กองทัพไทยเชิญผู้ช่วยทูตทหาร 19 ประเทศ ฟังชี้แจงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังเปิดการสู้รบตั้งแต่ 8 ธ.ค ย้ำเขมรยิงก่อนที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน แล้วกระจายไปหลายพื้นที่ ทั้งยังยิง BM-21 ใส่บ้านเรือนประชาชน ไทยจำเป้นต้องตอบโต้ และจะปฏิบัติการทางทหารต่อไปจนกว่ากัมพูชาจะเปลี่ยนแนวทาง
วันที่ 9 ธ.ค.พลเอก ชิดชนก นุชฉายา เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เป็นประธานการประชุมชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ความมั่นคง ไทย-กัมพูชา ต่อ คณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย จำนวน 19 ประเทศ ณ ห้องประชุมออดิทอเรียม อาคาร 9 กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ
โดยมีผู้แทนของกรมข่าวทหารบก ผู้แทนของกรมข่าวทหาร ร่วมกับผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมให้ข้อมูลสำคัญด้วย
การชี้แจงมุ่งเน้นประเด็นสถานการณ์ความมั่นคงบริเวณชายแดน โดยเฉพาะเหตุการณ์ทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงโจมตีก่อน และแสดงท่าทีเป็นปรปักษ์ต่อฝ่ายไทยมากขึ้น ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม 2568 ในพื้นที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และกระจายไปยังหลายพื้นที่ ทั้งจังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสระแก้ว และจังหวัดตราด เป็นเหตุให้กำลังพลฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิต
นอกจากนี้ ยังปรากฏการใช้อาวุธต่อประชาชน โดยมีการยิงอาวุธ BM-21 ของกัมพูชาโจมตีใส่พื้นที่บ้านสายโท 10 ใต้ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพื้นที่บ้านเรือนประชาชน และยังเป็นเหตุให้กำลังพลฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งทำให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องตอบโต้ตามกฎการปะทะเพื่อยับยั้งการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม
ในขณะเดียวกัน ยังยืนยันจุดยืนของไทยในการปกป้องอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดน
ทั้งนี้ การปฏิบัติการทางทหารจะดำเนินต่อไปจนกว่ากัมพูชา จะเปลี่ยนแนวทางและแสวงหาสันติภาพ
เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ได้เน้นถึงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของไทยในการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธีตามหลักสากล
จากเหตุการณ์ยั่วยุที่ผ่านมา ทำให้ฝ่ายไทยมีความจำเป็นต้องดำเนินมาตรการตอบโต้ตามสัดส่วน เนื่องจากถือเป็นสิทธิ์ของไทยในการปกป้องอธิปไตย
พร้อมทั้งกล่าวแสดงความขอบคุณต่อคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ ที่ให้เกียรติสละเวลาเข้ารับฟังการชี้แจง
พร้อมทั้งให้ความสนใจ ซักถาม และแลกเปลี่ยนมุมมองอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของประเทศต่าง ๆ ในการธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค


