xs
xsm
sm
md
lg

นักวิชาการ ม.รังสิต วิเคราะห์ “รัฐบาลอนุทิน” เดินเกมเศรษฐกิจได้ผลจริง เน้นขยายกำลังซื้อจากฐานราก สร้างความมั่นใจให้ประเทศเดินหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้(7 พ.ย.)ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ความเห็นต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาลภายใต้การนำของ นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่า เป็นรัฐบาลที่เลือกใช้แนวทางที่ทำได้ง่ายที่สุด เน้นผลลัพธ์ที่ประชาชนสัมผัสได้จริงในชีวิตประจำวัน และขับเคลื่อนผ่านนโยบายที่สอดประสานกันทั้งระบบ

ผศ.ดร.วันวิชิต กล่าวว่ารัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรียกว่าเศรษฐกิจชีวิตประจำวัน(Everyday Economy) หรือเศรษฐกิจที่สะท้อนออกมาในตลาดสด ร้านขายของชำ ร้านกาแฟ และชีวิตของคนทำงานรายวัน มากกว่าเน้นตัวเลขการเติบโตในเอกสารรายงาน เพราะหัวใจของการฟื้นเศรษฐกิจไทยในเวลานี้คือ การสร้างความเชื่อมั่นของผู้คน และ การหมุนเวียนของเม็ดเงินในระดับฐานราก

“สิ่งที่รัฐบาลนี้ทำได้ดีคือการคืนชีวิตให้ตลาด คืนแรงให้ชุมชน และคืนกำลังใจให้ประชาชน ผ่านโครงการคนละครึ่งพลัสและการสนับสนุนการท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรอง” ผศ.ดร.วันวิชิต กล่าว

หนึ่งในนโยบายที่สะท้อนแนวคิดดังกล่าวได้ชัดคือ “คนละครึ่งพลัส” ที่เริ่มดำเนินการในเดือนพฤศจิกายน 2568 ต่อเนื่องถึงสิ้นปี โดยรัฐบาลสนับสนุนวงเงินให้ประชาชนใช้จ่ายผ่านแอป “เป๋าตัง” เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพและกระตุ้นการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในชุมชน โดยรัฐร่วมจ่ายไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อวัน

โครงการนี้ไม่เพียงเพิ่มอำนาจซื้อ แต่ยังสร้าง “ความรู้สึกมั่นใจ” ในระบบเศรษฐกิจ เพราะเมื่อคนเริ่มจับจ่าย ร้านค้าก็เริ่มมีรายได้ และภาคบริการโดยรอบก็ฟื้นตัวตามมา ผศ.ดร.วันวิชิตระบุว่า นี่คือ การออกแบบนโยบายด้วยมุมมองมนุษย์ ที่ไม่ได้มุ่งผลเชิงสถิติเท่านั้น แต่คำนึงถึงจิตวิทยาทางสังคมและพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างแท้จริง

“ต่างจากบางช่วงเวลาที่ตัวเลขเศรษฐกิจดูดี แต่บรรยากาศในตลาดกลับเงียบเหงา รัฐบาลอนุทินเลือกทำในสิ่งที่ประชาชนรู้สึกได้จริง และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เกิดพลังทางเศรษฐกิจ” ผศ.ดร.วันวิชิต กล่าวเสริม

นอกจาก “คนละครึ่งพลัส” รัฐบาลยังเดินหน้านโยบายอื่นควบคู่กัน เพื่อสร้างระบบฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น มาตรการแก้หนี้รายย่อยผ่านกลไก AMC ที่เปิดทางให้ลูกหนี้รายย่อยสามารถปรับโครงสร้างหนี้ และกลับมามีเครดิตในระบบได้อีกครั้ง

มาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวเมืองรอง 1.5 เท่า ที่กระตุ้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศและกระจายรายได้สู่ชุมชน

โครงการพลังงานชุมชน ที่ส่งเสริมให้ท้องถิ่นสามารถผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้เอง เพื่อสร้างรายได้ยั่งยืนและลดภาระค่าใช้จ่ายครัวเรือน

ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวทางบริหารที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังเพราะเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ครอบคลุมทั้งผู้บริโภค ผู้ประกอบการ และภาคชุมชนในเวลาเดียวกัน

“รัฐบาลอนุทินทำงานแบบบูรณาการ เชื่อมโยงนโยบายระหว่างกระทรวง ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจเดินหน้าไปพร้อมกันทั้งระบบ ผลลัพธ์จึงเห็นได้จริงตั้งแต่ฐานล่างไปถึงโครงสร้างใหญ่ของประเทศ วันนี้ เศรษฐกิจไม่ได้ฟื้นเพราะตัวเลขเพียงอย่างเดียว แต่ฟื้นเพราะประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลกำลังพาเขาไปข้างหน้า และรัฐบาลชุดนี้สามารถทำให้ความรู้สึกนั้นกลับมาได้จริง” ผศ.ดร.วันวิชิต กล่าวทิ้งท้าย

นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยรังสิตยังมองว่า การเดินเกมเศรษฐกิจของรัฐบาลอนุทินเป็นตัวอย่างของการบริหารที่มีทิศทาง คือชัดเจนว่าจะพาเศรษฐกิจไทยออกจากภาวะชะลอตัวอย่างไร และจะทำให้คนไทยทุกกลุ่มรู้สึกมีส่วนร่วมในความเปลี่ยนแปลงนั้น รัฐบาลนี้ไม่ได้มองเพียงอัตราการเติบโต แต่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของการเติบโต และนั่นคือสิ่งที่ทำให้บรรยากาศทางเศรษฐกิจของไทยเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น