‘กป.พอช.-ภาคีเครือข่าย’เดิน‘เปลี่ยนอนาคต’ ถึงรัฐสภา เรียกร้องยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ–เลือกตั้ง สสร.100% พร้อมเปิดเวทีฟังเสียงประชาชนทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ (9 ธ.ค.) ที่ลานประชาชน อาคารรัฐสภา คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.พอช.) ร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชน จัดกิจกรรม “เดินเปลี่ยนอนาคต x ฟังเสียงประเทศไทย: จังหวะวัดใจ อนาคตรัฐธรรมนูญไทย (ดีกว่านี้ได้)” โดยเป็นส่วนหนึ่งของการเดินรณรงค์ “Walk to the Future – เดินเปลี่ยนอนาคต” เพื่อผลักดันข้อเรียกร้องให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ และให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) แบบเลือกตั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะมีการประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 ในระหว่างวันที่ 10-11 ธ.ค.นี้
ทั้งนี้การเดินรณรงค์เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค.จากหน้าสวนอาหารลุงนวย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนเคลื่อนขบวนผ่านจุดสำคัญต่าง ๆ พร้อมจัดกิจกรรมรณรงค์เขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เช่น บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และเดินมาถึงรัฐสภาในช่วงเย็นวันที่ 9 ธ.ค.
เมื่อมาถึงรัฐสภา กป.พอช. ร่วมกับโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) เปิดกิจกรรม “เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ – We are here เราพร้อมเปลี่ยนอนาคต” เปิดเวทีให้ตัวแทนองค์กรต่าง ๆ นำเสนอประเด็นสำคัญที่ต้องการบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ในส่วนของขบวนเคลื่อนไหวผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ได้จัดกิจกรรม “รัฐธรรมนูญใหม่ต้องมีค่าตอบแทนให้แม่และคนทำงานดูแล” เพื่อสื่อสารข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการบรรจุสิทธิค่าตอบแทนสำหรับแม่และผู้ทำงานดูแลในรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งจัดประกวดโปสเตอร์ทำมือ เพื่อรณรงค์สนับสนุนการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่และการเลือกตั้ง สสร. 100%
นอกจากนี้ ยังมีวงแลกเปลี่ยน “รัฐธรรมนูญที่ฉันผ่านพบ: รัฐธรรมนูญแบบไหนที่มีผู้หญิงและประชาชนอยู่ในหัวใจ” โดยสองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน อังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา และนางสมปอง เวียงจันทน์ จากสมัชชาคนจน รวมถึงกิจกรรม “ใครไม่แคร์ แต่เราแคร์อินคัม” ที่ชวนเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับค่าตอบแทนของแม่และผู้ทำงานดูแล
ภายในงานยังมีกิจกรรมของกลุ่มประชาชนหลากหลายพื้นที่ทั่วประเทศที่เข้าร่วมอย่างคึกคัก พร้อมทั้งมีการอ่านแถลงการณ์แสดงเจตจำนงร่วมขององค์กรภาคีจากทั่วไทย ที่สนับสนุนการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ และการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง.


