"ศรีสุวรรณ" บุก กกต.ร้องสอบอดีต สส.อุตรดิตถ์ 2 เขต ปมว่าจ้างทำโพลเลือกตั้งปี 66 แต่ไม่จ่ายเงิน–ถูกฟ้องจนศาลสั่งชดใช้ 8.6 หมื่น เผยไม่พบแจ้งค่าใช้จ่ายทำโพลในบัญชีเลือกตั้ง เสี่ยงเข้าข่ายแจ้งเท็จตาม พ.ร.ป.สส. มีโทษถึงจำคุก–ปรับ–ตัดสิทธิ 5 ปี
วันนี้(1ธ.ค.) นาย ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เข้ายื่นหนังสือต่อกกต.ขอให้ตรวจสอบอดีต สส.จังหวัดอุตรดิตถ์ เขต 2 และ เขต 3 หลังจ้างนักวิจัยจัดทำโพลหยั่งคะแนนเสียงช่วงเลือกตั้งปี 2566 แต่เบี้ยวจ่ายจนผู้รับจ้างต้องยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งพระโขนง กระทั่งศาลมีคำพิพากษาให้ต้องชำระเกือบ 1 แสนพร้อมดอกเบี้ย แต่ไม่ปรากฎว่ามีการแจ้งค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งในการจัดทำโพล ถือได้ว่าเป็นการแจ้งเท็จตามกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 มี สส.คนดังสังกัดพรรคลุง ได้ว่าจ้างให้นักวิจัยชื่อดังจัดทำโพลสำรวจการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งของตนเองกับบุตรสาวที่ลงสมัครในเขตเลือกตั้งติดกัน ในจังหวัดทางภาคเหนือตอนล่างเป็นเงิน 3 แสนบาท จนเมื่อถึงช่วงสุดท้ายที่จะต้องจ่ายอีก 1 แสน สส.คนดัง กลับแจ้งว่าติดงานหาเสียง โดยรับปากว่าเมื่อได้ผลสำรวจจากการจัดทำโพลแล้วจะจ่ายให้ แต่ปรากฎว่าเมื่อผลโพลออกมาชี้ว่า สส.คนดังและลูกสาวจะพ่ายแพ้การเลือกตั้งให้กับพรรคส้ม และพรรคแดง ทำให้ สส.คนดังไม่พอใจ กล่าวหาว่าผลโพลไม่ถูกต้อง จึงไม่ยอมจ่ายเงินคงค้างอีก 1 แสนบาทแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามผลการเลือกตั้งที่ออกมา ก็ปรากฏว่าผลลัพท์ของการเลือกตั้งใน 2 เขตดังกล่าวเป็นไปตามผลโพลทุกประการ กระนั้นทางทีมนักวิจัยได้พยายามติดต่อเพื่อขอเงินคงค้างอีก 1 แสนบาทที่เหลือเรื่อยมา แต่ว่า สส.คนดังกลับบ่ายเบี่ยง และหลบเลี่ยงการเจรจา ทั้งที่ก่อนหน้านี้พบปะกันเป็นประจำ
เมื่อการเลือกตั้งผ่านพ้นไป มีการตรวจสอบค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งของ สส.คนดัง และลูกสาว กลับไม่ปรากฎว่ามีการแจ้งค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการว่าจ้างจัดทำโพลดังกล่าวลงในรายการค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้ง ที่ยื่นให้กับ กกต.ตามกฎหมายแต่อย่างใด ทำให้นักวิจัยที่รับจ้างจัดทำโพลดังกล่าว นำความไปยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง กระทั่งบัดนี้ศาลได้มีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ ม64/2568 และคดีหมายเลขแดงที่ ม 143/2568 ให้ ส.ส.คนดังต้องชำระเงิน 86,300 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปีนับตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.2566 ไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
ตนเห็นว่ากรณีดังกล่าวน่าจะเป็นการจงใจยื่นเอกสารหรือหลักฐานไม่ครบถ้วนตามมาตรา 67 ประกอบมาตรา 155 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.ปี 2561 กระทบต่อการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งโดยตรง มีโทษจำคุกและปรับ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี ดังนั้นเมื่อความปรากฎในขณะนี้ว่าผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง จึงเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.ที่จะต้องดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพื่อดำเนินการตามครรลองของกฎหมายต่อไป


