“ธรรมนัส” ลงพื้นที่ลำปาง เร่งเดินหน้าโครงการ “ประตูระบายน้ำวังบ้านเหล่า”แก้น้ำท่วม–ภัยแล้ง เพิ่มน้ำต้นทุน 4.41 ล้าน ลบ.ม.เอื้อพื้นที่เกษตร 5,775 ไร่ ย้ำนักการเมืองต้องทำงานตลอด ไม่ใช่หายหน้า โผล่มาอีกทีตอนหาเสียง
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดลำปาง เพื่อติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาแหล่งน้ำสำคัญของจังหวัด โดยเฉพาะ “โครงการประตูระบายน้ำแม่น้ำวังบ้านเหล่า” ในตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน รวมถึงการขุดลอกลำน้ำวัง การป้องกันตลิ่งพัง และการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบในอำเภอแม่พริกและพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมชลประทาน หน่วยงานท้องถิ่น และตัวแทนเกษตรกรร่วมให้ข้อมูลอย่างพร้อมเพรียง
ระหว่างการลงพื้นที่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในจังหวัดลำปางว่า เป็นพื้นที่ที่ต้องเผชิญปัญหาทั้งน้ำหลากและภัยแล้งมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลำน้ำวังซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่ของจังหวัด มีปัญหาตื้นเขินจากตะกอนสะสมและลำน้ำสาขาที่ขาดการขุดลอกเป็นเวลานาน ทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งในฤดูฝน และขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง ส่งผลกระทบต่อพี่น้องเกษตรกรนับหมื่นครัวเรือน โดยภาพรวม 13 อำเภอของลำปางได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งแทบทุกปี โดยเฉพาะอำเภอแม่พริก และพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งเป็นจุดรับน้ำจากตอนเหนือของลำน้ำวัง ก่อนที่จะไหลต่อไปยังจังหวัดอื่น ๆ เช่น ตาก ทำให้ต้องเร่งแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างร่วมกับกรอบการพัฒนาทั้งจังหวัด
ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนด้านอื่น ๆ ทั้งเรื่องที่ดินทำกินในเขตป่าไม้–อุทยาน ที่เกษตรกรหลายพื้นที่ยังถูกจำกัดการใช้ประโยชน์ รวมถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐในการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งจำเป็นต้องเร่งแก้ไขเพื่อลดผลกระทบต่อการทำมาหากินของพี่น้องเกษตรกร นอกจากนี้ ราคาพืชผลทางการเกษตรทั้งข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ ยังคงผันผวน กระทรวงเกษตรฯ อยู่ระหว่างผลักดันมาตรการเพิ่มเสถียรภาพด้านรายได้ เพื่อให้เกษตรกรสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
ร.อ.ธรรมนัส เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมชลประทานบูรณาการทำงานกับจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานระดับพื้นที่ เพื่อเร่งสำรวจ ออกแบบ และจัดทำแผนงานพัฒนาลำน้ำวังและลำน้ำสาขาอย่างเป็นระบบ ทั้งในส่วนของการขุดลอกลำน้ำวังและลำน้ำสาขาที่ตื้นเขิน,การก่อสร้างคันป้องกันตลิ่ง,การสร้างแหล่งเก็บกักน้ำขนาดเล็ก–ขนาดกลาง,การฟื้นฟูพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม–น้ำป่าไหลหลาก และการเพิ่มประสิทธิภาพระบบส่งน้ำในพื้นที่นอกเขตชลประทาน โดยมาตรการเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงภัยแล้งซ้ำซากในแม่พริก–เถิน และเพิ่มศักยภาพการกักเก็บน้ำของจังหวัดลำปางทั้งระบบ
ระหว่างการพบปะประชาชน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า นักการเมืองต้องทำงานรับใช้ประชาชนตลอด ไม่ใช่โผล่หน้ามาแค่ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง พร้อมย้ำว่า แม้ตนจะมีภารกิจในหลายจังหวัด แต่ยังคงติดตามปัญหาของพี่น้องลำปางอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านน้ำ การเกษตร ราคาพืชผล และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนทุกพื้นที่
“การเร่งรัดโครงการประตูระบายน้ำวังบ้านเหล่าและการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดลำปางในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของกระทรวงเกษตรฯ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการแก้ปัญหาที่ดินทำกิน การส่งเสริมอาชีพ และการเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตทางการเกษตร เพื่อสร้างความมั่นคงให้เกษตรกรกว่า 7,900 ครัวเรือน และยกระดับเศรษฐกิจของจังหวัดในระยะยาว”ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ทั้งนี้ โครงการประตูระบายน้ำแม่น้ำวังบ้านเหล่า กรมชลประทานได้ออกแบบเป็นประตูระบายน้ำแบบบานเหล็กตรงจำนวน 8 ช่อง ช่องละ 10 เมตร สูง 9 เมตร สามารถกักเก็บน้ำได้กว่า 4.41 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้สามารถส่งน้ำสนับสนุนพื้นที่เพาะปลูก ราว 5,775 ไร่ และช่วยให้เกษตรกรเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปี โดยเมื่อโครงการแล้วเสร็จจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการสูบน้ำ เพิ่มน้ำต้นทุนในฤดูแล้ง เสริมความมั่นคงด้านน้ำให้กับพื้นที่การเกษตรกว่า 51,000 ไร่ ของอำเภอเถิน และพื้นที่ในอำเภอแม่พริกที่มีการปลูกข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ลำไย และส้มเกลี้ยง GI ซึ่งเป็นสินค้าสำคัญของจังหวัดลำปาง


