจับอันดับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขึ้นแบบก้าวกระโดด จากอันดับที่ 77 มาเป็นอันดับที่ 39 ในปี 2568 โดยสนามบินสุวรรณภูมิ คือ โครงการขนาดใหญ่ล่าสุดที่ประเทศไทยทำสำเร็จ และพิสูจน์แล้วว่า สามารถเกิดโอกาสให้กับประเทศได้จริง เพราะฉะนั้นการคมนาคมไม่ใช่แค่พาคนไปถึงที่หมาย แต่คือ การพาคนไทยไปถึงอนาคตนี่คือภาพฝัน และภาพใหญ่ที่ต้องสานต่อ

นายสุริยะ ยังนำเสนอนโยบาย 2 นโยบายคือ นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ตนในฐานะที่เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีการเตรียมความพร้อมในการรองรับนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดยเตรียมพร้อมลงทะเบียน และพร้อมใช้ และแก้กฎหมายสำคัญจำนวน 3 ฉบับ ซึ่งทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้ประกาศว่า ประชาชนจะได้ใช้ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายที่ตอนนี้ถึงเดือนธันวาคมแล้ว แต่ยังไม่ไปไหนเลย ไม่ทราบว่า รัฐมนตรีที่ทำหน้าที่ต่อจากตนนั้น ไปทำอะไรอยู่ ถึงไม่ผลักดันเรื่องนี้ ยืนยันว่า ภายใน 3 เดือน หากพรรคได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลประชาชนจะได้ใช้รถไฟฟ้า 20 บาทต่อสายทันที

พร้อมชูนโยบายรถเมล์แอร์ 10 บาท ซึ่งเป็นเส้นเลือดฝอย นำประชาชนเข้าสู่การเดินทางในเส้นเลือดใหญ่ โดยต้องพัฒนาเรื่องระบบรถเมล์ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นรถร้อนอยู่จำนวนพอสมควร ถ้ากลับเป็นมาเป็นรัฐบาลจะต้องมีการปรับปรุง รถเมล์ทั้งหมดให้เป็นรถเมล์แอร์ โดยจะให้คนจนสามารถใช้รถเมล์แอร์ ได้ในราคาเดียวกับรถร้อน

นโยบายที่ 2 ที่จะสานต่อทันทีคือ “บ้านเพื่อคนไทย” ซึ่งเรื่องนี้เราเริ่มเดินแล้ว มี 4 โครงการนำร่อง เพื่อพิสูจน์ว่า คนไทยสามารถมีบ้านในทำเลที่ดีได้จริง บ้านอยู่ใกล้ระบบคมนาคม ใกล้ร้านใกล้เมือง และที่สำคัญคือ จ่ายไหว เพราะหัวใจของบ้าน ไม่ใช่แค่เป็นบ้าน แต่หัวใจของบ้านคือ ทำเลที่ดีที่ต้องเดินทางสะดวก โดยจาก 4 โครงการนำร่อง ได้ตั้งใจจะขยายไปทั่วประเทศด้วย

นายสุริยะ กล่าวทิ้งท้ายว่า คนข้างนอกบอกว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่สามารถกลับไปอยู่จุดเดิมได้อีก แต่ตนเชื่อว่า ทุกคนในที่นี้ ไม่ได้คิดแบบนั้น เรายังมีไฟ มีฝัน มีอุดมการณ์เดียวกัน ที่อยากไปทำงาน ทำนโยบายดี ๆ ให้กับประชาชน และยังเชื่อมั่นว่า พรรคเพื่อไทย ยังเต็มเปี่ยม เพราะเป็นพรรคที่มีคนมีประสบการณ์จริง และมีคนรุ่นใหม่ที่มีพลังสร้างสรรค์ทำงานเป็นทีมเดียวกัน มีวิสัยทัศน์ชัดเจน ในการพัฒนาประเทศไทย ให้เดินหน้า และด้วยความเชื่อมั่นนั้น วันนี้จึงขออาสาเข้ามารับผิดชอบงานที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของประเทศไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยเพื่อรวมทุกคนไปทุ่มเททำงานให้กับคนไทยทุกคน


กำลังโหลดความคิดเห็น