ชป.เผยเขื่อนเจ้าพระยายังคงระบายน้ำ 2,700 ลบ.ม./วินาที รับมวลน้ำจากตอนบนต่อเนื่องน้ำทะเลหนุนสูง ส่งผลระบายน้ำลงอ่าวไทยช้ากว่าปกติ เร่งเดินเครื่องสูบ-ผลักดันน้ำ ลดผลกระทบตามสั่ง “รมว.เกษตรฯ”
วันนี้ (8 พฤศจิกายน 2568) กรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากปริมาณฝนสะสมรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบว่า ทางตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ยังมีฝนตกหนัก วัดปริมาณฝนสูงสุดได้ 3 อันดับ ดังนี้ อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ปริมาณฝน 107.6 มิลลิเมตร (มม.) อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ปริมาณฝน 103.6 มม. และ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ปริมาณฝน 103.6 มม. ส่งผลให้ยังคงมีน้ำหลากไหลลงสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง
สถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา เวลา 06.00 น. มีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ อยู่ที่ 2,948 ลบ.ม./วินาที ก่อนไหลสมทบกับน้ำจากแม่น้ำสะแกกรัง โดยได้มีการผันน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกเต็มศักยภาพ ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ +17.51 ม.รทก. และยังคงอัตราการระบายน้ำที่ 2,700 ลบ.ม./วินาที เนื่องจากยังมีปริมาณน้ำจากตอนบนไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่พื้นที่บริเวณลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยายังคงมีน้ำท่วมขังบางจุด และมีระดับน้ำสูงขึ้นในบางช่วง สาเหตุจากในระยะนี้เป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง ทำให้การระบายน้ำลงสู่ทะเลช้ากว่าปกติ
ทั้งนี้ กรมชลประทาน เดินเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเร่งระบายน้ำในหลายพื้นที่ เพื่อลดผลกระทบให้มากที่สุด ตามข้อสั่งการของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์


