xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ลงสตูลติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ให้กำลังใจ-ย้ำป้องกันน้ำท่วมซ้ำซาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกฯ ลงพื้นที่จังหวัดสตูล ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมให้กำลังใจและเน้นการป้องกันน้ำท่วมซ้ำซาก

วันนี้ (6 ธันวาคม 2568) เวลา 14.45 น. ณ ตลาดสดเทศบาลเมืองสตูล ตำบลพิมาน จังหวัดสตูล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสตูล เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการป้องกันน้ำท่วม รับฟังปัญหาและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยในเขตอำเภอเมืองสตูล โดยมี นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนเข้าร่วมต้อนรับ

เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงตลาดสดเทศบาลเมืองสตูล ได้เดินสำรวจความเสียหายสภาพบ้านเรือนประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และได้เดินสำรวจประตูระบายน้ำที่ประชาชนในพื้นที่ได้เรียกร้องให้เทศบาลเมืองสตูลได้ดำเนินการรื้อออก เพราะมองว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดน้ำท่วมในเทศบาลเมืองสตูล โดยนายกรัฐมนตรีได้รับหนังสือข้อเรียกร้องดังกล่าวจากตัวแทนประชาชนในพื้นที่เทศบาลเมืองสตูล ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าวต้องมีการรับฟังความคิดเห็นและทำประชาคมประชาชนในพื้นที่ โดยให้เทศบาลเมืองสตูลดำเนินการทำประชาคมในเรื่องนี้ว่าประตูระบายน้ำดังกล่าวยังมีความจำเป็นและมีประโยชน์หรือไม่ หากประชาชนมี ความเห็นอย่างไร นายกรัฐมนตรีก็จะเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามนั้น พร้อมกับได้เดินพบปะเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประกอบการร้านค้าในบริเวณพื้นที่ตลาดสดเทศบาลเมืองสตูลและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสตูล


โดยนายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการป้องกันน้ำท่วมซ้ำซาก พร้อมรับฟังปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินโครงการและมาตรการช่วยเหลือสอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน พร้อมระบุว่า บางพื้นที่ที่เคยวางแผนสร้างสะพานข้ามน้ำ แต่พบว่าไม่ได้ใช้งานจริงและอาจทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมเพิ่มเติม จึงต้องมีการประชาคมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากพี่น้องประชาชน ก่อนจะดำเนินโครงการต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและสอดคล้องกับความต้องการของชุมชน

นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อรับฟังปัญหาอย่างตรงไปตรงมา และขอให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลจะคิดโครงการและมาตรการต่าง ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเต็มที่ พร้อมแจกถุงยังชีพเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง


นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย แม้จะเจอความเดือดร้อน พร้อมย้ำว่ารัฐบาลมีแผนดำเนินการป้องกันไม่ให้น้ำท่วมซ้ำซาก โดยยังได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่เร่งดำเนินการเบิกจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยครัวเรือนละ 9,000 บาท ให้ประชาชนที่ยื่นเอกสารถูกต้องและเข้าหลักเกณฑ์ได้รับเงินโดยเร็วที่สุด โดยขอให้เริ่มดำเนินการจ่ายชุดแรกโดยไม่ล่าช้า พร้อมกำชับให้มีการตรวจสอบข้อมูลอย่างโปร่งใส ชัดเจน และอำนวยความสะดวกให้ครบทุกครัวเรือน เพื่อให้ประชาชนสามารถนำไปใช้ซ่อมแซมที่พักอาศัยและฟื้นฟูความเป็นอยู่หลังน้ำลดโดยทันที

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ครั้งนี้ มี 3 จุดหลัก ได้แก่ 1) ตลาดสดเทศบาลเมืองสตูล 2) ชุมชนชนาธิป และ3) ศาลาอเนกประสงค์บ้านคลองขุดเหนือใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุอุทกภัยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 50 ปีของจังหวัดสตูล ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนเสียหายเป็นวงกว้าง


ทั้งนี้ จังหวัดสตูล ประสบสถานการณ์อุทกภัยระหว่างวันที่ 19 พฤศจิกายน – 5 ธันวาคม 2568 มีพื้นที่ประสบภัย ทั้งหมด 7 อำเภอ 31 ตำบล 231 หมู่บ้าน 20 ชุมชน 45,417 ครัวเรือน 149,878 คน บาดเจ็บ 29 คน และเสียชีวิต 3 ราย (จากเหตุดินถล่ม 1 ราย และจากเหตุจมน้ำ 2 ราย) โดยมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ อำเภอละงู อำเภอควนโดน และอำเภอเมืองสตูล พื้นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุดินถล่ม จำนวน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอควนกาหลง อำเภอควนโดน อำเภอมะนัง อำเภอทุ่งหว้า และอำเภอละงู โดยจังหวัดได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) 7 อำเภอ 31 ตำบล 231 หมู่บ้าน 20 ชุมชน และประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือฯ (อุทกภัยและดินถล่ม) 3 อำเภอ (ควนกาหลง, ทุ่งหว้า, ควนโดน) 5 ตำบล 9 หมู่บ้าน ปัจจุบันเข้าสู่ภาวะปกติทุกอำเภอ (7 อำเภอ)

ด้านการเยียวยาและฟื้นฟูของหน่วยงานต่าง ๆ อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งจัดการขยะ ล้างทำความสะอาดถนน–ชุมชน–ตลาด ตรวจสอบสาธารณูปโภคให้กลับมาใช้งานได้ปกติ พร้อมช่วยเหลือครัวเรือนเปราะบาง 95 ราย มอบถุงฮีลใจ 184 ถุง ช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตตามระเบียบฯ รวมถึงการฟื้นฟูภาคเกษตร โดยสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ พันธุ์สัตว์น้ำ พืชอาหารสัตว์ ด้านเศรษฐกิจ ขณะนี้ ตลาดสดกลับมาเปิด 100% มีสินค้าเพียงพอ พร้อมจัดโครงการธงฟ้าราคาประหยัด 7 อำเภอ เพื่อบรรเทาค่าครองชีพ และในด้านแรงงาน ลงพื้นที่เยี่ยมสถานประกอบการ 35 แห่ง ลูกจ้าง 1,556 ราย ให้คำแนะนำสิทธิประโยชน์และสำรวจผลกระทบ เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตของประชาชนกลับเข้าสู่ภาวะปกติเร็วที่สุด






กำลังโหลดความคิดเห็น