รองโฆษกรัฐบาล เผย ครม.เห็นชอบขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบและการนำส่งเงินสมทบของนายจ้างและผู้ประกันตนในท้องที่ที่ประสบภัยพิบัติ พ.ศ. .... ซึ่งไม่กระทบต่อการบริหารจัดการสภาพคล่องอย่างมีนัยสำคัญ
วันนี้ (9ธ.ค.) นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงแรงงานเรื่อง ขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบ และการนำส่งเงินสมทบของนายจ้างและผู้ประกันตนในท้องที่ที่ประสบภัยพิบัติ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงแรงงาน (รง.) เสนอ
นางสาวอัยรินทร์ กล่าวว่า ร่างประกาศกระทรวงแรงงานเป็นการขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบของนายจ้างและการนำส่งเงินสมทบของนายจ้างตามมาตรา 47 วรรคสอง และการนำส่งเงินสมทบของผู้ประกันตน ในท้องที่ที่ประสบภัยพิบัติจากอุทกภัยในภาคใต้รวม 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตรังนครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง ยะลา สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี ในงวดเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ถึงงวดเดือนเมษายน พ.ศ. 2569 เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่นายจ้างและผู้ประกันตนในท้องที่ดังกล่าว โดยเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป ดังนี้
กรณี นายจ้างที่ขึ้นทะเบียนนายจ้างตามมาตรา 34 และขึ้นทะเบียนลูกจ้าง ซึ่งเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จากเดิมต้องยื่นแบบรายการฯ และนำส่งเงินสมทบให้แก่สำนักงานภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดจากเดือนที่มีการหักเงินสมทบไว้ ได้รับการขยายกำหนดเวลายื่นแบบรายการฯ และการนำส่งเงินสมทบเป็นระยะเวลา 6 เดือน ดังนี้
1. ค่าจ้างงวดเดือนพฤศจิกายน 2568 ให้ยื่นแบบรายการฯ และนำส่งเงินสมทบ ภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2569
2. ค่าจ้างงวดเดือนธันวาคม 2568 ให้ยื่นแบบรายการฯ และนำส่งเงินสมทบ ภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2569
3. ค่าจ้างงวดเดือนมกราคม 2569 ให้ยื่นแบบรายการฯ และนำส่งเงินสมทบ ภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2569
4. ค่าจ้างงวดเดือนกุมภาพันธ์ 2569 ให้ยื่นแบบรายการฯ และนำส่งเงินสมทบ ภายในวันที่ 15 กันยายน 2569
5. ค่าจ้างงวดเดือนมีนาคม 2569 ให้ยื่นแบบรายการฯ และนำส่งเงินสม่ทบ ภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2569
6. ค่าจ้างงวดเดือนเมษายน 2569 ให้ยื่นแบบรายการๆ และนำส่งเงินสมทบ ภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2569
กรณี ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ซึ่งมีทะเบียนผู้ประกันตนในท้องที่ที่กำหนดจากเดิมต้องนำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปได้รับการขยายกำหนดเวลานำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนเป็นระยะเวลา 6 เดือน ดังนี้
1. เงินสมทบงวดเดือนพฤศจิกายน 2568 ให้นำส่งเงินสมทบเข้ากองทุน ภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2569
2. เงินสมทบงวดเดือนธันวาคม 2568 ให้นำส่งเงินสมทบเข้ากองทุน ภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2569
3. เงินสมทบงวดเดือนมกราคม 2569 ให้นำส่งเงินสมทบเข้ากองทุน ภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2569
4. เงินสมทบงวดเดือนกุมภาพันธ์ 2569 ให้นำส่งเงินสมทบเข้ากองทุน ภายในวันที่ 15 กันยายน 2569
5. เงินสมทบงวดเดือนมีนาคม 2569 ให้นำส่งเงินสมทบเข้ากองทุน ภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2569
6. เงินสมทบงวดเดือนเมษายน 2569 ให้นำส่งเงินสมทบเข้ากองทุน ภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2569
“การขยายระยะเวลาการนำส่งเงินสมทบเป็นระยะเวลา 6 เดือน ในพื้นที่ 9 จังหวัด ดังกล่าว ส่งผลให้กองทุนประกันสังคมได้รับเงินสมทบช้าลง เป็นจำนวนเงิน 4,334 ล้านบาท ซึ่งไม่กระทบต่อการบริหารจัดการสภาพคล่องอย่างมีนัยสำคัญและทำให้กองทุนประกันสังคมเสียโอกาสในการลงทุน 6 เดือน ภายใต้สมมติฐานผลตอบแทนการลงทุนร้อยละ 5 ต่อปี คิดเป็นเงินจำนวน 108 ล้านบาท ซึ่งมิได้ส่งผลกระทบต่อสถานะของกองทุนประกันสังคมอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน หากแต่ยังคุ้มค่าต่อการช่วยให้นายจ้างและผู้ประกันตนมีโอกาสอยู่ในระบบประกันสังคมในระยะยาว” นางสาวอัยรินทร์ กล่าว


