xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯร่วมแถลงผลปฏิบัติการ “ถอนรากสแกมเมอร์ข้ามชาติ” ตรวจค้นเป้าหมาย 50 จุด ยึดทรัพย์หมื่นล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"อนุทิน" ร่วมแถลงผลปฏิบัติการ “ถอนรากสแกมเมอร์ข้ามชาติ” ตรวจค้นเป้าหมาย 50 จุดทั่วประเทศ ยึดอายัดทรัพย์สินกว่า 10,000 ล้านบาท “ปิดชื่อ ถือพฤติกรรม”

วันที่ (3 ธันวาคม 2568) เวลา 14.00 น. ณ ชั้น 2 ห้องประชุมชัยจินดา อาคารประชาอารักษ์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก) ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานงานแถลงข่าวผลปฏิบัติการ “ถอนรากสแกมเมอร์ข้ามชาติ” พร้อมด้วย นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พลตำรวจโท รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายสุเทพ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และพลตำรวจโท ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการปฏิบัติการว่า “ถ้าเชื่อมโยงไปถึงใคร ก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ตามหลักฐาน ตามการสอบสวนอย่างเคร่งครัด ไม่มีการละเว้น ถ้ากลัวว่าบุคคลคนนี้เป็นคนมีชื่อเสียงไหม เวลาผมทำอะไร ไม่ดูชื่อ ดูที่พฤติกรรม การทำงานพฤติการณ์ออกมาเป็นใคร ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพราะถ้าไม่ดำเนินการตามกฎหมาย จะโดนข้อหาละเว้นกฎหมายได้”

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีรับทราบว่า กรณีนายยิม เลียกได้รับสัญชาติไทยจากการสมรสกับภรรยาที่เป็นคนไทย ซึ่งอยู่ในหมวดหก โดยนายกรัฐมนตรีได้ให้ข้อสั่งการปลัดกระทรวงมหาดไทยให้ดำเนินการเพื่อถอนสัญชาติ ตามที่เคยได้ดำเนินการกับรายอื่นก่อนหน้านี้

ในฐานะนายกรัฐมนตรี ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นอีกหลักฐานหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลไม่ได้ละเลยต่อเรื่องการปราบปรามผู้ก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี ผู้ก่ออาชญากรรมข้ามชาติ ผู้ก่ออาชญากรรมสแกมเมอร์ทั้งหลายก็ตาม

จากกรณีที่มีบุคคลหลายท่านห่วงใย พยายามชี้แจงให้พี่น้องประชาชนรับทราบว่า รัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครองไม่ได้ให้ความสนใจกับการปราบปราม ขอย้ำว่า รัฐบาลชุดนี้แม้เพิ่งเข้ามาทำงาน 8 สัปดาห์ แต่หลายครั้งที่นายกรัฐมนตรีได้ไปร่วมแถลงปฏิบัติต่างๆ จำจำนวนครั้งแทบไม่ได้แล้ว อยากให้พี่น้องประชาชนเชื่อถือ เชื่อมั่นว่า อาชญากรรมเหล่านี้และคนที่ทำผิดกฎหมาย เป็นเรื่องที่รัฐบาลถือว่ามีความสำคัญ และรัฐบาลให้การสนับสนุนหน่วยปฏิบัติในทุกรูปแบบ ที่จะทำให้สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ไม่มีการละเว้นให้กับผู้ใด”

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีระบุว่า “รัฐบาลขอให้ประชาชนมีความมั่นใจเพราะว่า การสื่อสารกันระหว่างรัฐบาลคือตัวนายกรัฐมนตรี และผู้ปฏิบัติทุกหน่วยงานนั้นมีการสื่อสารตรงกันในเรื่องนี้ตลอดเวลา ยืนยันการให้การสนับสนุนในเรื่องของการดำเนินการ ขอให้ได้เกิดความมั่นใจ และให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ทั้งหลาย โดยคนที่ทำงานเหล่านี้ ทุกคนรู้แต่มีความเสี่ยง ขวัญและกำลังใจสำคัญ ถ้าได้ทำงานแล้ว ได้รับความเชื่อมั่น เชื่อถือจากพี่น้องประชาชน ก็จะเห็นช้างตัวเท่ามด สิ่งที่กลัว กลัวประชาชนไม่เข้าใจ ในหลายๆ ครั้งก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ทำงานทุกวัน และยังจะทำต่อไป ดำเนินการขยายผลต่อไป จะมีการปฏิบัติการที่ดีขึ้นต่อไปเรื่อยๆ จะเข้ารูปเข้ารอยเนื่องจากเป็นอาชญากรรมที่ต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน เป็นอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีการพัฒนาวิธีการตลอดเวลา เราจะไม่มีวันหยุดปฏิบัติการเพื่อประเทศ เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนทุกคน“

ทั้งนี้ สำนักงาน ปปง. ได้สืบสวนขยายผลและบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับขบวนการสแกมเมอร์ (Scammer) ที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะภัยจากมิจฉาชีพที่มีพฤติการณ์ใช้โทรศัพท์หลอกลวงประชาชน (แก๊ง Call Center) อันเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน และการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีสำคัญ ที่เป็นเครือข่ายผู้กระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในขบวนการสแกมเมอร์ (Scammer) ที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติดังนี้
1. รายคดี นายเฉิน จื้อ กับพวก
2. รายคดี นายก๊ก อาน (MR.KOK AN) กับพวก
3. รายคดี นางสาวแตงไทยฯ กับพวก
4. รายคดี นายเอื้ออังกูรฯ กับพวก กรณี
ยึดของกลางกว่า 10,000 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น