xs
xsm
sm
md
lg

“รสนา” จี้ คณะกรรมการ PPP ยุติโครงการทางด่วนชั้นที่ 2 “งามวงศ์วาน–พระราม 9”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“รสนา” เรียกร้องคณะกรรมการ PPP ขอให้ยุติโครงการทางด่วนชั้นที่ 2 “งามวงศ์วาน–พระราม 9” ชี้เสี่ยงต่อสัมปทานยาวข้ามศตวรรษ กระทบชุมชน–จราจร–ความปลอดภัย


วันที่ 3 ธันวาคม 2568 นางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “รสนา โตสิตระกูล” แสดงความเห็นเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 (Double Deck) งามวงศ์วาน–พระราม 9 ระยะทาง 17 กิโลเมตร ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน หรือ PPP โดยขอให้คณะกรรมการพิจารณายุติโครงการดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าโครงการนี้เป็นการ “หาเหตุเพื่อต่อสัมปทาน” ให้เอกชนถือครองสิทธิ์ทางด่วนยาวไปถึงปี 2601 หรืออาจยาวกว่านั้นในกรณีส่งมอบพื้นที่ล่าช้า

น.ส.รสนา ระบุว่า แม้โครงการจะมีข้อเสนอสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 มูลค่า 35,000 ล้านบาทให้ภาครัฐ และลดค่าทางด่วนในเส้นทางดังกล่าวจาก 85 บาท เหลือ 50 บาท แต่การให้สัมปทานเพิ่มอีก 22 ปี 5 เดือนหลังปี 2578 ทำให้เอกชนจะได้ส่วนแบ่งรายได้เพิ่มจาก 40% เป็น 50% ซึ่งประเมินว่าตลอดสัญญาจะมีรายได้กว่า 170,000 ล้านบาท มากกว่ามูลค่าก่อสร้างหลายเท่า
นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่า หากรอให้สัมปทานปัจจุบันสิ้นสุดในปี 2578 ทางด่วนเกือบทั้งหมดจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะสามารถนำรายได้ปีละกว่า 7,500 ล้านบาทที่ไม่ต้องจ่ายให้เอกชน ไปใช้ลดค่าทางด่วน หรือพิจารณาให้ประชาชนใช้ฟรีในบางช่วงเวลา รวมถึงใช้ลดค่าโดยสารขนส่งสาธารณะได้

สำหรับผลกระทบด้านชุมชนและจราจร นางสาวรสนาระบุว่า การก่อสร้างเสี่ยงทำให้การจราจรติดขัดเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 20 นาที และอาจไม่ช่วยแก้ปัญหารถติด เนื่องจากรถจากทางด่วนจะลงสู่ถนนพื้นที่ราบที่คับคั่งอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงด้านโครงสร้างหากเกิดอุบัติเหตุหรือภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะจากสภาพพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นดินอ่อน รวมถึงความขัดแย้งที่อาจเกิดจากการเวนคืนหรือปิดทางเข้าออกชุมชนตลอดแนวโครงการ

น.ส.รสนา ยังกล่าวว่า รัฐบาลปัจจุบันเป็นรัฐบาลชั่วคราว 4 เดือน ไม่ควรพิจารณาโครงการขนาดใหญ่ที่ส่งผลต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและผลประโยชน์สาธารณะ พร้อมเรียกร้องให้คณะกรรมการ PPP รับฟังเสียงคัดค้านจากภาคประชาชน สภาองค์กรของผู้บริโภค และสมาชิกรัฐสภาบางส่วนที่เป็นฝ่ายค้ำรัฐบาล

น.ส.รสนาสรุปว่า การไม่อนุมัติโครงการนี้จะเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน พร้อมฝากคำถามถึงฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่า การผลักดันโครงการนี้เป็นไปเพื่อประชาชน หรือเพื่อประโยชน์ของกลุ่มทุนและเอกชนรายใหญ่กันแน่

“อย่าให้ประชาชนเกิดคำถามว่ารัฐบาลพรรคนี้ เก่งแต่สั่งการผ่องถ่ายผลประโยชน์ของประชาชนให้ธุรกิจเอกชนกินรวบอย่างอิ่มหมีพีมัน เช่น กรณี double deck แต่กลับไร้ความสามารถในการสั่งการแก้ไขวิกฤติภัยพิบัติที่หาดใหญ่ และภาคใต้ตอนล่าง ไม่เคยมีข้อสั่งการในการแก้ไขวิกฤติด้านค่าครองชีพแพงจากการผูกขาดด้านพลังงาน ไม่มีความสามารถในการแก้ไขค่าไฟแพง ทั้งที่เป็นเรือธงการหาเสียงของพรรคภูมใจไทย แต่ยังกล้าใช้สโลแกนว่าเป็นพรรคพูดแล้วทำ ใช่หรือไม่ ?!” น.ส.รสนา ระบุ


กำลังโหลดความคิดเห็น