นายกฯ เผย ไทยเดินหน้าเก็บกู้ทุ่นระเบิดแลกลดภาษีสหรัฐฯ ลุ้นต่ำกว่า 19% ลั่น "ทรัมป์" พูดแล้วโจ๊กไม่โจ๊กไม่รู้ แต่คนระดับนี้พูดต้องทำดีที่สุด ย้ำตามกองทัพกัมพูชาเลิกเป็นปฏิปักษ์ถึงตามปฏิญญาได้
วันนี้ (18พ.ย.) เมื่อเวลา 17.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว. มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีภายหลังได้พูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ว่า อุ๊ย ไม่ต้องประเมินเลย นายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นคนตรงไปตรงมา ท่านพูดกับตนพูดเปิดเผยไม่มีอะไรแอบแฝง ไม่ได้เป็นการต่อรองใดๆทั้งสิ้น เพียงแต่บอกว่าเราต้องการเห็นอะไร อย่างที่ท่านได้พูดกับตนก็คือท่านกังวลในเรื่องของการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เนื่องจากไทยบอกว่าถ้ากัมพูชาละเมิดปฏิญญานี้ไทยก็ระงับการดำเนินการทางปฏิญญา คำว่าระงับไม่ใช่ยกเลิก แต่คำว่าระงับไม่ใช่การไม่เก็บกู้ทุ่นระเบิด แต่ยังคงเดินหน้าเก็บทุ่นระเบิดต่อไปตามการตัดสินใจของเรา ต่างจากก่อนหน้านี้ต้องพร้อมทั้ง 2 ฝ่ายก่อนเข้าไป แต่ตอนนี้เราเข้าไปเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม ซึ่งตรงกับสิ่งที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯต้องการ ฉะนั้นเรื่องนี้ก็เคลียร์ เขาก็แฮปปี้ เขาถามมาว่าเรายังทำอยู่ใช่ไหม ถ้าทำอยู่ก็โอเค เดี๋ยวเขาจะไปพูดกับกัมพูชาว่าในจุดนี้อย่าให้มีการขัดขวางให้เร่งทำการกู้ทุ่นระเบิดให้เร็วที่สุด
“ยิ่งทำเร็วเท่าไหร่ ก็จะ Chopping Off (ตัดออก) few Percentage Tariff เรื่องโจ๊กหรือไม่โจ๊กไม่รู้ แต่ว่าคนระดับนี้ถ้าเขาพูด สิ่งที่เราจะต้องทำคือเร่งทำในส่วนของเราให้ดีที่สุด“นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่าได้มีการถามหรือไม่ว่าการเจรจาภาษีกับเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชาไม่เอามารวมกัน นายกฯกล่าวว่า ตนได้พูดเรื่องนี้และถามกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา รวมถึงคุยกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แต่หนังสือที่ออกมาจากโดยผู้แทนการค้าสหรัฐฯ(ยูเอสทีอาร์) ออกมาก่อนที่ตนจะพูดคุยกับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ แต่อย่าไปซีเรียสกับเรื่องรายละเอียด ของพวกนี้มันปรับเปลี่ยนกันได้ตลอดเวลา อย่างที่ตนบอกอย่าไปซีเรียส ตนเห็นว่ามีคนบอกนายกฯพูดอย่างนี้นะ วันนั้นสถานการณ์เป็นอย่างนั้น นายกฯก็ต้องพูดอย่างนี้ แต่พอมาถึงวันนี้สถานการณ์มันปรับเปลี่ยนไป เราก็ต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ แต่การปรับเปลี่ยนนั้นต้องเกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศของเรา ตรงนี้ต่างหากที่สำคัญ ไม่ใช่เมื่อวานพูดแบบนี้ บอกไปเลยอันตรายเราจะกู้ทุ่นระเบิดอย่างเต็มที่ อะไรที่เป็นอันตรายกับเราก็ต้องไปอยู่ดี อย่างนี้มันก็ไม่ได้ถูกหรือไม่ เราก็ต้องทำให้มันตรงกับสถานการณ์ที่สุด
เมื่อถามว่า สหรัฐอเมริกาและมาเลเซียในฐานะสักขีพยาน มีสัญญาณบวกอะไรหรือไม่ที่จะให้ทางกัมพูชาขอโทษไทยกรณีที่ทหารไทยขาขาด นายกฯกล่าวว่า เราแจ้งความประสงค์ของเราให้เขาทราบแล้วว่าให้ขอโทษและเสียใจ ซึ่งตอนนี้ได้เสียใจมาแล้ว เหลือขอโทษ ก็ต้องค่อยๆ
เมื่อถามอีกว่าตอนนี้ประเทศไทยยังมีความหวังว่าภาษีสหรัฐฯจะลดลงจาก 19% ใช่หรือไม่ หากการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเป็นไปตามเป้า นายกฯกล่าวว่า ในความเป็นประเทศไทย ตรงไหนที่มีโอกาส เพราะการที่เราให้ความร่วมมือตลอดเวลา อย่างกรณีที่สหรัฐฯเกิดความไม่เข้าใจในประเทศเรา คิดว่าเราไม่ได้ปฏิบัติตาม หรือไม่ได้ทำตามที่เขาคิด เขาก็จะมาในลักษณะเดี๋ยวจะกระทบภาษีนะ เราก็แค่พูดว่า ในเมื่อมันไม่ใช่อย่างนั้น ถ้าไม่ทำตามก็ขึ้น ถ้าทำตามลดหรือไม่ มันเป็นสิทธิ์ของเราในการเจรจาต่อรอง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของการเจรจาต่อรอง เขาต้องต่อรองผลประโยชน์ของเขา เราต้องต่อรองประโยชน์ของเรา เพื่อแสวงจุดร่วมกันให้ได้
เมื่อถามถึงกรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลงสหรัฐฯจะดำเนินการอะไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เขาก็ต้องไปพูดคุย เขาเป็นพยาน ซึ่งการละเมิดคือละเมิดต่อไทย เราได้แจ้งท่าทีอย่างชัดเจนแล้วตาม 11 ข้อ
เมื่อถามอีกว่า เมื่อไทยแสดงท่าทีแล้ว แต่สหรัฐฯจะระงับการเจรจาภาษีกับไทย นายกฯกล่าวว่า ก็อาจจะเป็นความเข้าใจที่ผิด เขาชี้แจงแล้วก็ไม่ระงับการเจรจา ซึ่งเรามีหน้าที่ในการชี้แจง เพราะคนนั้นพูดทีคนนี้พูดที มันก็เกิดความสับสนได้ สิ่งที่เราทำอยู่ขอให้ยึดมั่นอยู่ในประโยชน์ของประเทศไทยให้มากที่สุด และประโยชน์ของประชาชนไทยให้มากที่สุด ซึ่งการเจรจาการค้าจะต้องทำให้ต้นทุนของประชาชนคนไทยน้อยที่สุด และการเจรจาเรื่องความขัดแย้งระหว่างประเทศต้องมั่นใจว่าความปลอดภัยของประชาชนไทยต้องสูงที่สุด มันก็มีหลักของมันอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามไทยมีจุดยืนของเราอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าความที่กัมพูชายังเป็นปรปักษ์กับไทย หากต้องจับมือกับผู้นำกัมพูชาเหมือนที่ประเทศมาเลเซียจะจับมือกันหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เรื่องสัมผัสมือมันเป็นเรื่องมารยาท ตนเจอฝ่ายค้านก็ยิ้มและสวัสดีทุกคน เรื่องมารยาทส่วนมารยาท แต่หลักการต่างคนต่างมี กองทัพไทยก็บอกแล้วว่าจะกลับมาดำเนินการตามปฏิญญาได้ก็ต่อเมื่อความเป็นปรปักษ์ของกัมพูชามันไม่มีภัย แต่ความมั่นคงของชาติ คือเขาก็พูดชัดเจนของเขาอยู่แล้ว รัฐบาลก็ต้องไปตามนั้น ไปเห็นเป็นอย่างอื่นมันไม่ได้


