“ลิณธิภรณ์” ซัดตรงนายกฯ "อนุทิน" หนีซักฟอก–รัฐบาลล้มเหลว อ้างยุบสภาคืนอำนาจ แต่แท้จริงหิวอำนาจ ทำลายระบบรัฐสภา ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าววิจารณ์การทำงานของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ภายหลังออกมาให้สัมภาษณ์ในรายการ กรรมกรข่าว โดยอ้างว่าการตรวจสอบรัฐบาลยังไม่เกิดขึ้นว่า เป็นคำพูดที่สวนทางกับความจริงที่ประชาชนทั้งประเทศรับรู้ แต่รัฐบาลกลับเลือกหลอกตัวเองและหลอกสังคม
ดร.ลิณธิภรณ์ ระบุว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นกลไกตามรัฐธรรมนูญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะรัฐบาลเสียงข้างน้อยชุดนี้มีปัญหาซ้อนทับทั้งเชิงโครงสร้างและการบริหาร ตั้งแต่การบิดเบือนหลักประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา วิกฤตชายแดนไทย–กัมพูชาที่ทวีความตึงเครียด ไปจนถึงความล้มเหลวในการรับมือและเยียวยาวิกฤตน้ำท่วมภาคใต้ ซึ่งล้วนเป็นเหตุผลหนักแน่นที่สภาผู้แทนราษฎรต้องทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเข้มข้น
รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า การยุบสภาในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่ใช่การคืนอำนาจให้ประชาชนตามคำโฆษณาทางการเมืองของนายกรัฐมนตรี แต่คือการ “ตัดไฟแต่ต้นลม” เพื่อหลีกหนีการตรวจสอบ เพราะทันทีที่มีการยุบสภา กลไกตรวจสอบของรัฐสภาจะถูกทำให้เป็นอัมพาต ทั้งที่สังคมยังตั้งคำถามอย่างกว้างขวางว่า ประเทศไทยพร้อมสำหรับการเลือกตั้งใหม่จริงหรือไม่ ท่ามกลางสถานการณ์ความมั่นคงที่ยังไม่คลี่คลาย
ดร.ลิณธิภรณ์ ตั้งคำถามว่า เหตุใดนายกรัฐมนตรีจึงกล้าใช้ข้ออ้างว่า การยุบสภาเป็นผลมาจากการที่พรรคประชาชนส่งสัญญาณไม่สนับสนุนรัฐบาลต่อไป ทั้งที่ความพิสดารได้เริ่มต้นตั้งแต่การเลือกเดินหน้าเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และการล่อลวงด้วยข้อตกลงทางการเมืองหรือ MOA ที่เป็นเพียงสัญญาจอมปลอม ซึ่งถูกวางเกมมาตั้งแต่ต้น
“ปรากฏการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย และเป็นการทำลายระบบรัฐสภาอย่างสิ้นเชิง” ดร.ลิณธิภรณ์ กล่าว
ดร.ลิณธิภรณ์ ย้ำว่า ไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนใดที่ยอมให้พรรคฝ่ายค้านเป็นผู้ชี้ชะตาอำนาจบริหารประเทศ แต่กรณีนี้สะท้อนชัดถึงความต้องการส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี ที่หิวอำนาจ ต้องการดำรงตำแหน่งต่อไปโดยไม่สนใจผลกระทบต่อประชาชน จนยอมฉีกทุกกติกาและทำลายทุกหลักการของระบอบประชาธิปไตย
“นี่คือบทพิสูจน์ของการเมืองที่มุ่งแสวงหาอำนาจด้วยกลลวง ไม่สามารถค้ำยันรัฐบาลอนุทินให้เดินต่อไปได้ เครื่องมือเดียวที่เหลืออยู่คือการยุบสภาเพื่อหนีความผิดพลาด หากจะอ้างว่าทำตามข้อตกลงแล้วก็เชิญ แต่เกมการเมืองครั้งนี้ รวมถึงกรณีคดีฮั้ว สว. ที่เงียบหายไป ประชาชนตาสว่างแล้ว” ดร.ลิณธิภรณ์ กล่าว.


