ผู้บริโภคจี้ TCC เร่งแจงคืบหน้าตรวจสอบคุณสมบัติกสทช. “ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต” ชี้ยื่นเรื่องตั้งแต่สิงหาคมยังไร้คำตอบ หวั่นกระทบความเชื่อมั่นกระบวนการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 นายพรศักดิ์ สุวรรณ ประชาชนในฐานะผู้บริโภค ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อสภาองค์กรของผู้บริโภค (TCC) เพื่อทวงถามความคืบหน้ากรณีตรวจสอบคุณสมบัติของ ศาสตราจารย์ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. หลังจากได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไว้นานกว่า 3 เดือน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยความคืบหน้าหรือผลการพิจารณาใด ๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายพรศักดิ์ระบุว่า การที่สภาองค์กรของผู้บริโภคยังไม่ออกมาชี้แจงต่อสาธารณะ ยิ่งทำให้เกิดข้อสงสัยต่อกระบวนการทำงานขององค์กรที่มีหน้าที่คุ้มครองสิทธิของประชาชน
“ผมยื่นเรื่องไปตั้งแต่เดือนสิงหาคม และจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบหรือความคืบหน้าใด ๆ สภาองค์กรของผู้บริโภคต้องทำงานเชิงรุก ไม่ใช่รอให้ประชาชนติดตามเอง เพราะนี่คือองค์กรที่มีหน้าที่คุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค ต้องแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสและความจริงจังในการดำเนินการ”
นอกจากนี้ยังย้ำว่า การติดตามครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการถามหาความคืบหน้า แต่เป็นการเรียกร้องให้สภาองค์กรของผู้บริโภค เปิดเผยขั้นตอนการพิจารณาและกำหนดกรอบเวลาอย่างชัดเจน เนื่องจากกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับความเชื่อมั่นของสาธารณะ
ในหนังสือติดตามครั้งนี้ นายพรศักดิ์ยังได้สำเนาถึง นางสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริหารสูงสุดขององค์กรเข้ามากำกับและติดตามการพิจารณาด้วยตนเอง โดยนายพรศักดิ์ระบุว่า ประเด็นดังกล่าวมีผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อบทบาทของสภาองค์กรฯ จึงควรมีผู้นำองค์กรรับทราบและเร่งรัดให้เกิดความคืบหน้าอย่างเป็นทางการ
สำหรับกรณีดังกล่าว ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 นายพรศักดิ์ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อสภาองค์กรของผู้บริโภค เพื่อให้ตรวจสอบคุณสมบัติของ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต หลังมีข้อมูลว่าได้ทำสัญญาเป็นที่ปรึกษาแผนงานวิจัยกับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐ ในช่วงที่ยังดำรงตำแหน่งกรรมการ กสทช. หนังสือร้องเรียนชี้ว่า พฤติการณ์ดังกล่าวอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนข้อห้ามตามมาตรา 8 (2) ของพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ที่ห้ามกรรมการ กสทช. เป็นลูกจ้างหรือที่ปรึกษาของหน่วยงานรัฐ และอาจเข้าข่ายเหตุพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 20 (5) โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาควบคู่กับมาตรา 26 ซึ่งกำหนดให้กรรมการต้องปฏิบัติหน้าที่เต็มเวลา
ทั้งนี้ นายพรศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค เคยให้ข่าวระบุไว้อย่างชัดเจนว่า “การพิจารณาใด ๆ ของ กสทช. ที่อาจมีผลกระทบต่อสิทธิของผู้บริโภค หากดำเนินการโดยบุคคลที่ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้าม ย่อมไม่ชอบธรรม โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคซึ่งถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและสำคัญ”
ดังนั้นจึงเห็นว่าการร้องเรียนเกี่ยวกับ ศ.ดร.พิรงรอง เป็นประเด็นที่สภาองค์กรของผู้บริโภคควรเร่งดำเนินการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ด้วยเหตุนี้ นายพรศักดิ์จึงเห็นว่า การตรวจสอบคุณสมบัติของ ศ.ดร.พิรงรอง ไม่ควรถูกปล่อยให้ล่าช้าและต้องมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมเรียกร้องให้สภาองค์กรของผู้บริโภคเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเปิดเผยผลต่อสาธารณะโดยเร็ว เพื่อให้การคุ้มครองประโยชน์ของประชาชนเป็นไปอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ


