xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลเตือนอย่าหลงกลมิจฉาชีพรับบริจาคทิพย์น้ำท่วม งดแชร์เฟคนิวส์ตื่นตระหนกโทษคุก 5 ปีปรับไม่เกินแสน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รัฐบาลย้ำเตือน อย่าหลงกลมิจฉาชีพ อาศัยความเดือนร้อนช่วงอุทกภัยน้ำท่วม เปิดรับบริจาคทิพย์ งดแชร์ข้อมูลเท็จที่สร้างความตื่นตระหนก โทษหนักจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท

วันนี้ (26พ.ย.) นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคใต้ และจังหวัดอื่น ๆ รัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้ความเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติ รัฐบาลแจ้งเตือนภัยมิจฉาชีพ ฉวยโอกาสอาศัยสถานการณ์ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนซ้ำเติมด้วยการหลอกลวงเปิดรับบริจาค สร้างข้อมูลเท็จ สร้างความตื่นตระหนกให้เกิดความเข้าใจผิด
ทั้งนี้ เพื่อให้รู้เท่าทันกลลวงมิจฉาชีพและผู้ไม่หวังดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติแนะพี่น้องประชาชน ให้รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของมิจฉาชีพและผู้ไม่หวังดี เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้

1. งดแชร์ข้อมูลเท็จที่สร้างความตื่นตระหนก - ขอให้ตรวจสอบแหล่งที่มาของภาพและข้อมูลก่อนส่งต่อทุกครั้ง เพราะการนำภาพน้ำท่วมเก่า ภาพตัดต่อ หรือข้อมูลระดับน้ำที่เป็นเท็จมาเผยแพร่ จะสร้างความสับสนและตื่นตระหนกแก่ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(2) ฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จที่น่าจะเกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท

2. ระวังมิจฉาชีพ "หลอกรับบริจาค" - ให้ระมัดระวังการโพสต์ขอรับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยในสื่อสังคมออนไลน์ โดยมิจฉาชีพมักจะนำภาพความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยจากข่าวหรือสื่ออื่น มาสวมรอยใส่เลขที่บัญชีธนาคารของตนเองหรือบัญชีม้า อ้างว่าเป็นบัญชีของอาสาสมัคร กู้ภัย หรือผู้เดือดร้อนโดยตรง

3. ตรวจสอบบัญชีปลายทางก่อนโอน - หากต้องการบริจาค ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เช่น หน่วยงานราชการ องค์กรการกุศล หรือมูลนิธิที่มีการจดทะเบียนถูกต้อง บัญชีรับบริจาคควรเป็นในนาม "นิติบุคคล" (มูลนิธิ/องค์กร) ไม่ใช่บัญชีชื่อ "บุคคลธรรมดา" เพื่อลดความเสี่ยงในการถูกหลอกลวง

4. โทษหนักสำหรับผู้หลอกลวง - ผู้ที่แอบอ้างหลอกรับบริจาค จะมีความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 ฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จโดยทุจริต หรือหลอกลวง

“พบเห็นเพจหรือบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่มีพฤติกรรมโพสต์ข่าวปลอม หรือหลอกลวงรับบริจาค สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 และหากตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพหลอกโอนเงินบริจาค สามารถแจ้งความออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.go.th หรือติดต่อสายด่วนศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง” นางสาวอัยรินทร์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น