“ธรรมนัส - นฤมล“ ลงพื้นที่ปัตตานี ฟังเสียงครูชายแดนใต้ ย้ำครูไม่ใช่เรือรับจ้าง แต่คือผู้หล่อหลอมเยาวชนของชาติ ต้องได้รับการดูแลอย่างมีศักดิ์ศรี
เมื่อวันที่ 8 พ.ย.68 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมคณะ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี ตรวจเยี่ยมการศึกษาในพื้นที่ โดยได้เดินทางไปยังโรงเรียนดรุณศาสน์วิทยา และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี พร้อมด้วยนายพิเชฐ โพธิ์ภักดี เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการจากส่วนกลาง และในพื้นที่จังหวัดปัตตานี เข้าร่วมติดตามและรับฟังปัญหาการศึกษา
โดย ร.อ.ธรรมนัส และ ศ.ดร.นฤมล ได้นำคณะผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน ยืนสงบนิ่งถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จากนั้นได้เป็นประธานมอบทุนการศึกษาแก่ทายาทผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมพูดคุยกับผู้บริหารสถานศึกษา ทั้งในสังกัด สพฐ. โรงเรียนเอกชน และโรงเรียนสอนศาสนา (ปอเนาะ–ตาดีกา) เพื่อรับฟังสภาพปัญหา อุปสรรค และแนวทางการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่ โดยเฉพาะประเด็น “งบอาหารกลางวัน” ที่โรงเรียนเอกชนยังเข้าไม่ถึง
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราคุยกันตลอดว่า ปัญหาของพี่น้องครูโรงเรียนเอกชนในพื้นที่ภาคใต้ที่เกิดขึ้นต้องช่วยกันแก้ โดยเฉพาะเรื่องสวัสดิการครู ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ตนไปที่ไหนก็จะพูดเรื่องนี้เสมอ เพราะการที่เราจะเป็น พ่อคนที่สอง แม่คนที่สอง ของลูกหลานเยาวชน ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของประเทศไทย เราทุกคนคือคนไทย และต้องได้รับการดูแลอย่างดี ถ้าพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติไม่สมบูรณ์ จะให้หล่อหลอมต้นกล้าให้เป็นเยาวชนที่ดี มีคุณภาพ เป็นกำลังสำคัญของประเทศได้อย่างไร การสร้างชาติให้มั่นคงจึงเป็นไปไม่ได้เลย
“ครู ไม่ใช่อาชีพเรือรับจ้าง แต่เป็นอาชีพที่ต้องมีศักดิ์ศรี และต้องได้รับการดูแล ครอบครัวของคุณครูก็เช่นกัน ต้องไม่ประสบปัญหา เพราะถ้าครอบครัวครูมีปัญหา ทั้งเรื่องหนี้สินหรือเรื่องส่วนตัว จะมีแรงใจไปสอนลูกหลานได้อย่างไร เรื่องบ้านพักครูก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องเร่งดำเนินการปรับปรุงให้ดีขึ้น“ร.อ.ธรรมนัส กล่าวย้ำ
ขณะที่ ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า หลายคนยังเข้าใจผิดว่า เด็กโรงเรียนเอกชนคือเด็กมีฐานะ ทั้งที่ความจริงไม่ใช่ โรงเรียนเอกชนการกุศลและโรงเรียนศาสนาหลายแห่งมีเด็กยากจนจำนวนมาก จึงควรได้รับสิทธิ์อาหารกลางวันเช่นเดียวกับโรงเรียนของรัฐ เพราะหลักการคือเด็กทุกคนต้องเข้าถึงอาหารกลางวันอย่างเท่าเทียม ซึ่งจากข้อมูลพบว่า เด็กในพื้นที่ชายแดนใต้จำนวนมากไม่ได้รับประทานอาหารเช้า ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญต่อพัฒนาการและสติปัญญาของเด็ก ซึ่งกระทรวงจะพิจารณาแนวทางให้เด็กในพื้นที่ได้เข้าถึงโภชนาการครบถ้วน
ในส่วนของบ้านพักครู ศ.ดร.นฤมล เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมนำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่ออนุมัติหลักการพัฒนาบ้านพักครูทั่วประเทศ โดยจะให้การเคหะแห่งชาติเข้ามาช่วยดำเนินการสร้างและปรับปรุง ซึ่งจังหวัดปัตตานีจะถูกบรรจุเป็นจังหวัดนำร่องเพิ่มเติมหลังจากดำเนินการใน 8 จังหวัดแรกแล้ว นอกจากนี้ยังมีการหารือเรื่องการจัดสรรงบประมาณด้านเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนในพื้นที่ รวมถึงแนวทางสนับสนุนโรงเรียนขนาดเล็กให้มีที่พักนอนเพียงพอสำหรับนักเรียน
จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส และศ.ดร.นฤมล และคณะ เดินทางต่อไปยังหอประชุมใหญ่คณะวิทยาการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี เพื่อเยี่ยมชมนิทรรศการด้านการศึกษา และกิจกรรม Fix it Center ของสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้แก่ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอกะพ้อ อำเภอปานาเระ ศูนย์ฝึกอบรมวิชาชีพอำเภอยะรัง อำเภอมายอ และอำเภอแม่ลาน สาขาวิทยาลัยอาชีวศึกษาปัตตานี


