“สมศักดิ์” ควง “จิรทัศ–ณัฐณิชา” ลุยผักไห่ รับฟังเสียงชาวอยุธยา ชี้ถึงเวลากอบกู้อยุธยา แก้ปัญหาน้ำท่วมทั้งระบบ สะท้อนเงินเยียวยาไม่คุ้มความเสียหาย
วันนี้( 14 ธ.ค.68 )นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายจิรทัศ ไกรเดชา และ น.ส.ณัฐณิชา บูรณศิริ ผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่พบปะรับฟังความคิดเห็นและปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในอำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีชาวบ้านเข้าร่วมสะท้อนปัญหาอย่างคึกคัก
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้เดินทางมารับฟังเสียงของพี่น้องชาวอยุธยา เนื่องจากตนถือว่าเป็น “ลูกศิษย์คนอยุธยา” จากการได้รับการถ่ายทอดแนวคิดและการทำงานทางการเมืองจากบุคคลสำคัญของจังหวัด ได้แก่ นายมนตรี พงษ์พานิช อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตหัวหน้าพรรคกิจสังคม และอดีต สส.พระนครศรีอยุธยาหลายสมัย รวมถึง นายบุญพันธ์ แขวัฒนะ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีต สส.อยุธยาหลายสมัย จึงรู้สึกผูกพันและตั้งใจที่จะกลับมาตอบแทนพื้นที่แห่งนี้
“ วันนี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้อง “กอบกู้อยุธยา” โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังและส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนจำนวนมาก ลักษณะปัญหามีความคล้ายคลึงกับจังหวัดสุโขทัย ทำให้ตนมีความเข้าใจในแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเป็นอย่างดี ซึ่งจำเป็นต้องบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ไม่ใช่แก้ไขเฉพาะจุด การมีผู้แทนราษฎรที่เข้าใจพื้นที่อย่างแท้จริง จะช่วยผลักดันการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากพรรคเพื่อไทยมี สส.ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผมก็พร้อมเข้ามาช่วยทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน“นายสมศักดิ์กล่าวย้ำ
ด้านนายจิรทัศกล่าวว่า จากการลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็น พบว่าปัญหาหลักของชาวอำเภอผักไห่คือปัญหาน้ำท่วม เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ส่งผลให้บ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายอย่างต่อเนื่อง พร้อมสะท้อนถึงปัญหาเงินเยียวยาจากภาครัฐที่ไม่สอดคล้องกับความเสียหายที่แท้จริงของประชาชน โดยเห็นว่าจำนวนเงินที่ได้รับยังไม่เพียงพอและไม่คุ้มค่ากับผลกระทบที่เกิดขึ้น
นายจิรทัศระบุว่าหากได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ตนพร้อมอาสาเข้าไปผลักดันการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างจริงจัง ทั้งในเชิงนโยบายและการจัดสรรงบประมาณ รวมถึงผลักดันมาตรการเยียวยาที่เป็นธรรมและเหมาะสม เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและลดผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด


