xs
xsm
sm
md
lg

ประธานกองทุนเส้นทางสายไหม เยือนบริษัท คาร์บอนเน็ตเวิร์ค จำกัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ฯพณฯ จู จวิน ประธานกองทุนเส้นทางสายไหม เยือนบริษัท คาร์บอนเน็ตเวิร์ค จำกัด
วันที่ 12 พ.ย. 2568 ฯพณฯ จู จวิน (Her Excellency Zhu Jun) ประธานกรรมการกองทุนเส้นทางสายไหม (Silk Road Fund) สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เดินทางเยือนบริษัท คาร์บอนเน็ตเวิร์ค จำกัด โดยมี ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น การเยือนครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาที่ยั่งยืนระหว่างไทย-จีน ภายใต้โครงการ “One Belt, One Road” หรือแผนยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21 อันเป็นกรอบความร่วมมือระดับภูมิภาคที่มุ่งเชื่อมโยงเศรษฐกิจ การค้า และโครงสร้างพื้นฐานของหลายประเทศเข้าด้วยกัน


กองทุนเส้นทางสายไหมก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2014 (พ.ศ. 2557) โดยรัฐบาลจีนได้จัดตั้งเงินทุนเริ่มแรกจำนวน 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้ในการลงทุนโครงการความร่วมมือต่าง ๆ ตามแนวเส้นทางสายไหมใหม่ ต่อมาในปี 2017 กองทุนฯ ได้รับการเพิ่มทุนอีก 14.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้กองทุนมีศักยภาพทางการเงินที่สูงขึ้น วัตถุประสงค์หลักของกองทุนฯ คือการสนับสนุนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ภายใต้กรอบโครงการ One Belt, One Road เพื่อประโยชน์ร่วมกันของประเทศตามแนวเส้นทางสายไหมใหม่ กองทุนฯ ได้เข้าร่วมลงทุนในหลายโครงการโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานสะอาดทั่วเอเชีย แอฟริกา และยุโรป เพื่อเสริมสร้างการเชื่อมโยงและการพัฒนาร่วมกันระหว่างประเทศต่าง ๆ


ในการหารือระหว่างการเยือนครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือในโครงการ “Zero Carbon Pathway” ซึ่งมุ่งเน้นสู่การลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ผ่านการพัฒนาพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โครงการดังกล่าวสอดคล้องกับพันธกิจของคาร์บอนเน็ตเวิร์ค ที่ดำเนินธุรกิจด้านคาร์บอนเครดิตและประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ รวมถึงมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในอากาศ ทั้งนี้ กองทุนเส้นทางสายไหม ในฐานะผู้ลงทุนระยะยาวก็ให้ความสำคัญกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนเช่นกัน โดยพร้อมสนับสนุนโครงการที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเน้นย้ำถึงการบูรณาการความร่วมมือเพื่อลดปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ในประเทศไทย โดยจะสนับสนุนโครงการด้านพลังงานสะอาด ส่งเสริมการซื้อขายคาร์บอนเครดิต และช่วยเหลือภาคธุรกิจกับชุมชนในการปรับตัวสู่แนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความร่วมมือเหล่านี้คาดหวังว่าจะช่วยยกระดับคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน ลดผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ และสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจของไทยในรูปแบบที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต






กำลังโหลดความคิดเห็น