xs
xsm
sm
md
lg

กกต.จ่อนำเทคโนโลยีช่วยเลือกตั้งหวังเพิ่มยอดใช้สิทธิ์ แจงยุบพรรคพิสูจน์พรรคทำหรือไม่ดูแค่บุคคล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เลขาฯกกต. เผยเตรียมนำเทคโนโลยีช่วยอำนวยความสะดวกปชช.ในการเลือกตั้ง หวังเพิ่มยอดผู้มาใช้สิทธิ์ ยันทุกขั้นตอนตรวจสอบได้ แจงปมร้องยุบพรรคพิสูจน์พรรคกระทำหรือไม่ ไม่ใช่ดูแค่ตัวบุคคล

วันนี้( 26 พ.ย.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ (กกต.) บรรยายพิเศษเรื่อง" การเตรียมความพร้อมเลือกตั้งอบต. กับความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ " ตอนหนึ่งว่า การเมืองดีมาจากการเลือกตั้งที่ดี การเลือกตั้งที่ดีก็คือการเลือกตั้งที่สุจริต เที่ยงธรรม ซึ่งการเมืองที่ดีนั้นสังคมไทยโหยหามานาน พิจารณาได้จากรัฐธรรมนูญที่เป็นรูปธรรมที่สุดคือฉบับปี 2540 จนมาถึงทุกวันนี้ที่เราพยายาม ทำให้การเมืองผ่านกระบวนการการเลือกตั้ง แต่มาถึงวันนี้ ก็ไม่รู้ว่าเดินไปข้างหน้า หรือถอยหลัง ทุกคนน่าจะมีคำตอบ

ส่วนเรื่องการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งอะไร วันไหน กกต. พร้อม แต่แต่สิ่งก็ต้องคำนึงคือประชาชนและผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง อย่างกรณีเกิดอุทกภัยที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หรือในพื้นที่ภาคกลาง และนายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)จะครบวาระอีกไม่กี่วันนี้ การดำเนินการเรื่องการรับสมัครหรืออื่นๆอาจต้องมีการขยับ แต่การเลือกตั้งก็ยังมีอยู่

นายแสวง ยังกล่าวด้วยว่า ในทุกการเลือกตั้งสิ่งที่กกต.คิดและคำนึงถึงเหมือนกันคือผลที่ตามมาจากการบริหารจัดการ ซึ่งการเลือกตั้งที่ดีมีองค์ประกอบสำคัญคือ พรรคการเมืองหรือผู้สมัคร ถ้าหาเสียงอยู่ในกติกา ไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียงปัญหา ก็จะไม่เกิด ส่วนต่อมาประชาชนผู้เลือกตั้งถ้าไม่รับหรือเรียกรับก็จะไม่เกิดปัญหาอีกเช่นกัน ส่วนที่สามคือกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง(กปน.)ซึ่งเราออกแบบให้มาจากประชาชน

อย่างการเลือกตั้งสส.ครั้งที่จะถึงนี้ มีประมาณ 120,000 หน่วย หน่วยละ 9 คน เราใช้ประชาชนเป็นกปน. ประมาณ 1 ล้านคน รวมถึงผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ประมาณ 53 ล้านคน

“มองว่ากกต.เป็นหน่วยงานที่ถูกตรวจสอบได้ทุกเรื่อง แค่เรายืนไม่ถูกที่ ก็จะโดนจากทุกทิศ จึงต้องยืนอยู่ที่ถูกที่จุดเดียว สิ่งที่เราได้วินิจฉัยไป ก็อยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย เราไม่ได้วินิจฉัยตามอำเภอใจ แต่เป็นผลการกระทำของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองนั้น ซึ่งเราพร้อมจะให้ตรวจสอบการทำงานของสำนักงานฯและกปน.

ส่วนสุดท้ายคือกติกาในการเลือกตั้งหลายครั้งเราถูกตำหนิ อย่างการเลือกตั้งอบต.ที่กำลังจะเกิดขึ้น มีสมาชิกลาออกไปเลือกตั้งก่อน เราทำอะไรไม่ได้เพราะกฎหมายให้สิทธิ์ หรืออย่างนโยบายประชานิยมของพรรคการเมือง ประชาชนก็บอกว่ากกต. ไม่ทำอะไรเลย แต่คือกฎหมายให้พรรคการเมือง เสนอนโยบายที่จะใช้หาเสียง โดยต้องระบุว่านำเงินมาจากไหนและมีประโยชน์อะไรกับประเทศชาติ มีความเสี่ยงอย่างไรต้องให้ประชาชนได้ศึกษาและลงคะแนน

ซึ่งกกต. ไม่มีอำนาจที่จะไปบอกว่านโยบายนี้ดีหรือไม่ดี แต่ละพรรคการเมืองเสนอมาเข้าข่ายเป็นประชานิยม เป็นเงินหลาย 100,000 ล้านบาท เราก็ไม่มีศักยภาพที่จะวิเคราะห์ว่านโยบายไหนดีหรือไม่ดี เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองต้องให้ข้อมูลกับประชาชน เกิดเข้าใจและให้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง

ส่วนจะทำให้การเลือกตั้งเป็นความสุจริตและเที่ยงธรรมได้อย่างไรนั้นมองว่าไม่ว่าจะการเลือกตั้งแบบไหนเราออกแบบหน่วยเลือกตั้งเพื่อให้การเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรม อยู่ในหลักการคือหลักการของสิทธิในการเลือกตั้งตามปฎิญาสากล และกฎหมาย รวมถึงหลักการมีส่วนร่วมเพราะเราออกแบบวันเลือกตั้งการมีส่วนร่วมคือให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมาเป็นกรรมการประจำหน่วย ซึ่งเป็นคนของประชาชนที่เป็นอาสาสมัคร รวมถึงการพยายามรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้เสียงลงคะแนนให้มากที่สุดซึ่งเป็นปัญหาของระบบในประเทศไทย เพราะการเลือกตั้งครั้งที่สูงสุดมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์กว่า 76% แต่ตอนนี้ปัญหาของระบบคือเป็นกันทั่วโลกและต้องเป็นทฤษฎีศึกษาว่าเกิดอะไรขึ้นที่ประชาชนไม่ออกใช้สิทธิ์เลือกตั้ง คงจะเป็นมุ่งหมายที่ต้องได้ข้อสรุปและนำมาแก้ไขว่าเราจะทำให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเพราะเป็นระบบที่ประชาชนสามารถเลือกตัวแทนได้อย่างโดยตรง

นอกจากนี้มองว่าปัจจัยที่จะทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรมแบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ กลุ่มแรกคือความสุจริตที่อาจเกิดขึ้นในหน่วยเลือกตั้งกับอย่างที่สองคือนอกหน่วยเลือกตั้ง ในหน่วยเลือกตั้งนั้นได้ออกแบบเรื่องความโปร่งใส ทั้งการแสดงตน การรับบัตร การหย่อนบัตรลงไปในหีบ การนับคะแนนขานคะแนน ส่วนต่อมาคือความโปร่งใสที่สามารถตรวจสอบได้ในเชิงระบบเหมือนการลงคะแนนคือนับคะแนนศึกที่หน่วยเลือกตั้งหลังจากที่นับคะแนนเสร็จ มีข้อมูลแสดงชัดเจนว่าหน่วยนั้นมีบัตรเท่าไหร่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเท่าไหร่และมีประชาชนมาทั้งหมดเท่าไหร่

ส่วนปัญหาใหญ่ที่เป็นคำถามทุกการเลือกตั้งคือมีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงมีกกต. ไม่รู้อยู่หน่วยเดียวซึ่งเป็นทุกการเลือกตั้งแสดงว่ายังมีการทำลักษณะนี้อยู่ หากถามว่าเราทราบหรือไม่ จริงๆมีศูนย์ข่าวมีชุดตรวจเคลื่อนที่เร็ว และความเคลื่อนไหวของ ผู้สมัคร พรรคการเมือง เรามีบัญชีหัวคะแนนหมด แต่สิ่งที่ยากคือการหาพยานหลักฐานที่จะนำมาใช้ในการวินิจฉัย ว่าใครกำลังทำผิดกฎหมายอันนี้จะมีลักษณะมีความซับซ้อน ถ้ามองภายในแง่ดีคือหากผู้สมัครไม่ทำเสียเองหรือประชาชนไม่รับซื้อเองมันก็จะไม่เกิดขึ้น

ส่วนความเที่ยงธรรมคือการใช้กฎหมายให้เที่ยงตรงตามเนื้อหา เราต้องตีความให้ชัดเจนเพราะคนที่ได้รับผลกระทบคือผู้สมัครพรรคการเมืองหรือประชาชน ต่อมาคือเมื่อบังคับผิดกฎหมายต้องบังคับใช้กฎหมายให้เสมอภาคกันบางเรื่องกฎหมายไม่ได้เป็นความผิดแต่ว่าจะขัดกับความรู้สึกของประชาชน

อย่างคดีที่ประชาชนสนใจ คือคดียุคพรรคการเมือง มีอยู่ในกกต. ประมาณ 50-60 คดี ในความรู้สึกของประชาชนถ้าคนของพรรคการเมืองทำจะเป็นสมาชิกหรืออย่างไรก็จะมีคนมาร้องทันทีให้ยุบพรรคและความรู้สึกคนก็จะติดตามไปว่าเป็นเข้าข่าย แต่ถ้ามาดูตามกฏหมายการยุบพรรคได้ ก็ต้องเป็นพรรคทำผิด ไม่ใช่สมาชิกไปทำแล้วผิดก็ทำในนามส่วนตัว ต้องดูว่าสิ่งที่ทำนั้นผิดอะไรบางอย่างอาจจะผิดกฎหมายอื่นแต่ไม่ใช่เหตุยุบพรรคตามกฏหมายพรรคการเมือง"

เลขาธิการกกต. กล่าวอีกว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะใช้เทคโนโลยีเพื่อบอกว่าหน่วยเลือกตั้งอยู่ที่ไหนและมีคนเลือกตั้งเท่าไหร่ เพื่อให้ประชาชนเตรียมตัวในการเลือกตั้งและเสียเวลาน้อยที่สุด

“ ไม่ใช่ว่าเราไม่พัฒนา หรือไม่คิดทำอะไร เราพยายามนำเทคโนโลยีเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกและการบริหารจัดการในการที่จะให้คนมาลงคะแนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะสิ่งที่คนมาลงคะแนนได้เยอะคือความชอบธรรมของระบบประชาธิปไตยซึ่งมีปัญหาอยู่ทั่วโลก มันคือความท้าทายอย่างหนึ่งของตัวระบบและคนก็อยู่ในระบบเองว่าจะทำอย่างไรให้มีความชอบธรรม เพราะเรากำลังจะเลือกผู้บริหารเข้าไปทำหน้าที่แทนเรา เขาควรจะได้รับความชอบธรรมด้วย อยากให้มั่นใจว่าความสุจริต เที่ยงธรรม ที่จะเกิดในการเลือกตั้ง ผมกล้ารับประกันว่า มีความสุจริตและเที่ยงธรรมและโปร่งใสในหน่วยเลือกตั้ง เราออกแบบการตรวจสอบไว้ทุกขั้นตอน”


กำลังโหลดความคิดเห็น