“ดีเอสไอ” ออกหมายเรียกผู้ต้องหาคดีฮั้ว สว.ไม่ระบุวัตถุประสงค์กระทำผิด ทั้งที่ก่อนหน้ารับเป็นคดีพิเศษระบุชัดทั้งสาเหตุ ข้อกฎหมาย ฐานความผิด จับตากำลังหาทางลง หลังศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวน "ภูมิธรรม - ทวี" ปมแทรกแซงคดี วันที่ 24 ธ.ค. นี้
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ โดยกองคดีการฟอกเงินทางอาญา ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา 1 ใน 8 ผู้ต้องหาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษกล่าวหาในคดีฮั้วเลือกตั้ง สว. หลังสอบสวนพยานประมาณ 1,200 คน โดยมี พลตำรวจโทคำรบ ปัญญาแก้ว สว.สำรอง เป็นผู้กล่าวหา
หมายเรียกดังกล่าว ให้เหตุผลของการเรียกมาสอบสวน ระบุว่า “ร่วมกันเป็นอั้งยี่และเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกติปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมาย เพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ร่วมกันสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ฯลฯ” จึงให้ผู้ต้องหารายนี้ ไปที่กองคดีการฟอกเงินทางอาญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ ศูนย์ราชการอาคารเอ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 19 พ.ย. 2568 เพื่อพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ลงนามโดยนายเอกรินทร์ ดอนดง พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าการออกหมายของดีเอสไอครั้งนี้ เป็นการแจ้งข้อหาโดยไม่ระบุเหตุผลว่าเกี่ยวข้องกับฐานความผิดหลักเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร อย่างชัดเจนเพื่อที่ให้ผู้ต้องหาชี้แจงข้อเท็จจริงกับพนักงานสอบสวนได้ถูกต้อง แตกต่างจากมติคณะกรรมการคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ในสมัยที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ เป็นประธาน ที่มติรับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษและระบุฐานความผิดชัดเจน ว่าเป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ส่วนคดีอาญาใดที่ต่อเนื่องหรือเกี่ยวข้องกับคดีพิเศษดังกล่าว เช่น คดีความผิดฐานอังยี่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 รวมทั้งความผิดตามมาตรา 116 และการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับการฟอกเงินทางอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา เกี่ยวกับการฟอกเงินทางอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 มาตรา 77 วรรคท้าย ย่อมเป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคสอง ที่จะทำการสอบสวนต่อไปได้ โดยไม่ต้องมีมติให้คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) แต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังมีการคาดว่าสาเหตุที่กรมสอบสวนคดีพิเศษไม่แจ้งข้อหาต่อผู้ต้องหาดังกล่าวอย่างชัดเจน เพราะอาจเกิดความกังวลและต้องการหาทางลง หลังรับทราบว่า ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวน นายภูมิธรรม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตรมว.ยุติธรรม ในวันที่ 24 ธ.ค. นี้หลัง สว. ยื่นให้ตรวจสอบฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เนื่องจากใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษ แทรกแซงอำนาจ กกต. ในกระบวนการตรวจสอบการเลือกตั้งวุฒิสภา และรับเป็นคดีพิเศษใช่หรือไม่


