วันนี้(13 พ.ย.)นายอัครวัฒน์ พงศ์ธนาชลิตกุล สว.สำรอง เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากปมคดีฮั้ว สว.ที่อยู่ระหว่างพิจารณาของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยปัญหาหรือข้อโต้แย้ง ชุดที่ 36 ต่อมานายอัครวัฒน์ พงศ์ธนาชลิตกุล สว.สำรอง เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีอาญาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกับนายอิทธิพร บุญประคอง กกต.กับพวกรวม 8 คน ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
.
ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.00 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้นัดฟังคำสั่งผลคดี ผลปรากฏว่า ในชั้นตรวจฟ้อง ศาลได้รับคดีของโจทก์ไว้พิจารณา โดยให้โจทก์แก้ไขเนื้อหาฟ้องที่บกพร่องบางประการ โดยให้โจทก์จัดทำบัญชีพยานชี้ช่องและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดี เพื่อประกอบในชั้นไต่สวนมูลฟ้องต่อไป
.
นายอัครวัฒน์ กล่าวว่า ตนได้ยื่นฟ้องนายอิทธิพร บุญประคอง กับพวกรวม 8 คน พ่วงนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. แบ่งเป็นการกระทำความผิดร่วมกัน 2 กรรม
- กรรมแรก ปล่อยปละละเลยไม่ควบคุมสำนวนคดีและไม่ดำเนินการสืบสวน ไต่สวนและวินิจฉัยชี้ขาด ตามอำนาจหน้าที่ โดยประวิง เวลา โยกโย้ ไม่รับสำนวนคดี ทำให้คดีล่าช้าเกินควร
- ส่วนอีกกรรมหนึ่ง เป็นการสร้างขั้นตอนยุ่งยาก เพื่อประวิงเวลา ดึงสำนวน โดยตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยปัญหาหรือข้อโต้แย้ง ชุดที่ 36 ซึ่งเป็นบริวารของ กกต.ทั้ง 7 โดยที่มีการตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยปัญหาหรือข้อโต้แย้ง ชุดที่ 1 ถึง ชุดที่ 35 อยู่แล้ว แต่ใช้ดุลพินิจตามอำเภอใจ ไร้ขอบเขต เพื่อประโยชน์ให้แก่กลุ่มผู้ถูกกล่าวหา รวมทั้งปล่อยให้สำนวนคดีที่เป็นความลับหลุดออกมา
.
ส่วน กกต.ที่ถูกฟ้อง เป็นการทำหน้าที่ ระหว่างวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 จนถึงปัจจุบัน โดยนายแสวง บุญมี ต้องถูกฟ้องด้วย เพราะมีส่วนร่วมในการประวิงเวลา โยกโย้ สร้างขั้นตอนโดยไม่จำเป็น
.
ส่วน กกต.ตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยปัญหาหรือข้อโต้แย้ง ชุดที่ 36 ที่เป็นบริวาร ตนเล็งฟ้องอยู่เพราะเป็นเครื่องมือในการไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานในสำนวน
.
ตนขอเรียนกับพี่น้องประชาชนว่า คดีนี้ คดีฮั้ว สว. ที่ตนยื่นฟ้องกับ ประธาน กกต.และ กกต.รวมทั้งเลขาธิการ กกต.ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นคดีที่สองในประวัติศาสตร์การเมืองไทย โดยเปรียบเทียบกับ กกต.ในอดีต อย่าง พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธาน กกต. นายปริญญา นาคฉัตรีย์ และ นายวีระชัย แนวบุญเนียร กกต. ที่ศาลพิพากษาจำคุก 4 ปี
.
ตนต้องขอบคุณคณะผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตฯ ที่ให้ความเป็นธรรมแก่ตนและคณะ ที่ยึดมั่น ความยุติธรรม เที่ยงตรง ปราศจากอคติทั้งปวง ในการอำนวยความยุติธรรมทางอาญา ที่รับคดีไว้พิจารณาไต่สวนมูลฟ้อง
.
ทั้งนี้ ตนมีพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร และพยานวัตถุ ที่จะเข้าสู่สำนวนจำนวนมาก โดยจะหมายเรียกพยานเอกสารในสำนวนคดี ที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ชุดที่ 26 เข้ามาในสำนวนเพี่อให้ศาลตรวจสอบว่า กลุ่มจำเลยนี้ ได้กระทำอะไรไว้กับแผ่นดินไว้บ้าง จะเอาให้ติดคุกให้ได้
.
ตนเชื่อว่า พระสยามเทวาธิราชมีจริง คุ้มครองแผ่นดินประเทศไทย ไม่ให้กลุ่มพวกนี้ ใช้อำนาจโดย มิชอบ แถมกินเงินเดือนภาษีประชาชน ใครทำอะไรกับแผ่นดินไว้ ขอให้มีอันเป็นไป
.
ส่วนคดีที่กลุ่มสภาเที่ยงธรรมและ สว.สำรองบางท่าน ไปยื่นฟ้อง แต่ศาลไม่รับไว้พิจารณา เพราะไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะไม่มีส่วนได้เสียกับคดีโดยตรง ตนไม่ขอออกความเห็น แต่แง่คดีแตกต่างจากคดีของตนที่ฟ้อง 2 กรรม เพราะการตั้งฟ้องในการบรรยายฟ้อง โดยตนเองเป็นผู้มีส่วนได้เสียในคดี กกต.ประวิงคดี ทำให้ตนได้รับความเสียหาย
ส่วนที่มีกระแสข่าวล่าสุด มีพยานบุคคลบางปาก ในคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ กลับคำให้การ เป็นคนละส่วนกันกับคดีที่ตนยื่นฟ้อง โดยพยานหลักฐานในคดีที่ กกต.สืบสวนและไต่สวน ชุด 26 พยานหลักฐานคนละส่วนกัน ไม่อาจมาหักล้างในคดีฮั้ว สว.ได้ ถือเป็นพยานหลักฐานนอกสำนวนกับคดีที่ กกต.ไต่สวน ไม่มีผลกระทบเนื้อหาในคดี


