xs
xsm
sm
md
lg

“เสี่ยหนู” ทำขึงขัง...สุดท้ายทุกอย่างสงบ จบที่ “กระดาษ A4” เหมือนเดิม! ** ไขข้อข้องใจ ทำไมตั้ง “ผกก.หนุ่ย” บอดี้การ์ดชินวัตร นั่ง รอง ผอ.ยุทธศาสตร์ชาติ!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

++ “เสี่ยหนู” ทำขึงขัง...สุดท้ายทุกอย่างสงบ จบที่ “กระดาษ A4” เหมือนเดิม!

จากเหตุการณ์เขมรวางทุ่นระเบิดใหม่ ทหารไทยเหยียบบาดเจ็บสูญเสียอวัยวะสองนาย นำมาสู่การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย บอกอย่างขึงขัง ตั้งแต่วันก่อนว่า จะนั่งหัวโต๊ะ พิจารณา "มาตรการ" ตอบโต้เขมรในการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ด้วยตัวเอง และ โปรยคำพูดให้ชวนติดตามว่า “ขอให้คอยดู”

แหม! ชาวบ้านร้านตลาดก็เฝ้ารอมาตรการ "เอาคืน" แบบเด็ดขาด นึกว่า จะได้เห็นหมัดฮุกซ้ายขวา! หรือ บทที่สังคมอยากเห็น “ฉีก MOU” ยกเลิกข้อตกลงระหว่างไทย-เขมร ที่ก็เห็นๆ กันอยู่ฝ่ายเขมรไม่เคยทำตามข้อตกลง แถมละเมิดมาแล้วกี่ครั้งกี่หน จนจำไม่ได้เสียที

แต่พอประชุมจบ “นายกฯหนู” ให้สัมภาษณ์แบบหล่อๆ เหมือนเดิม บอกว่าได้มาตรการที่ "เข้มข้นมากแล้ว" โดยสั่ง "ระงับปฏิญญาร่วมไทย-กัมพูชา" ที่ไม่มีความหมายตั้งแรกอยู่แล้ว และกำลังจะบินไปเยี่ยมทหารบาดเจ็บ ว่าแล้วก็โยนเผือกร้อนไปให้ รมว.กลาโหม และ รมว.การต่างประเทศ รับไป

แน่นอนว่า “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม และ “สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว” รมว.ต่างประเทศ รับหน้าเสื่อ แถลง...ดูเหมือนจะมีท่าที "ฮึ่มฮั่ม" ขึ้นมาหน่อย !

รมว.กลาโหม เสียงเข้มยืนยันว่า ยอมรับไม่ได้! และ ได้ยุติการปฏิบัติตามปฏิญญาไว้ก่อนทั้งหมด "ทุกข้อ" รวมถึงยุติการจะส่งเชลยศึก! แถมยังบอกว่า กองทัพไม่ได้คาดหวังความจริงใจจากกัมพูชาอยู่แล้ว พร้อมย้ำว่า นี่คือการ "ยกระดับ"

อนุทิน ชาญวีรกูล - พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ - สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว
ส่วน รมว.ต่างประเทศ “สีหศักดิ์” ก็ยืนยันว่า ระงับปฏิบัติการตามปฏิญญาพร้อมเดินหน้า "ประท้วง” เป็นลายลักษณ์อักษร ตามกรอบอนุสัญญาออตตาวา เพื่อให้ประชาคมโลกได้รับรู้ และเรียกร้องให้เขมร "แสดงความรับผิดชอบ" และ "แสดงความเสียใจ"
นี่เห็นภาพชัดเจน ถึงมาตรการที่ว่า "เข้มข้นมาก" ที่นายกฯว่า และรมว.กลาโหมสำทับ "ยกระดับแล้ว" นั้น ... สุดท้ายก็คือการ "ระงับปฏิญญา" และ หมัดเด็ดคือ...การดำเนินการทางการทูตด้วย "การประท้วง!" หรือที่ รมว.ต่างประเทศ เรียกว่า การประณามในคราวเดียวกัน ซึ่งการประท้วงรอบนี้...คือ รอบที่ 500 แล้วมั้ย ?!

ถามว่าประท้วงมาตลอด...จะได้อะไรกลับมา? “สีหศักดิ์” ก็ตอบว่า เรายังคงต้องยืนยันที่จะประท้วงต่อไป

ฟังๆ ก็เชื่อแล้วละว่า รัฐบาลชุดนี้ "อ่อนโอน" กับเพื่อนบ้านที่ยังมีท่าที “ปฏิปักษ์” ตลอดเวลา และไม่พูดถึงการยกเลิก MOU 2543-2544 สักแอะ

ความเป็นไปให้ทุกอย่างสงบ...จบที่การเขียนหนังสือประท้วงใส่กระดาษ A4 เหมือนเดิม! แล้วทหารหาญที่เสียขาล่ะ ? ใครจะรับผิดชอบ!?

ความรู้สึกที่ประชาชนคนไทยต้องเห็นมาตรการ "เข้มข้น" กว่านี้ของ “รัฐบาลอนุทิน” ก็คงมีเพียงเท่านี้กระมัง?

ถ้าการระงับปฏิญญาครั้งนี้ ยังไม่ทำให้เขมรออกมา "ขอโทษ" และ "แสดงความรับผิดชอบ" ที่สมเหตุสมผล...การ "ยกระดับ" รอบหน้าของรัฐบาล เชื่อได้ว่า อาจจะหมายถึงการ "ประท้วงรอบที่ 501" ก็เป็นได้ !

สรุป! ทุกอย่างสงบ จบที่กระดาษ เอ4.

พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย ช่วงที่เป็นบอดี้การ์ด ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
++ ไขข้อข้องใจ ทำไมตั้ง “ผกก.หนุ่ย” บอดี้การ์ดชินวัตร นั่ง รอง ผอ.ยุทธศาสตร์ชาติ!

การแต่งตั้งข้าราชการการเมืองจากที่ประชุม คณะรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (11พ.ย.) คงไม่มีรายการใดที่สร้างความฮือฮามากไปกว่า การตั้ง “พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย” หรือ “ผู้กำกับหนุ่ย” ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการ สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (สำนักงาน ป.ย.ป.) ซึ่งเป็นตำแหน่ง “นักบริหารระดับสูง”

ที่ฮือฮาก็เพราะในแวดวงการเมืองรู้กันดีว่า “ผู้กำกับหนุ่ย” นั้นเป็นบอดี้การ์ด ของ “ตระกูลชินวัตร” ที่ผ่านมาแล้วถึง 4นายกฯ ตั้งแต่ “ทักษิณ ชินวัตร-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร- เศรษฐา ทวีสิน-แพทองธาร ชินวัตร”

แล้วด้วยเหตุผลกลใด “รัฐบาลอนุทิน” จึงตั้งตำรวจที่เป็น “บอดี้การ์ด” มาครึ่งค่อนชีวิต ให้มาเป็นนักบริหารระดับสูง ในตำแหน่ง รอง ผอ.ยุทธศาสตร์ชาติ ขับเคลื่อนนโยบายปฏิรูปประเทศ!

“พ.ต.อ.วทัญญู” เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 49 บรรจุครั้งแรก สังกัดตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ก่อนเข้ามาอยู่ทีมอารักขา“ทักษิณ ชินวัตร” ในช่วงปลายรัฐบาล หลังรัฐประหาร 19 ก.ย. 49 ถูกย้ายไปเป็นสารวัตรสืบสวนปราบปรามอาชญากรรม (สว.สป.) สถานีตำรวจภูธรกรงปินัง จ.ยะลา แต่ “พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์” รอง ผบ.ตร. ขณะนั้น นำตัวกลับมาช่วยงาน ดูแล “คุณหญิงอ้อ” พจมาน ดามาพงศ์

ช่วงที่ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เป็นนายกฯ เมื่อปี 2554 “พล.ต.อ.เพรียวพันธ์” เป็น ผบ.ตร. ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งนอกวาระ ให้ขึ้นเป็น รองผู้กำกับการ ในตำแหน่ง ผู้ช่วยนายเวร (สบ 3) กระทั่งวันที่ 14 มิ.ย.56 “พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว” ผบ.ตร. ในขณะนั้น ลงนามคำสั่ง แต่งตั้งให้ขึ้นเป็นผู้กำกับการ ในตำแหน่ง ผู้ช่วยนายเวร (สบ 4) จึงเรียกกันว่า “ผู้กำกับหนุ่ย” ติดปากกันมาตั้งแต่บัดนั้น ถึงวันนี้

“ผู้กำกับหนุ่ย” เคยถูกตั้งกรรมการสอบ ว่าเป็นตำรวจ แต่ทำไมไปเป็นบอดี้การ์ด “ยิ่งลักษณ์” ช่วงที่หลบหนีคดีจำนำข้าว ไปดูฟุตบอลที่รัสเซีย แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ ได้กลับมาเป็น รองผู้บังคับการ ผู้เชี่ยวชาญด้านการข่าว (รอง ผบก.กชข.) กองบัญชาการตำรวจสันติบาล เมื่อปี 2564

ช่วง “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกรัฐมนตรี “ผู้กำกับหนุ่ย” ก็ไม่ได้ไปไหน ยังติดตามเป็นบอดี้การ์ดให้ ต่อเนื่องมาถึงยุค “แพทองธาร ชินวัตร” เขาก็ยังติดตามดูแลอารักขานายกฯอิ๊งค์ กระทั่งได้โอนย้ายจากข้าราชการตำรวจ มาเป็นข้าราชการพลเรือน ในสังกัด สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (สำนักงาน ป.ย.ป.) ขึ้นตรง สำนักนายกรัฐมนตรี

คงจำกันได้ว่า สำนักงาน ป.ย.ป.นี้ ตั้งขึ้นในสมัยรัฐบาล “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อขับเคลื่อนภารกิจของหน่วยงานต่างๆ ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ลุงได้วางโครงร่างเอาไว้

เมื่อหมดยุคลุงตู่ ทาง“เศรษฐา ทวีสิน” ขึ้นมาเป็นนายกฯ ก็ไม่ได้ละทิ้งสำนักงานยุทธศาสตร์ชาติแห่งนี้ เพียงแต่เลี่ยงไปเอาคำว่า “ซอฟต์เพาเวอร์” มาใช้โปรโมตแทน

“เศรษฐา” ได้ตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์เพาเวอร์แห่งชาติ มีตัวเขาเป็นประธานฯ และ “แพทองธาร ชินวัตร” เป็นรองประธานกรรมการ

เมื่อมาถึงยุค “รัฐบาลอนุทิน” การตั้ง “ผู้กำกับหนุ่ย” เป็น รอง ผอ.สำนักขับเคลื่อนนโยบายปฏิรูปประเทศ ภาพที่ออกมา จึงไม่ใช่ภาพของ “ข้าราชการมืออาชีพ” ที่เชียวชาญในด้านการบริหาร หากแต่เป็นภาพของ “คนของฝ่ายการเมือง” ที่เติบโตขึ้นตามเครือข่าย และอิทธิพลมากกว่า

เพียงแต่มีคำถามว่า ภูมิใจไทย กำลัง “เล่นเกมอะไร” เพราะแม้ตำแหน่งจะอยู่ในสำนักนายกรัฐมนตรี แต่บุคคลนี้ก็รู้กันดีว่าเป็น “คนของเพื่อไทย” มาทุกยุค ...และวันนี้ เพื่อไทย กับ ภูมิใจไทย ก็กำลังขบเหลี่ยม ปีนเกลียวกันอยู่

แว่วว่า คำตอบของเรื่องนี้คือ มีสายตรงจาก “ผู้มากบารมี” ถึงนายกฯ ขอให้ช่วยดำเนินการให้หน่อย !


กำลังโหลดความคิดเห็น