กกต.แจงนักการเมือง-พรรคการเมืองบริจาคเงินช่วยภัยพิบัติได้ไม่อั้น แต่ระดับท้องถิ่นต้องระวังเหตุอยู่ช่วง 180 วันก่อนครบวาระ
วันนี้(1 ธ.ค.) นายเกรียงไกร พานดอกไม้ รองเลขาธิการกกต. กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมชี้แจงการเลือกตั้งท้องถิ่นและระดับชาติ เกี่ยวกับเรื่องการบริจาคเงินในเทศกาลต่างๆ หรือบริจาคเงินช่วยภัยพิบัติ ว่า เรื่องการบริจาคเงินตาม ประเพณี หรือมีเหตุอันสมควรของผู้บริหารท้องถิ่น สส. พรรคการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องเป็นไปตามระเบียบกกต. ว่าด้วยจำนวน หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของการให้ตามประเพณีหรือเมื่อมีเหตุอันสมควรและการยื่นคัดค้านเกี่ยวกับการบันทึกค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไป พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ กรณีการให้ในแต่ละโอกาสตามประเพณี เช่น งานศพ งานบุญ งานขึ้นบ้านใหม่ ทางพรรคการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่เกิน 3,000 บาท
ส่วนกรณีเมื่อมีเหตุอันสมควรแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง สมาชิกพรรคการเมือง ซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง บริจาคได้ไม่เกินโอกาส 300,000 บาท ส่วนพรรคการเมือง บริจาคได้ในแต่ละโอกาสไม่เกิน 3,000,000 บาท หากบริจาคเกินจากที่กำหนดจะถูกกันยอดในส่วนที่เกินไปนั้นไว้ใช้สำหรับการเลือกตั้งครั้งถัดไป เพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกันมากเกินไป ทั้งนี้การบริจาคในกรณีภัยพิบัตินี้สามารถบริจาคให้บุคคล หรือองค์กร หน่วยงานใดก็ได้ ไม่จำเป็นว่าต้องบริจาคผ่านหน่วยงานที่กำหนดเท่านั้น
"กกต.ไม่ได้ปิดกั้น ไม่ได้ห้าม ดังนั้น น้ำท่วม สส.บริจาคได้เต็มที่เลยภายใต้วงเงินตามที่บอกในแต่ละโอกาส ถือว่าเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน พรรคไหน ใครมีศักยภาพเท่าไหร่ก็ไปดูแลประชาชนในพื้นที่ของตัวเองได้ และหากสส.จะบริจาคข้าวสาร หรือสิ่งของสามารถโฆษณาได้ว่าเป็นสส.ในพื้นที่นี้ เป็นพรรคการเมืองนี้ได้ จะติดสติ๊กเกอร์ของบริจาคได้เต็มที่เลย แตกต่างจากท้องถิ่นถ้าอยู่ในห้วง 180 วันก่อนครบวาระ ผู้ที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นจะบริจาค จะทำอะไรมันก็สุ่มเสี่ยงมากๆ เลย แต่ถ้าเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถทำได้ตามมาตรา 65 จะบริจาค จะดูแลประชาชนในพื้นที่ปกครองท้องถิ่น จะอนุมัติงบประมาณใหม่สามาถทำได้ แต่ต้องระมัดระวังด้วย ต้องไม่บอกว่านายกคนนั้น คนนี้ อันนี้อันตราย อาจจะนำมาสู่การผิดกฎหมายได้"
เมื่อถามว่าจะมีการตรวจสอบ ป้องกันการบริจาคในอัตราที่เกินจากกฎหมายกำหนด ผ่านญาติ หรือนอมินีทำอย่างไร นายเกรียงไกร กล่าวว่า เดิมตนก็เข้าใจว่าในส่วนของนักการเมือง บริจาคน้ำท่วม 1 เหตุการณ์ได้ไม่เกิน 300,000 บาท แต่ในข้อเท็จจริงคือ 1 คนจะบริจาคกี่ครั้งก็ได้ในเหตุการณ์ภัยพิบัตินั้นๆ แต่การบริจาค 1 ครั้ง จะบริจาคได้ไม่เกิน 300,000 บาท ดังนั้นจึงไม่น่ามีเหตุผลให้ผู้อื่นไปบริจาคแทน
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าการบริจาค วันนี้บริจาค 300,000 บาท พรุ่งนี้ 300,000 บาท และวันต่อๆ ไป วันละ 300,000 บาท ได้ใช่หรือไม่ นายเกรียงไกร กล่าวว่า ใช่ ตอนนี้เป็นมติกกต.แล้ว และไม่มีกำหนดว่าบริจาคได้แค่กี่วัน เพราะภัยพิบัติไม่ได้นานเป็นเดือน สองเดือน
ด้าน ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการกกต. กล่าวเพิ่มว่า เรื่องของการบริจาคเงินช่วยผู้ประสบอุทกภัย จริงๆแล้วสามารถบริจาคได้หมด ระวังแค่ผู้ที่จะสมัครเท่านั้นเนื่องจาก ระเบียบเกี่ยวกับการหาเสียงมีผลแล้ว เช่น เรื่องการสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สิน รวมถึงเงินเพื่อจูงใจให้ลงคะแนน ย้ำว่านี่ไม่ใช่กฎเหล็กแต่เป็นกฎหมาย ส่วนเรื่องร้องเรียนตอนนี้ยังไม่มีเข้ามา อย่างไรก็ตาม ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาประมาณ 1,700 เรื่อง ปีนี้จึงตั้งเป้าว่าจะมีการร้องเรียนลดลงเหลือราวๆ 1,500 เรื่อง ที่จริงก่อนหน้านี้ที่ร้องเรียนเข้ามานั้นไม่ใช่แค่ การกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องการเข้าใจผิดว่าทำผิดกฎหมายด้วย ดังนั้นถ้าเราชี้แจงให้ผู้สมัคร และผู้เกี่ยวข้องว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ ก็จะช่วยลดเรื่องร้องเรียนลงได้ ซึ่งทุกๆ การเลือกตั้งเมื่อเรามีการชี้แจง ประชาสัมพันธ์แล้วจะมีการร้องเรียนลดลงประมาณ 200-400 เรื่อง แสดงว่ามีความเข้าใจมากขึ้น


