วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 — นายโอภาส ถาวร รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ลงพื้นที่จังหวัดอ่างทอง–สิงห์บุรี ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ด่านหน้า หลังหลายชุมชนได้รับผลกระทบจากมวลน้ำหลากที่ท่วมบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรเสียหายเป็นบริเวณกว้าง
รายงานจากพื้นที่ระบุว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 2 (สทน.2) ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ ได้ระดมสรรพกำลังทั้งบุคลากร เครื่องสูบน้ำ และรถบรรทุกน้ำลงพื้นที่ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม พร้อมได้รับการเสริมกำลังจาก สทน.1, 3, 6 และ 9 เพื่อสนับสนุนภารกิจเร่งช่วยเหลือประชาชนในจุดวิกฤตให้เร็วที่สุด
นอกจากนี้ ยังเป็นการทำงานแบบ “ทส. หนึ่งเดียว” ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสิงห์บุรี (ทสจ.สิงห์บุรี) ทสจ.อ่างทอง และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ที่ร่วมบูรณาการกำลังคน เครื่องจักร และการสนับสนุนด้านต่าง ๆ ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ปฏิบัติการช่วยเหลือต่อเนื่องกว่า 45 วัน – ระบายน้ำแล้วกว่า 6.8 ล้าน ลบ.ม.
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 14 พฤศจิกายน 2568 สทน.2 และหน่วยสนับสนุนทั้งหมดสามารถเร่งระบายน้ำรวมกว่า 6.8 ล้านลูกบาศก์เมตร ช่วยเหลือประชาชนแล้วกว่า 7,746 ครัวเรือน หรือ 23,510 คน ดูแลพื้นที่เกษตรที่ได้รับผลกระทบกว่า 5,266 ไร่ พร้อม แจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคกว่า 1,500 ขวด ให้ชุมชนที่เผชิญสถานการณ์หนักที่สุด
อ่างทองยังวิกฤต – เดินเครื่องสูบน้ำ 24 ชั่วโมงไม่หยุด
ในจังหวัดอ่างทอง เจ้าหน้าที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 12–24 นิ้วในหลายพื้นที่ อาทิ ต.จำปาหล่อ ต.ป่างิ้ว และ ต.บ้านพรหม พร้อมเดินเครื่องตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเร่งระบายน้ำจากพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งมีน้ำท่วมขังเป็นเวลาหลายสัปดาห์
สิงห์บุรียังน่าห่วง – หลายหมู่บ้านน้ำระบายช้า
ด้านจังหวัดสิงห์บุรี ทีมปฏิบัติการลงติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดสำคัญ เช่น หมู่ 3 ต.หัวไผ่ ต.โพทะเล ต.ท่างาม และหลายชุมชนริมแม่น้ำที่เป็นคอขวดของการระบายน้ำ ส่งผลกระทบต่อชุมชนและแปลงเกษตรจำนวนมาก
นายโอภาส ถาวร ระบุว่า การช่วยเหลือครั้งนี้เป็นผลจาก “ความร่วมมือของทุกหน่วยในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)” ทั้งกรมทรัพยากรน้ำ ทสจ. ทั้ง 2 จังหวัด และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล รวมถึง สทน.1, 3, 6 และ 9 ที่ร่วมลงพื้นที่สนับสนุนภารกิจอย่างเต็มที่ พร้อมกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทุ่มเททำงานทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลือเร็วที่สุด
กรมทรัพยากรน้ำยืนยันว่าจะสนับสนุนเครื่องจักร อุปกรณ์ และกำลังคนอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยขณะนี้สามารถควบคุมภาวะน้ำท่วมได้ในระดับหนึ่ง และคาดว่า ภายในสัปดาห์หน้า สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ


