xs
xsm
sm
md
lg

"กัน" แจง กมธ. ทหาร-ตร.ขออนุเคราะห์ช่วยชายแดน "ไอซ์" ขอเอกสาร ทบ.ปัดขาดแคลน แต่แสดงน้ำใจได้ ไม่มีนโยบายรับเงินบริจาค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“กัน จอมพลัง” แจง กมธ.ทหาร ยันมีทั้งทหาร-ตร.ร่วมขอความอนุเคราะห์ช่วยชายแดนเพื่อความรวดเร็วในสถานการณ์วิกฤต “ไอซ์” ขอเอกสารทั้งหมด ตรวจความโปร่งใส ย้ำไม่กระทบทหารชั้นผู้น้อย โฆษก ทบ.ยันไม่ขาดแคลนยุทโธปกรณ์ หน่วยงานภายนอกแสดงน้ำใจได้ แต่ไม่มีนโยบายรับเงินบริจาค หากฉ้อโกงให้ดำเนินคดี


วันที่ (30 ตุลาคม 2568) เมื่อเวลา 16.30 น. ที่รัฐสภาา คณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เรียกกองทัพ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลังมาชี้แจงข้อเท็จจริงการบริหารทรัพยากรของกองทัพในเหตุการณ์ความขัดแย้งชายแดน ไทย-กัมพูชา หลังมูลนิธิ กัน จอมพลัง ลงไปช่วยและรับบริจาคสิ่งของ จนถูกตั้งคำถามถึงงบประมาณของกองทัพ แต่พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก และนายกัน จอมพลัง ขอเข้าร่วมประชุมทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ แล้ววันนี้กรรมาธิการยังเชิญนางสาวรักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคประชาชน เข้าร่วมซักถามด้วย

โดยระหว่างรอการประชุม นางสาวรักชนก ได้สอบถามฝ่ายเลขา ต้องการเอกสารชี้แจ้งจากกองทัพและอยากขอดู statement ของมูลนิธิการจอมพลัง รวมไปถึงใบเสร็จการใช้จ่ายต่างๆ ว่า เงินบริจาคดังกล่าว ถูกนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์หรือไม่ เช่น การซื้อยางรถยนต์ ที่มีเอกสารปลอมหลุดออกมาก่อนหน้านี้

จากนั้นเวลา 16.28 น. กัน จอมพลัง เข้าสู่ห้องประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยขอใช้เวลาชี้แจงเพียง 20 นาที เนื่องจากติดภารกิจขายสินค้า โดยประธานกรรมาธิการ เริ่มตั้งคำถาม ว่า อยากเห็นหนังสือการขอความอนุเคราะห์ทั้งหมดจากกองทัพ มีหน่วยงานไหนบ้างและขออะไรบ้าง ทำให้ กัน จอมพลัง โชว์หนังสือขอความอนุเคราะห์ ก่อนจะอ่านเนื้อหาให้ฟัง ความว่า หน่วยงานมีความต้องการเงินไปซื้อของใช้ จากบริษัทหนึ่ง(มีการระบุชื่อบริษัทมาเลย) จึงมาขอความอนุเคราะห์ เงินจากมูลนิธิ เพื่อไปซื้อของที่ต้องการใช้ อาทิ แผ่นเกาะแข็งป้องกันกระสุนระดับ 4 จำนวน 250 แผ่น จากนั้นมูลนิธิก็โอนเงินไปที่บริษัทดังกล่าวเลย โดยไม่ได้ผ่านหน่วยงาน ส่วนการส่งมอบสินค้า บริษัทก็ส่งให้หน่วยงานเลย ส่วนตัวจะไปร่วมถ่ายรูปตอนส่งมอบบ้างบางครั้ง

ทั้งนี้ กัน จอมพลัง ไม่ขอระบุว่า มีหน่วยงานใดบ้าง และใครเป็นคนเซ็น เนื่องจากกังวลว่าผู้ขอความอนุเคราะห์จะได้รับผลกระทบ แต่ที่ผ่านมามีทั้งทหารและตำรวจที่ขอความอนุเคราะห์มา

ทำให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร กรรมาธิการได้แสดงความคิดเห็นว่า เรื่องนี้ควรตั้งคำถามกับกองทัพ ที่ไปขอความอนุเคราะห์ยุทธภัณฑ์ที่เป็นเกรดทำสงครามกับมูลนิธิต่างๆ เพราะในช่วงเวลาแบบนี้กลไกของมูลนิธิเกิดขึ้นได้ แต่กรณีนี้มองว่า เป็นประเด็นของกองทัพที่ไปขอรับบริจาคยุทธภัณฑ์ จากเอกชนได้อย่างไร


ส่วนนางสาวรักชนก กล่าวเสริมอยากให้ กัน จอมพลัง ส่งหนังสือขอความอนุเคราะห์ มาให้กรรมาธิการทุกฉบับ เพื่อปกป้องตัวเอง

กัน จอมพลัง ยังชี้แจง เรื่องการเข้าพื้นที่กฎอัยการศึก ว่า การเข้าไป ไม่ได้เข้าไปสร้างปัญหา แต่ไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ถือเป็นการร่วมแรงร่วมใจในการทำงาน ในเวลาที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งการเข้าไปในพื้นที่ตรงนั้นไม่ได้มีแค่ตนเอง มีชาวบ้านมีพระ และยังมีการขอความอนุเคราะห์ในเรื่องอื่นๆ ที่ขอมาทางไลน์ โดยไม่ได้ทำหนังสืออีก

" อย่าง Notebook ในการกดกระสุนปืนใหญ่ ที่ทหารชั้นผู้น้อยมีความจำเป็นเร่งด่วน เข้าใจว่ากองทัพมีเงินอยู่แล้ว แต่ในความรวดเร็วไม่รู้ว่าจะเร็วได้มากน้อยแค่ไหน ขอมาปุ๊บก็จัดให้ ซึ่งเป็นการช่วยทหารได้และทำให้ทุกคนปลอดภัย มูลนิธิก็ปฏิบัติภารกิจหน้างาน เร่งดำเนินก่ารให้เชื่อว่ากองทัพมีตังค์มีศักยภาพในการทำอยู่แล้ว แต่ถ้าความรวดเร็วและขั้นตอน ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไร แต่สำหรับมูลนิธิทำได้เลย จึงถือว่าเป็นการทำงานร่วมกันมูลนิธิจัดหาให้ทหารก็มาลงแรง ในสถานการณ์วิกฤต"

สุดท้ายทางกรรมาธิการได้ขอเอกสารขอความอนุเคราะห์ทุกอย่าง โดยยืนยันว่า ไม่ต้องกังวลว่าทหารชั้นผู้น้อยที่ขอมาจะได้รับผลกระทบ ยืนยันว่า เป้าประสงค์เพียงแค่ต้องการปรับปรุงการทำงานของกองทัพ

จากนั้น กรรมาธิการได้สอบถามโฆษกกองทัพบก ว่า ได้ขอรับบริจาคอะไรไปบ้าง รวมไปถึงการจัดการพื้นที่ในเชิงนโยบาย โดยพลตรีวินธัยกล่าวว่า ของที่ได้รับการสนับสนุนเข้ามามี 2 ลักษณะ คือ 1. เพื่อต้องการช่วยเหลือกำลังพล 2.ต้องการช่วยเหลือชีวิตความเป็นอยู่ของคนแนวหน้า ซึ่งการบริจาคจะไม่ขอเป็นเงิน เพราะมีความยุ่งยากทางกฎหมาย แต่ถ้ายืนยันจะให้เงิน เพื่อส่งต่อไปให้ทหารที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทางกองทัพ ก็สามารถเป็นสะพานเชื่อมต่อให้

ส่วนเรื่องบริจาคยุทธภัณฑ์ ยืนยันไม่ทราบ ว่ามีการบริจาคเข้ามาด้วย เพราะเป็นเรื่องทางเทคนิคและราคาสูง แต่ที่ผ่านมากองทัพ ก็ไม่ได้ห้ามบริจาค เพราะสุดท้ายแล้ว ไม่ได้ขึ้นอยู่กับของบริจาค แต่คือกำลังใจ ว่า ยังมีคนนึกถึง

"ผมพึ่งรู้วันนี้ กันจัดหาของที่สูงกว่ามาตรฐาน ที่กองทัพทั่วไปใช้ คือ ระดับ 4 ซึ่งในระดับ 4 เป็นสเปคที่สูง"

กรรมาธิการได้ถามต่อว่า กองทัพได้มีการรับบริจาค ถุงเท้า รองเท้า น้ำ หรือไม่ และที่ผ่านมาเคยบอกว่า ไม่ได้ขาดแคลน เหตุใดจึงรับบริจาคสิ่งของจำนวนมาก พลตรีวินธัย ชี้แจงว่า สำหรับกองทัพบกไม่มี แต่สำหรับหน่วยงานที่ปฏิบัติอยู่หน้างานมี ส่วนสิ่งก่อสร้าง ที่มูลนิธิต่างๆไปทำให้ หน่วยงานก็ไม่ได้เอากลับก็ตั้งอยู่ที่เดิม

"ตามนโยบายไม่มีการรับบริจาค และพยายามบริหารงบประมาณให้ไปได้ แต่ก็มีหน่วยงานภายนอกที่แสดงน้ำใจ จึงได้รับไว้ ส่วนของที่บริจาคมา ก็เอาไปใช้ แต่อาจจะใช้ฟุ่มเฟือยหน่อย แต่ยืนยันว่าไม่ได้ขาดแคลน ส่วนเรื่อง เงินบริจาคไม่มีนโยบายแน่นอน หากเห็นว่าเป็นการฉ้อโกงให้แจ้งความดำเนินคดีได้เลย"

พลตรีวินธัย ยังชี้แจงเรื่องแผ่นเกาะแข็งป้องกันกระสุนระดับ 4 ที่ กัน จอมพลัง บริจาค ว่า ยืนยัน ไม่ได้รับรายงานเรื่องการขอชุดเกราะ เห็นจากสื่อ และจากคลิปที่มีการทดสอบ ก็ไม่ใช่การทดสอบของกองทัพ สมมุติว่าสิ่งที่" กัน จอมพลัง" ให้มาแล้วเกิดการใช้จริง อาจจะมีการทดสอบแล้วก็ได้ แต่กองทัพไม่อยากให้ใช้คำว่าขาดแคลน เพราะไม่เคยพูดว่าขาดแคลน เสื้อเกาะอยู่ประจำการพลรบทุกคน เพียงแต่ใส่บ้างไม่ใส่บ้าง และหากมีการขอเสื้อเกราะเพิ่มจริง ก็เป็นการเพิ่มเสื้อจากตัวเดียวเป็น 2 ตัว


กำลังโหลดความคิดเห็น