xs
xsm
sm
md
lg

นักวิชาการชม “อนุทิน” ปกป้องศักดิ์ศรีไทย ไม่ปล่อยความจริงถูกบิดเบือน หลังโต้ “ทรัมป์” ปมศึกไทย–กัมพูชา ย้ำไม่ใช่อุบัติเหตุ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผศ.ดร.เชษฐา ทรัพย์เย็น อาจารย์ประจำภาควิชาการบริหารและจัดการการเมือง วิทยาลัยพัฒนามหานคร มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ให้ความเห็นกรณีวิวาทะระหว่าง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีไทย กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย–กัมพูชา โดยระบุว่า ความน่าเชื่อถือของข้อมูลในกรณีนี้ ฝ่ายของนายกรัฐมนตรีไทยมีน้ำหนักและความชัดเจนมากกว่า

ผศ.ดร.เชษฐา กล่าวว่า ในการแถลงข่าวของนายอนุทินที่ผ่านมา มีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องร่วมอยู่ด้วย ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งสะท้อนว่า การให้ข้อมูลดังกล่าวอยู่บนฐานของการหารือร่วมกันภายในรัฐบาล และมีพยานในกระบวนการเจรจากับผู้นำสหรัฐอเมริกาอย่างชัดเจน จึงเชื่อมั่นได้ว่า การแถลงข่าวไม่มีการใส่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนหรือบิดเบือนจากความจริง

ในทางกลับกัน การสื่อสารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นการโพสต์ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งในเชิงรูปแบบมีความน่าเชื่อถือต่ำกว่าการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ อีกทั้งเนื้อหายังมุ่งเน้นการสร้างภาพลักษณ์ทางการเมืองส่วนบุคคล มากกว่าการยึดข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการระบุว่า เหตุปะทะเริ่มต้นจาก อุบัติเหตุซึ่งเป็นประเด็นที่ฝ่ายไทยไม่สามารถยอมรับได้

ผศ.ดร.เชษฐา ระบุว่า ข้อเท็จจริงคือ ศพแรกที่ทำให้เกิดการปะทะ คือ ศพของทหารไทย ทำให้การใช้กำลังตอบโต้เกิดขึ้น ประเทศไทยจึงเป็นฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง ไม่ใช่ผู้เริ่มต้น และไม่ใช่สถานการณ์ที่สามารถอธิบายว่าเป็นอุบัติเหตุได้

การที่นายอนุทินออกมาโพสต์ยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่อุบัติเหตุ และประเทศไทยจะยังคงดำเนินการทางทหารต่อไปจนกว่าจะไม่มีภัยคุกคาม ถือเป็นการยืนยันอธิปไตยของประเทศ และแสดงจุดยืนว่า ไทยไม่ยอมให้มีการบิดเบือนข้อเท็จจริง หรือแทรกแซงทางการเมืองจากภายนอก

ผศ.ดร.เชษฐา เห็นว่า ท่าทีดังกล่าวเป็นการปกป้องศักดิ์ศรีของชาติ ควบคู่ไปกับการชี้แจงความจริงต่อประชาคมโลกตั้งแต่ต้นทาง เพื่อไม่ให้เรื่องราวที่บิดเบือนกลายเป็นภาพจำ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อประเทศไทยในการต่อสู้บนเวทีระหว่างประเทศในระยะยาว

ทั้งนี้ ผศ.ดร.เชษฐา ระบุว่า นายอนุทินถือว่าตอบโต้สถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม ในช่วงเวลาที่ไม่ใช่เวลาของการลังเลหรือเกรงใจมหาอำนาจ แต่เป็นเวลาที่ประเทศไทยต้องยืนยันตัวตน ปกป้องอธิปไตย และชี้แจงข้อเท็จจริงในทุกเวที เพื่อไม่ให้ประเทศตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบในเวทีโลกในอนาคต.

“ยามศึกสงครามใหญ่เช่นนี้ ประเทศไทยต้องการภาวะผู้นำที่เข้มแข็ง ซึ่งเหตุการณ์ล่าสุดที่นายกฯโพสต์ตอบสื่อไปถึงทรัมป์ทันควัน ต้องยอมรับว่าเราได้เห็นท่าทีที่เข้มแข็งจากนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ อนุทิน ชาญวีรกูล ในเชิงจิตวิทยาจะส่งผลเชิงบวกให้ทหารไทยแนวชายแดนมีกำลังใจเต็มที่ในการนำแผ่นดินไทยทุกตารางมิลลิเมตรกลับคืนมา”
กำลังโหลดความคิดเห็น